“ไหม” ชี้ “อนุทิน” ต้องยอมรับว่าเดินหมากพลาด หลังสหรัฐฯ ระงับเจรจาการค้ากับไทย
.
.
“ศิริกัญญา” บอก “เท้ง ณัฐพงษ์” เตือนนายกฯ แล้ว เรื่องชายแดนให้ใช้ โลกล้อมกัมพูชา หลังสหรัฐฯ ประกาศระงับการเจรจาการค้ากับไทย ลั่น “อนุทิน” ต้องยอมรับว่าเดินหมากพลาด ที่แสดงท่าทีที่แข็งกร้าว
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 เมื่อเวลา 18.20 น. น.ส.
ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคปชน. โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า ย้ำอีกครั้ง หากนายกฯ เอาผลประโยชน์ประเทศเป็นตัวตั้ง เราจะไม่เดินมาถึงจุดนี้ นี่คือสิ่งที่นาย
ณัฐพงษ์ หัวหน้าพรรคปชน.ได้เตือนไว้ล่วงหน้า ให้ประเทศไทย จะเป็นฝ่ายแจ้งสหรัฐอเมริกา และมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนก่อน ถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าเป็นทุนระเบิดใหม่ที่เพิ่งถูกวาง และเรียกร้องให้พิจารณาตัดการสนับสนุนทางการทหารและเศรษฐกิจต่อกัมพูชา ใช้โลกล้อมกัมพูชา เพื่อจบปัญหาสแกมเมอร์อันเป็นภัยต่อประชาชนทั้งโลก รวมถึงจีนและสหรัฐอเมริกา โดยการให้ความร่วมมือกับนานาชาติผ่านการตั้งผู้แทนพิเศษ แลกเปลี่ยนข้อมูลหลักฐาน เดินหน้าอายัดทรัพย์และสืบเส้นทางการเงินเครือข่ายสแกมเมอร์ในไทย แต่นายกฯ กลับประกาศ ระงับปฏิญญาสันติภาพ จนเป็นเหตุให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศระงับการเจรจาการค้ากับไทย เป็นการตอบโต้ ทั้งๆ ที่เพิ่งมีการต่อสายคุยกันของผู้นำ 2 ประเทศ ที่นายอนุทินยังเอามาเล่าว่า ขอลดอัตราภาษีอยู่เลย เหมือนจับอารมณ์ของทรัมป์ไม่ได้เลยว่ากำลังจะระงับการเจรจา ในขณะที่ฝ่ายกัมพูชาไม่ถูกเล่นงานอะไรเลย ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายก่อเหตุ และยังคงเล่นบทเหยื่อและสร้างภาพว่าประเทศไทยกำลังรังแกประเทศที่ด้อยกว่า
น.ส.
ศิริกัญญา โพสต์ว่า การเจรจาการค้าที่ควรจะต้องจบลงภายในปีนี้ ทำท่าว่าจะยืดเยื้อไปอีก เพราะสหรัฐเองมักจะใช้เหตุด้านการเมืองอื่นๆ มาใช้กดดันแต่ละประเทศในการเจรจาอยู่แล้ว ไม่อยากจะนึกถึงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาหากทรัมป์เกิดประกาศอัตราภาษีใหม่ที่สูงกว่าเดิม ถามว่าแล้วเราต้องแคร์มั้ย ถ้าไม่แคร์คงไม่ไปเซ็นปฏิญญานี้โดยทรัมป์มาเป็นพยานตั้งแต่แรก ความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับทหารไทยไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เกมนี้มีวิธีเล่นได้หลายรูปแบบที่จะทำให้เราถือไพ่เหนือกว่า ถ้าเรายึดผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก มากกว่าการรักษาคะแนนความนิยมของตัวเองโดยการโหนกระแสชาตินิยม
.
.
.
เท้ง ลุยน้ำท่วมปทุมธานี แนะรบ.ทบทวนจัดการน้ำ ย้ำ เงินเยียวยาต้องเป็นธรรม ไม่ใช่เหมาจ่าย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5458475
.
เท้ง ลุยน้ำท่วมปทุมธานี แนะรัฐบาลทบทวนแนวบริหารจัดการน้ำ พร้อมย้ำเงินเยียวยาต้องเป็นธรรมตามระยะเวลาที่น้ำท่วม ไม่ใช่เหมาจ่าย 9,000 บาท
.
