Irishman: หนังยาวชวนง่วง แต่แฝงความจริงอันโหดร้ายของชีวิตมาเฟีย


TITLE: Irishman: หนังยาวชวนง่วง แต่แฝงความจริงอันโหดร้ายของชีวิตมาเฟีย

สวัสดีครับชาว Pantip ทุกท่าน วันนี้ผมมีเรื่องจะมารีวิวให้ฟังกันอีกแล้วครับ เรื่องที่ว่านี่ก็คือ "The Irishman" ของผู้กำกับระดับตำนานอย่าง Martin Scorsese นั่นเองครับ เป็นหนังที่ผมตั้งตารอมานานมาก เพราะได้นักแสดงระดับเทพมารวมตัวกันครบทีม ไม่ว่าจะเป็น Robert De Niro, Al Pacino, และ Joe Pesci ถึงแม้ว่าแต่ละท่านจะอายุอานามก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว แต่ฝีมือการแสดงนี่บอกเลยว่ายังคงจัดจ้านเหมือนเดิมครับ

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า "The Irishman" เป็นหนังที่ยาวมากครับ ยาวแบบยาวจริงๆ เกือบ 3 ชั่วโมงครึ่ง ใครที่ใจไม่ถึงอาจจะหลับกลางทางได้เลยนะ (ผมเองก็มีเผลอหาวไปบ้างเหมือนกันครับ ฮ่าๆ) ตัวหนังเล่าเรื่องราวชีวิตของ Frank Sheeran ชายหนุ่มที่ผันตัวเองเข้าสู่วงการมาเฟีย จนกลายเป็นคนสนิทของหัวหน้าแก๊งค์ Bufalino และมีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์หลายๆ อย่างที่เกี่ยวข้องกับวงการอาชญากรรมในอเมริกาช่วงกลางศตวรรษที่ 20

สิ่งที่ผมชอบมากๆ ในหนังเรื่องนี้คือการที่ Scorsese เลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวในมุมมองของตัวละครหลักอย่าง Frank Sheeran ครับ เราจะได้เห็นการเติบโต การตัดสินใจ และผลลัพธ์ของการกระทำของเขาตลอดชีวิต ซึ่งมันไม่ใช่การเล่าเรื่องแบบฮีโร่ หรือแบบเท่ๆ แบบหนังมาเฟียทั่วไปนะครับ แต่มันคือการเล่าเรื่องของชีวิตจริงของคนที่เลือกเส้นทางนี้ ซึ่งในความเป็นจริงมันเต็มไปด้วยความโหดร้าย การหักหลัง และความสูญเสีย

ฉากที่ผมประทับใจเป็นพิเศษคือตอนที่ Frank ต้องตัดสินใจทำเรื่องที่ยากลำบากมากๆ เพื่อรักษาตำแหน่งและอิทธิพลของตัวเองในวงการ มันไม่ใช่แค่การใช้อาวุธ หรือการสั่งฆ่า แต่เป็นการตัดสินใจที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยเฉพาะกับลูกสาวของเขาเอง ซึ่งตรงนี้แหละครับที่ทำให้ผมรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มันไม่ใช่แค่หนังแอ็คชั่น หรือหนังอาชญากรรมธรรมดา แต่มันคือหนังดราม่าชีวิตที่เข้มข้นมากๆ

การแสดงของนักแสดงทุกท่านนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ Robert De Niro ยังคงเป็น Frank Sheeran ที่มีมิติ น่าเชื่อถือ และน่าสงสารในเวลาเดียวกัน Al Pacino ในบท Jimmy Hoffa ก็จัดเต็มมากๆ ครับ เป็นบทที่ต้องใช้พลังเยอะ แต่แกก็เอาอยู่ ส่วน Joe Pesci ที่กลับมารับบทอีกครั้งหลังจากหายไปนาน ก็ยังคงความเก๋า ความโหด และความขี้เล่นในแบบของแกไว้ได้ครบถ้วน การแสดงของทั้งสามท่านนี้คือจุดที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีชีวิตชีวาขึ้นมาได้จริงๆ ครับ

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือเทคนิคพิเศษที่ใช้ในการทำให้ตัวละครดูหนุ่มขึ้นในช่วงต้นเรื่อง ซึ่งผมยอมรับว่าตอนแรกแอบรู้สึกแปลกๆ นิดหน่อยครับ แต่พอดูไปเรื่อยๆ ก็เริ่มชินและอินไปกับเรื่องราวมากขึ้น ผมว่ามันเป็นความพยายามที่น่าชื่นชมของทีมงานนะ ที่อยากจะเล่าเรื่องราวของตัวละครตั้งแต่หนุ่มจนแก่จริงๆ

แต่ถึงแม้จะมีข้อดีเยอะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าด้วยความยาวของหนัง บวกกับจังหวะการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างเนิบๆ ในบางช่วง ทำให้บางทีคนดูอาจจะรู้สึกเบื่อ หรือหลุดโฟกัสไปได้เหมือนกันครับ หนังไม่ได้มีฉากแอ็คชั่นหวือหวา หรือหักมุมแบบที่เราเห็นกันในหนังมาเฟียเรื่องอื่นๆ แต่มันจะเน้นไปที่การพัฒนาตัวละคร และการสำรวจจิตใจของพวกเขามากกว่า

โดยรวมแล้ว "The Irishman" เป็นหนังที่ผมว่าเหมาะสำหรับคนที่ชอบเสพหนังที่มีเนื้อหาหนักๆ มีการแสดงที่ทรงพลัง และอยากจะเข้าใจชีวิตของคนที่อยู่ในวงการมาเฟียอย่างลึกซึ้งครับ มันไม่ใช่หนังที่จะดูเพื่อความบันเทิงแบบผ่อนคลาย แต่เป็นหนังที่ดูแล้วต้องคิดตาม ต้องรู้สึกตามไปกับตัวละคร

ถ้าใครเป็นแฟนของ Scorsese หรือนักแสดงหลักทั้งสามท่าน ผมแนะนำว่าไม่ควรพลาดครับ แต่ถ้าใครไม่เคยดูหนังแนวนี้มาก่อน หรือไม่ชอบหนังที่ยาวมากๆ อาจจะต้องพิจารณาดูอีกทีครับ แต่สำหรับผม ถือว่าเป็นประสบการณ์การดูหนังที่คุ้มค่ามากๆ ครับ ถึงจะยาวไปหน่อยก็ตาม

ผมให้คะแนนหนังเรื่องนี้ 8/10 ครับ หักไป 2 คะแนนเพราะความยาวที่อาจจะทำให้บางคนท้อไปเสียก่อน แต่โดยรวมแล้วเป็นหนังที่ยอดเยี่ยมมากๆ ครับ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ ถ้าใครได้ดูแล้ว มาแชร์ความเห็นกันได้เลยนะครับ ผมอยากฟังความคิดเห็นของทุกคนเหมือนกันครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่