แพทย์ - ผู้ป่วย - ตัวแทนประกัน เป็น ความสัมพันธ์แบบสามเส้า ที่จะส่งเสริมค้ำจุนด้วยกัน แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียสมดุลย์ ความสัมพันธ์ก็จะพังล้มลง จึงอยากจะชี้แจงทำความเข้าใจให้ตรงกัน ซึ่งผมเชื่อว่า แพทย์ ผู้ป่วย และ ตัวแทนประกันส่วนใหญ่ เข้าใจ และ ทำถูกต้องเหมาะสมแล้ว แต่ก็เขียนเผื่อไว้สำหรับท่านที่ยังไม่ทราบ
( แพทย์ ในเนื้อหา หมายถึง "ผม" เป็นหลักนะครับ )
1. ใบรับรองแพทย์ เป็นเอกสาร ทางกฏหมาย
ไม่ใช่ "แค่"ใบรับรองแพทย์
ไม่ใช่ "แค่"กระดาษเปื้อนหมึก
ใบรับรองแพทย์ เป็นเท็จ ปลอมแปลง มีบทลงโทษทางกฏหมาย .. ใช้ผิด ติดคุกได้ (ทั้งแพทย์ผู้เขียนและผู้นำใบรับรองแพทย์ไปใช้)
2. ใบรับรองแพทย์ จะถูกตรวจสอบเสมอ จาก บุคคลที่สาม เช่น หัวหน้า หรือ ฝ่ายบุคคลที่ผู้ป่วยทำงาน แพทย์ของบริษัทประกัน ตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษา ฯลฯ
3. แพทย์ ไม่ได้มีหน้าที่ จับผิดผู้ป่วย แต่ ถ้าผู้ป่วยให้ข้อมูล ก็จะต้องพิจารณาว่า สมเหตุสมผล สัมพันธ์กับอาการที่ตรวจพบหรือไม่?
ถ้าจะให้ข้อมูลเพื่อเบิกประกัน ผู้ป่วย(ผู้เอาประกัน)และตัวแทนประกัน ก็ต้องปรึกษากันและเตรียมข้อมูลมาให้พร้อม แพทย์ก็จะบันทึกตามที่ผู้ป่วยให้ข้อมูลมา โดยเชื่อว่า เป็นข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริง (ส่วนว่าจะจริงหรือไม่ นั้นก็เป็นส่วนที่บริษัทประกันจะดำเนินการสืบหาข้อมูลเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาจ่ายเงินคืน ตามสิทธิในประกันที่ทำไว้)
แต่ การให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ไม่ครบถ้วน ก็อาจส่งผลต่อการวินิจฉัยที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน ผลการรักษาก็ไม่ดี ผลเสียก็จะตกกับผู้ป่วย
4. แพทย์ ไม่ทราบรายละเอียดของกรมธรรม์ จึง บอกไม่ได้ว่า จะเบิกได้ ไม่ได้ เบิกได้เท่าไหร่ ประกันคุ้มครองหรือไม่ ฯลฯ
ผู้ป่วยต้องสอบถามกับตัวแทนประกันว่า เบิกได้หรือไม่ ได้เท่าไหร่ ต้องมีเอกสารอะไรบ้าง (ใบรับรองแพทย์ ใบเสร็จ ใบเคลมประกัน ฯลฯ)เพื่อนำไปเบิกค่าใช้จ่ายคืน
คลินิก จะเก็บเงินค่ารักษา แล้วจึงออกเอกสารให้ผู้ป่วยนำไปเบิก ซึ่งจะเบิกได้หรือไม่นั้น แพทย์ ไม่ทราบ (ถ้า รพ.เอกชน อาจมีระบบเคลมตรงกับบริษัท ผู้ป่วยไม่ต้องสำรองจ่าย)
5. แพทย์ ตรวจวินิจฉัยตามข้อมูลที่มี แล้วลงความเห็นตามหลักวิชาการ เขียนใบรับรองแพทย์ ใบเสร็จรับเงิน ตามจริง เท่านั้น
การแก้ข้อมูลในใบรับรองแพทย์ หรือ การเขียนใบรับรองแพทย์ใหม่ (หลังจากส่งไปแล้วแต่เบิกไม่ได้) ทางบริษัทประกัน ก็จะสงสัยว่า ทำไม ? ร่วมกันทุจริตหรือไม่?