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย ส.ส.ปทุมธานี พรรคประชาชน และ มนต์พิพัฒน์ เอี่ยมจรัส นายกเทศบาลเมืองบางคูวัด เข้าพื้นที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอุทกภัย จากการที่รัฐระบายน้ำในระดับสูง และเปลี่ยนแนวทางการบริหารจัดการน้ำ จากเดิมที่เปิดรับน้ำเข้าทุ่งทั้ง 10 ตอนล่างตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน มาเป็นการใช้น้ำเข้าทุ่งเป็นทางเลือกสุดท้าย ทำให้พื้นที่นอกคันกั้นน้ำในลุ่มเจ้าพระยาและท่าจีนต้องเผชิญน้ำท่วมยาวนานกว่า 4 เดือน
.
โดยช่วงเช้า นายณัฐพงษ์พร้อม ส.ส.เดินทางไปยังวัดสวนมะม่วงและวัดป่างิ้ว ประชาชนในพื้นที่ได้สะท้อนถึงความยากลำบากในการดำรงชีวิต ด้วยสภาพพื้นที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำ ซึ่งมีการสัญจรของเรือทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กด้วยความเร็ว ทำให้น้ำซัดเข้ามาสร้างความเสียหายเพิ่มอีก
.
นอกจากนี้ประชาชนยังสะท้อนเรื่องเงินเยียวยา ที่ไม่ว่าจะท่วมนานแค่ไหนหรือหนักแค่ไหน ก็จะคงที่อยู่ที่ 9,000 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งไม่เพียงพอที่จะเยียวยาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบมาตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา โดยเกือบทุกคนเห็นด้วยหากจะมีการปรับหลักเกณฑ์การจ่ายให้สอดคล้องกับระยะเวลาที่ได้รับผลกระทบ
.
โดยขณะนี้เทศบาลเมืองบางคูวัดได้ดำเนินการสำรวจข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบทุกหลังคาเรือน โดยมีการส่งมอบข้าวกล่องทุกวันจนกว่าน้ำจะลด พร้อมถุงยังชีพและสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น รวมถึงทำสะพานไม้เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถสัญจรได้ และเทศบาลยังได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน 24 ชั่วโมง ส่วนในระยะยาว เทศบาลได้เตรียมโครงการป้องกันน้ำท่วมชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาสำหรับปี 2570 ระยะ 1.5 กม. ไว้ ซึ่งผ่านประชาคมได้รับความเห็นชอบจากประชาชนในพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
.
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า พรรคประชาชนได้เสนอ 5 ข้อให้รัฐบาลทบทวนแนวทางบริหารจัดการน้ำในการป้องกันน้ำท่วมที่หนักและยาวนาน การช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัย และการลดความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมหนักและยาวนานเช่นนี้อีก ไม่ว่าจะเป็น
.
1. ทบทวนแนวทาง “ท่วมในทางก่อนท่วมในทุ่ง” พร้อมลดปริมาณน้ำสูงสุดและเพิ่มการแจ้งเตือนล่วงหน้า
2. ปรับเกณฑ์การเยียวยาให้สะท้อนระยะเวลาน้ำท่วมที่แตกต่างกัน ไม่ใช่แบบเหมาจ่าย 9,000 บาท
3. ยกระดับมาตรฐานการดูแลผู้ประสบภัยและศูนย์พักพิง
4. วางแผนฟื้นฟูและยกระดับชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำทั้งระยะสั้น-ระยะยาว
5. ทบทวนความเป็นไปได้ของโครงการป้องกันน้ำท่วมขนาดใหญ่ที่ล่าช้าจากแผน เพื่อให้การลงทุนและการป้องกันน้ำท่วมมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตอบโจทย์ประชาชนมากที่สุด
.
หัวหน้าพรรคประชาชนกล่าวด้วยว่า ในวันที่พรรคประชาชนยังไม่ได้เป็นรัฐบาล ยังไม่สามารถเข้าไปบริหารจัดการน้ำทั้งระบบได้ สิ่งที่พรรคประชาชนได้ทำในวันนี้คือการจัดการผ่านกลไกในท้องถิ่น เช่น ในพื้นที่เทศบาลเมืองบางคูวัด ที่มีนายกเทศบาลจากพรรคประชาชนเข้ามาบริหาร ก็ได้ดำเนินการดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่
.
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ตนขอส่งกำลังใจให้พี่น้องทุกคนที่กำลังเผชิญน้ำท่วมยาวนาน การหยุดวงจรน้ำท่วมซ้ำซากจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ โดยต้องทำอย่างต่อเนื่อง ที่ถึงแม้อาจจะต้องใช้ระยะเวลายาวนาน แต่ต้องมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน และต้องทำผ่านรัฐบาลที่ทำงานกันเป็นทีมข้ามกระทรวง ไม่ได้แบ่งกระทรวงกันทำตามโควต้าทางการเมือง
.
