ไทยมี vat มาตั้ง 30+ ปี ตั้งแต่ปี '92 การเก็บ VAT ทำ by category มาตลอด ทั้ง 7%, 0%, และ no VAT (ไม่เหมือน 0% นะ)
ตอนนี้ไทยมีหนี้สาธารณะมากขึ้นๆ (เพราะเอาเงินมาแจกเยอะแยะ) แต่ VAT ยังถูกกดที่ 7% ทั้งๆที่ควรเป็น 10% แต่แรก รายได้เข้าคลังก็ไม่พอ
ยิ่งเรามี FTA มากขึ้น รายได้จากภาษีนำเข้าก็น้อยลงด้วย งบประมาณก็มีแต่เพิ่ม
ทางแก้ที่จะช่วยได้ก็ ปล่อย VAT เป็น 10% (ตามกฎหมายภาษี VAT) ตามประเภทธุรกิจ เช่น
๐ โรงแรม, ที่พัก ลูกค้าส่วนใหญ่ก็นักท่องเที่ยวต่างชาติ (เมืองนอก VAT หรือ GST ก็ 10+% ทั้งนั้น) คนไทยที่เดินทางเที่ยวในประเทศก็น่าจะจ่ายไหว เพราะไม่ต้องใช้ทุกวัน
๐ ซื้อรถยนต์ (รวมรถไฟฟ้าด้วย), จักรยานยนต์
๐ บริการต่างๆ เช่น ค่า broker (ซื้อขายหุ้น), ค่าธรรมเนียมธนาคาร, เบี้ยประกันภัย, ประกันชีวิต
๐ ร้านอาหารต่างๆ (เพิ่ม 3% ยังน้อยกว่า GP ที่โดน food delivery)
๐ ตั๋วเครื่องบิน
๐ ..... เยอะแยะ
ส่วนพวกอุปโภค, บริโภคทั่วไป (สบู่, ผงซักฟอก, ยาสีฟัน, .....) ก็เก็บ 7% เหมือนเดิม
สมมุติว่า เพิ่มจาก 7% -> 10% แค่ครึ่งหนึ่ง ก็จะมีรายได้ภาษี vat รวมเพิ่ม 20% เพิ่มรายได้รัฐหลายแสนล้านบาท
ท่านนายกปล่อย VAT เป็น 10% ปีหน้าเลย (เลือก by category) ไม่กระทบหรอก
ตอนนี้ไทยมีหนี้สาธารณะมากขึ้นๆ (เพราะเอาเงินมาแจกเยอะแยะ) แต่ VAT ยังถูกกดที่ 7% ทั้งๆที่ควรเป็น 10% แต่แรก รายได้เข้าคลังก็ไม่พอ
ยิ่งเรามี FTA มากขึ้น รายได้จากภาษีนำเข้าก็น้อยลงด้วย งบประมาณก็มีแต่เพิ่ม
ทางแก้ที่จะช่วยได้ก็ ปล่อย VAT เป็น 10% (ตามกฎหมายภาษี VAT) ตามประเภทธุรกิจ เช่น
๐ โรงแรม, ที่พัก ลูกค้าส่วนใหญ่ก็นักท่องเที่ยวต่างชาติ (เมืองนอก VAT หรือ GST ก็ 10+% ทั้งนั้น) คนไทยที่เดินทางเที่ยวในประเทศก็น่าจะจ่ายไหว เพราะไม่ต้องใช้ทุกวัน
๐ ซื้อรถยนต์ (รวมรถไฟฟ้าด้วย), จักรยานยนต์
๐ บริการต่างๆ เช่น ค่า broker (ซื้อขายหุ้น), ค่าธรรมเนียมธนาคาร, เบี้ยประกันภัย, ประกันชีวิต
๐ ร้านอาหารต่างๆ (เพิ่ม 3% ยังน้อยกว่า GP ที่โดน food delivery)
๐ ตั๋วเครื่องบิน
๐ ..... เยอะแยะ
ส่วนพวกอุปโภค, บริโภคทั่วไป (สบู่, ผงซักฟอก, ยาสีฟัน, .....) ก็เก็บ 7% เหมือนเดิม
สมมุติว่า เพิ่มจาก 7% -> 10% แค่ครึ่งหนึ่ง ก็จะมีรายได้ภาษี vat รวมเพิ่ม 20% เพิ่มรายได้รัฐหลายแสนล้านบาท