6. การอ้างว่า เคยไปคลินิกโน้น แพทย์คนนั้น ยังทำให้ได้ เขียนให้ได้เลย ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงการวินิจฉัย หรือ การเขียนใบรับรองแพทย์ แต่ถ้าต้องการแบบนั้นก็คงต้องไปตรวจรักษากับแพทย์ท่านนั้น ไม่ใช่ แจ้งแพทย์ว่า ให้เขียนแบบนี้แบบนั้น
การเขียนใบรับรองแพทย์ เป็น หน้าที่และความรับผิดชอบของแพทย์ที่เขียนโดยตรง ถ้าผิดระเบียบกฏหมาย แพทย์ต้องรับผิดชอบเป็นการเฉพาะบุคคล ไม่มีใครมารับผิดชอบแทน แพทย์ ไม่สามารถอ้างเหตุอื่นเพื่อไม่ต้องรับผิดชอบ เขียนเองรับผลเองเต็ม ๆ
7. ผู้ป่วย หรือ ตัวแทนประกัน ถ้าต้องการจะใช้สิทธิเบิกค่าใช้จ่ายของกรมธรรม์ ก็ต้องให้ประวัติ ตรงตามที่กรมธรรม์ ระบุไว้ เช่น ถ้าเบิกได้เฉพาะอุบัติเหตุ ก็ต้องแจ้งว่ามีประวัติอุบัติเหตุ เพราะ ทางบริษัทประกัน จะมีที่ปรึกษาเป็น "แพทย์" อยู่แล้ว ถ้าให้ข้อมูลไม่ตรง เขียนใบรับรองแพทย์ ระบุไม่ชัด ก็อาจทำให้ผู้ป่วยเสียสิทธิ์ (บริษัทระงับการเบิกจ่ายเงินทดแทน)
ในกรณีที่แพทย์ เขียนใบรับรองแพทย์ เป็นเท็จ ถ้าทางบริษัทประกันตรวจสอบแล้วพบว่า แพทย์เจตนาเขียนใบรับรองแพทย์เป็นเท็จ ก็สามารถร้องเรียนแพทยสภา หรือ แจ้งความคดีอาญา ได้
ความสัมพันธ์แบบสามเส้า ของ แพทย์ - ผู้ป่วย - ตัวแทนประกัน จึงควรส่งเสริมค้ำจุนให้เจริญเติบโตก้าวหน้าพัฒนารุ่งเรืองไปด้วยกัน ด้วยความถูกต้อง เชื่อมั่น กันและกัน
ปล. ลองคิดอีกมุม ถ้าแพทย์ ยินยอมที่จะโกหกบริษัทประกัน เพื่อประโยชน์ของผู้ป่วย(ผู้เอาประกัน)หรือตัวแทนฯ แพทย์ท่านนั้นก็อาจโกหก ผู้ป่วย(ผู้เอาประกัน)หรือตัวแทนฯ เพื่อประโยชน์ของตัวเขาเองได้เช่นกัน แล้วยังจะเชื่อถือแพทย์ท่านนั้นให้รักษาอีกหรือ ?
ถูกต้อง ไม่ถูกใจ .. ถูกใจ ไม่ถูกต้อง .. ถูกต้อง ถูกใจ ดีที่สุด แต่ถ้าจำเป็น ผมเลือก ถูกต้อง ไม่ถูกใจ ^_^
ใบรับรองแพทย์ ..ใช้ผิด ติดคุกได้ แถม ใบรับรองแพทย์ กับ ประกันฯhttps://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=06-01-2008&group=4&gblog=5
ใบรับรองแพทย์ เบิกประกัน ความเข้าใจ ไม่ตรงกัน ?
แพทย์ - ผู้ป่วย - ตัวแทนประกัน เป็น ความสัมพันธ์แบบสามเส้า ที่จะส่งเสริมค้ำจุนด้วยกัน แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียสมดุลย์ ความสัมพันธ์ก็จะพังล้มลง จึงอยากจะชี้แจงทำความเข้าใจให้ตรงกัน ซึ่งผมเชื่อว่า แพทย์ ผู้ป่วย และ ตัวแทนประกันส่วนใหญ่ เข้าใจ และ ทำถูกต้องเหมาะสมแล้ว แต่ก็เขียนเผื่อไว้สำหรับท่านที่ยังไม่ทราบ
( แพทย์ ในเนื้อหา หมายถึง "ผม" เป็นหลักนะครับ )
1. ใบรับรองแพทย์ เป็นเอกสาร ทางกฏหมาย
ไม่ใช่ "แค่"ใบรับรองแพทย์
ไม่ใช่ "แค่"กระดาษเปื้อนหมึก
ใบรับรองแพทย์ เป็นเท็จ ปลอมแปลง มีบทลงโทษทางกฏหมาย .. ใช้ผิด ติดคุกได้ (ทั้งแพทย์ผู้เขียนและผู้นำใบรับรองแพทย์ไปใช้)
2. ใบรับรองแพทย์ จะถูกตรวจสอบเสมอ จาก บุคคลที่สาม เช่น หัวหน้า หรือ ฝ่ายบุคคลที่ผู้ป่วยทำงาน แพทย์ของบริษัทประกัน ตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษา ฯลฯ
3. แพทย์ ไม่ได้มีหน้าที่ จับผิดผู้ป่วย แต่ ถ้าผู้ป่วยให้ข้อมูล ก็จะต้องพิจารณาว่า สมเหตุสมผล สัมพันธ์กับอาการที่ตรวจพบหรือไม่?