.
‘ภัณฑิล’มองสถานการณ์แก้รัฐธรรมนูญเป็นบวก 60-70%
https://www.dailynews.co.th/news/5304849/
.
‘ภัณฑิล’มองสถานการณ์แก้รัฐธรรมนูญเป็นบวก 60-70% ยอมรับมีอุปสรรคเหตุแก้รัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องเล็กดีดนิ้วได้ ชี้ สว.หนึ่งปัจจัยยากควบคุม
.
เมื่อวันที่15 พ.ย. นาย
ภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม.พรรคประชาชนและ กรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนาย
กรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทองพรรค ภูมิใจไทยในฐานะกมธ. แสดงความมั่นใจ เรื่องการลงมติวาระ3 จะเกิดขึ้นเดือน ธ.ค. ว่า ถามว่าเป็นสัญญาณบวกหรือไม่ ความเห็นส่วนตัวมองว่า สิ่งที่นายกรวีร์ พูดก็เป็นสิ่งที่เราคุยกันในกมธ.เกี่ยวกับไทม์ไลน์การทำงาน เช่น 3 วันที่เหลือในสัปดาห์หน้า ในวันที่19-21 พ.ย. ก็น่าจะเร่งประชุมพิจารณากันถึงมาตรา 12 จาก 20 กว่ามาตรา โดยเคลียร์เรื่องรายละเอียดหลักๆ ได้แล้ว อาทิ จะมีหรือไม่มีการเลือกตั้ง หรือมีกี่ระดับ จะแยกบอดี้ออกมาเป็นคณะกมธ.ร่าง กับรับฟังความคิดเห็น โดยให้ยึดโยงกับสมาชิกรัฐสภา เป็นสูตร20 หยิบ 1 ทั้งคู่ ที่เหลือก็น่าจะไปได้เร็ว อย่างเช่นเรื่องคุณสมบัติต่างๆ ที่หวังว่า ทางพรรคเพื่อไทย ขาคงไม่ได้แย้งเยอะแล้ว จากนั้นก็จะเป็นการเกลาคำต่างๆ เพื่อให้เป็นถ้อยคำที่สมบูรณ์ตามกระบวนการนิติวิธี
.
เมื่อถามว่าสถานการณ์แก้รัฐธรรมนูญตอนนี้ เป็นบวกกี่เปอร์เซ็นต์ นายภัณฑิล กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า บวก 60-70% เพราะอย่างพรรคเพื่อไทย กับสว.มีอะไรบอกตรงๆ ไม่อยากแตะหมวด1-2 ไม่อยากให้เลือกตั้งเพราะกังวลคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ไม่บิดพลิ้ว เขารักษาคำพูด แต่พรรคเพื่อไทยก็อาจจะชั่งใจว่าตัวเขาเองพร้อมขนาดไหน เสียงตัวเองดีขนาดไหน ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะเขาก็จะถูกตราหน้าเหมือนกันว่า ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจจนทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญพัง ตนก็ไปดักคอเขาไว้ ว่าเขาไม่มีเจตนาในการแก้ไข เป็นต้น
.
เมื่อถามว่า การพิจารณาในช่วงท้ายจะมีปัจจัยพลิกผัน ทำให้เกิดความไม่ราบรื่น จนถึงขั้นทำให้เปิดรัฐสภาสมัยวิสามัญ ไม่ได้ หรือไม่ โดยพรรคประชาชนขีดเส้นตายต้องเปิดวิสามัญก่อน 12 ธ.ค.นี้ นายภัณฑิล กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า เป็นเรื่องการยืนหยัดในเจตจำนงที่พรรคตนเองเสนอ ตนยอมรับมีอุปสรรคบ้าง แก้รัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องเล็ก ดีดนิ้วแล้วเดินหน้าได้ กระบวนการรัฐสภาเป็นธรรมดาต้องฟังความเห็นหลากหลาย ก็ยังดีที่เป็นข่าว ประชาชนจะได้หันกลับมามอง เรื่องสำคัญ เล่นอะไรกันอยู่นักการเมือง ถ้าเราบิดพลิ้ว เบี้ยว คนก็ไม่เลือกเราคราวหน้า เราในที่นี้หมายถึงภาพรวมทั้งหมดของสภาฯ หาเสียงไว้ สุดท้ายไม่ทัน เบี้ยวและโกหก
.
“อีกประเด็นก็เป็นเรื่องของสว. ที่เป็นปัจจัยที่อาจจะควบคุมไม่ได้ โอเคเขาอาจะถูกตีตราว่า เป็นสว.สีน้ำเงินแต่ก็มีสว.อิสระด้วย บางทีเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร เขาคุมได้หรือเปล่า บางฝ่ายก็บอกว่าสีน้ำเงินเขาคุมได้ บางทีเขาก็จะพูดนอกสคริปต์ด่ากันทำให้เป็นเรื่อง นี่คือ ปัจจัยภายนอก พรรคประชาชนในฐานะผู้เสนอร่างหลักควบคุมไม่ได้ ส่วนเราจะไปบอกว่าพรรคภูมิใจไทยคุมเขาได้ไหม ผมไม่ทราบ โดยจริงๆในเชิงนิตินัยมันคุมไม่ได้ แต่พฤตินัยเราก็ไม่รู้เรื่องเขาไปคุยหลังไมค์หรือไม่ อันนี้ไม่ก้าวล่วง นี่ก็เป็นปัจจัยหนึ่ง ”นายภัณฑิล กล่าว
.
.
4 จังหวัดน่าเป็นห่วง สารหนูเกินมาตรฐาน สส.ประชาชนชี้รัฐบาลละเลยและปกปิดข้อมูล
https://www.thairath.co.th/news/politic/2895752
.
สส.พรรคประชาชนชี้น้ำโขงวิกฤต สารหนูเกินมาตรฐาน 4 จังหวัดอีสาน โวยรัฐบาล “หนีปัญหา” ปิดบังข้อมูล - โดดร่มประชุมเวทีนานาชาติ
.
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.พรรคประชาชน โพสต์ถึงปัญหามลพิษข้ามแดนจากเหมืองในประเทศเพื่อนบ้านได้ลุกลามถึงภาคอีสาน โดยระบุว่า น่ากังวลหลังตรวจพบ "สารหนูเกินมาตรฐาน" ในแหล่งน้ำของจังหวัดเลย บึงกาฬ หนองคาย และนครพนม ทำให้รัฐบาลถูกตั้งคำถามว่ากำลังละเลยและปกปิดข้อมูลต่อสาธารณะ
.
แหล่งข่าวระบุว่า กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ตรวจพบสารหนูเกินมาตรฐานเกือบสองเท่าใน 4 จุดตรวจ แต่ข้อมูลดังกล่าว ไม่ได้รับการเปิดเผยบนเว็บไซต์หลักของ คพ. กลับไปซ่อนอยู่ในมุมเล็ก ๆ ของเว็บไซต์สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 9 อุดรธานี ซึ่งสะท้อนการละเลยปัญหาโดยรัฐบาล
JJNY : 5in1 “ไหม”ชี้“อนุทิน”ต้องยอมรับ│เท้งลุยน้ำท่วมปทุมธานี│สส.ปชน.ชี้รบ.ละเลย│อ่างทองยังวิกฤต│รบ.สหรัฐฟ้องศาลให้ขวาง
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 เมื่อเวลา 18.20 น. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคปชน. โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า ย้ำอีกครั้ง หากนายกฯ เอาผลประโยชน์ประเทศเป็นตัวตั้ง เราจะไม่เดินมาถึงจุดนี้ นี่คือสิ่งที่นายณัฐพงษ์ หัวหน้าพรรคปชน.ได้เตือนไว้ล่วงหน้า ให้ประเทศไทย จะเป็นฝ่ายแจ้งสหรัฐอเมริกา และมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนก่อน ถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าเป็นทุนระเบิดใหม่ที่เพิ่งถูกวาง และเรียกร้องให้พิจารณาตัดการสนับสนุนทางการทหารและเศรษฐกิจต่อกัมพูชา ใช้โลกล้อมกัมพูชา เพื่อจบปัญหาสแกมเมอร์อันเป็นภัยต่อประชาชนทั้งโลก รวมถึงจีนและสหรัฐอเมริกา โดยการให้ความร่วมมือกับนานาชาติผ่านการตั้งผู้แทนพิเศษ แลกเปลี่ยนข้อมูลหลักฐาน เดินหน้าอายัดทรัพย์และสืบเส้นทางการเงินเครือข่ายสแกมเมอร์ในไทย แต่นายกฯ กลับประกาศ ระงับปฏิญญาสันติภาพ จนเป็นเหตุให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศระงับการเจรจาการค้ากับไทย เป็นการตอบโต้ ทั้งๆ ที่เพิ่งมีการต่อสายคุยกันของผู้นำ 2 ประเทศ ที่นายอนุทินยังเอามาเล่าว่า ขอลดอัตราภาษีอยู่เลย เหมือนจับอารมณ์ของทรัมป์ไม่ได้เลยว่ากำลังจะระงับการเจรจา ในขณะที่ฝ่ายกัมพูชาไม่ถูกเล่นงานอะไรเลย ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายก่อเหตุ และยังคงเล่นบทเหยื่อและสร้างภาพว่าประเทศไทยกำลังรังแกประเทศที่ด้อยกว่า
น.ส.ศิริกัญญา โพสต์ว่า การเจรจาการค้าที่ควรจะต้องจบลงภายในปีนี้ ทำท่าว่าจะยืดเยื้อไปอีก เพราะสหรัฐเองมักจะใช้เหตุด้านการเมืองอื่นๆ มาใช้กดดันแต่ละประเทศในการเจรจาอยู่แล้ว ไม่อยากจะนึกถึงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาหากทรัมป์เกิดประกาศอัตราภาษีใหม่ที่สูงกว่าเดิม ถามว่าแล้วเราต้องแคร์มั้ย ถ้าไม่แคร์คงไม่ไปเซ็นปฏิญญานี้โดยทรัมป์มาเป็นพยานตั้งแต่แรก ความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับทหารไทยไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เกมนี้มีวิธีเล่นได้หลายรูปแบบที่จะทำให้เราถือไพ่เหนือกว่า ถ้าเรายึดผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก มากกว่าการรักษาคะแนนความนิยมของตัวเองโดยการโหนกระแสชาตินิยม
https://www.matichon.co.th/politics/news_5458475
.
2. ปรับเกณฑ์การเยียวยาให้สะท้อนระยะเวลาน้ำท่วมที่แตกต่างกัน ไม่ใช่แบบเหมาจ่าย 9,000 บาท
3. ยกระดับมาตรฐานการดูแลผู้ประสบภัยและศูนย์พักพิง
4. วางแผนฟื้นฟูและยกระดับชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำทั้งระยะสั้น-ระยะยาว
5. ทบทวนความเป็นไปได้ของโครงการป้องกันน้ำท่วมขนาดใหญ่ที่ล่าช้าจากแผน เพื่อให้การลงทุนและการป้องกันน้ำท่วมมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตอบโจทย์ประชาชนมากที่สุด
.
‘ภัณฑิล’มองสถานการณ์แก้รัฐธรรมนูญเป็นบวก 60-70%
https://www.dailynews.co.th/news/5304849/
.
‘ภัณฑิล’มองสถานการณ์แก้รัฐธรรมนูญเป็นบวก 60-70% ยอมรับมีอุปสรรคเหตุแก้รัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องเล็กดีดนิ้วได้ ชี้ สว.หนึ่งปัจจัยยากควบคุม
.
เมื่อวันที่15 พ.ย. นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม.พรรคประชาชนและ กรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทองพรรค ภูมิใจไทยในฐานะกมธ. แสดงความมั่นใจ เรื่องการลงมติวาระ3 จะเกิดขึ้นเดือน ธ.ค. ว่า ถามว่าเป็นสัญญาณบวกหรือไม่ ความเห็นส่วนตัวมองว่า สิ่งที่นายกรวีร์ พูดก็เป็นสิ่งที่เราคุยกันในกมธ.เกี่ยวกับไทม์ไลน์การทำงาน เช่น 3 วันที่เหลือในสัปดาห์หน้า ในวันที่19-21 พ.ย. ก็น่าจะเร่งประชุมพิจารณากันถึงมาตรา 12 จาก 20 กว่ามาตรา โดยเคลียร์เรื่องรายละเอียดหลักๆ ได้แล้ว อาทิ จะมีหรือไม่มีการเลือกตั้ง หรือมีกี่ระดับ จะแยกบอดี้ออกมาเป็นคณะกมธ.ร่าง กับรับฟังความคิดเห็น โดยให้ยึดโยงกับสมาชิกรัฐสภา เป็นสูตร20 หยิบ 1 ทั้งคู่ ที่เหลือก็น่าจะไปได้เร็ว อย่างเช่นเรื่องคุณสมบัติต่างๆ ที่หวังว่า ทางพรรคเพื่อไทย ขาคงไม่ได้แย้งเยอะแล้ว จากนั้นก็จะเป็นการเกลาคำต่างๆ เพื่อให้เป็นถ้อยคำที่สมบูรณ์ตามกระบวนการนิติวิธี
https://www.thairath.co.th/news/politic/2895752
.