ถ้าจะให้ข้อมูลเพื่อเบิกประกัน ผู้ป่วย(ผู้เอาประกัน)และตัวแทนประกัน ก็ต้องปรึกษากันและเตรียมข้อมูลมาให้พร้อม แพทย์ก็จะบันทึกตามที่ผู้ป่วยให้ข้อมูลมา โดยเชื่อว่า เป็นข้อมูลที่ถูกต้องเป็นจริง (ส่วนว่าจะจริงหรือไม่ นั้นก็เป็นส่วนที่บริษัทประกันจะดำเนินการสืบหาข้อมูลเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาจ่ายเงินคืน ตามสิทธิในประกันที่ทำไว้)
แต่ การให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ไม่ครบถ้วน ก็อาจส่งผลต่อการวินิจฉัยที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน ผลการรักษาก็ไม่ดี ผลเสียก็จะตกกับผู้ป่วย
4. แพทย์ ไม่ทราบรายละเอียดของกรมธรรม์ จึง บอกไม่ได้ว่า จะเบิกได้ ไม่ได้ เบิกได้เท่าไหร่ ประกันคุ้มครองหรือไม่ ฯลฯ
ผู้ป่วยต้องสอบถามกับตัวแทนประกันว่า เบิกได้หรือไม่ ได้เท่าไหร่ ต้องมีเอกสารอะไรบ้าง (ใบรับรองแพทย์ ใบเสร็จ ใบเคลมประกัน ฯลฯ)เพื่อนำไปเบิกค่าใช้จ่ายคืน
คลินิก จะเก็บเงินค่ารักษา แล้วจึงออกเอกสารให้ผู้ป่วยนำไปเบิก ซึ่งจะเบิกได้หรือไม่นั้น แพทย์ ไม่ทราบ (ถ้า รพ.เอกชน อาจมีระบบเคลมตรงกับบริษัท ผู้ป่วยไม่ต้องสำรองจ่าย)
5. แพทย์ ตรวจวินิจฉัยตามข้อมูลที่มี แล้วลงความเห็นตามหลักวิชาการ เขียนใบรับรองแพทย์ ใบเสร็จรับเงิน ตามจริง เท่านั้น
การแก้ข้อมูลในใบรับรองแพทย์ หรือ การเขียนใบรับรองแพทย์ใหม่ (หลังจากส่งไปแล้วแต่เบิกไม่ได้) ทางบริษัทประกัน ก็จะสงสัยว่า ทำไม ? ร่วมกันทุจริตหรือไม่?
6. การอ้างว่า เคยไปคลินิกโน้น แพทย์คนนั้น ยังทำให้ได้ เขียนให้ได้เลย ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงการวินิจฉัย หรือ การเขียนใบรับรองแพทย์ แต่ถ้าต้องการแบบนั้นก็คงต้องไปตรวจรักษากับแพทย์ท่านนั้น ไม่ใช่ แจ้งแพทย์ว่า ให้เขียนแบบนี้แบบนั้น
การเขียนใบรับรองแพทย์ เป็น หน้าที่และความรับผิดชอบของแพทย์ที่เขียนโดยตรง ถ้าผิดระเบียบกฏหมาย แพทย์ต้องรับผิดชอบเป็นการเฉพาะบุคคล ไม่มีใครมารับผิดชอบแทน แพทย์ ไม่สามารถอ้างเหตุอื่นเพื่อไม่ต้องรับผิดชอบ เขียนเองรับผลเองเต็ม ๆ
7. ผู้ป่วย หรือ ตัวแทนประกัน ถ้าต้องการจะใช้สิทธิเบิกค่าใช้จ่ายของกรมธรรม์ ก็ต้องให้ประวัติ ตรงตามที่กรมธรรม์ ระบุไว้ เช่น ถ้าเบิกได้เฉพาะอุบัติเหตุ ก็ต้องแจ้งว่ามีประวัติอุบัติเหตุ เพราะ ทางบริษัทประกัน จะมีที่ปรึกษาเป็น "แพทย์" อยู่แล้ว ถ้าให้ข้อมูลไม่ตรง เขียนใบรับรองแพทย์ ระบุไม่ชัด ก็อาจทำให้ผู้ป่วยเสียสิทธิ์ (บริษัทระงับการเบิกจ่ายเงินทดแทน)
ในกรณีที่แพทย์ เขียนใบรับรองแพทย์ เป็นเท็จ ถ้าทางบริษัทประกันตรวจสอบแล้วพบว่า แพทย์เจตนาเขียนใบรับรองแพทย์เป็นเท็จ ก็สามารถร้องเรียนแพทยสภา หรือ แจ้งความคดีอาญา ได้
ความสัมพันธ์แบบสามเส้า ของ แพทย์ - ผู้ป่วย - ตัวแทนประกัน จึงควรส่งเสริมค้ำจุนให้เจริญเติบโตก้าวหน้าพัฒนารุ่งเรืองไปด้วยกัน ด้วยความถูกต้อง เชื่อมั่น กันและกัน
ปล. ลองคิดอีกมุม ถ้าแพทย์ ยินยอมที่จะโกหกบริษัทประกัน เพื่อประโยชน์ของผู้ป่วย(ผู้เอาประกัน)หรือตัวแทนฯ แพทย์ท่านนั้นก็อาจโกหก ผู้ป่วย(ผู้เอาประกัน)หรือตัวแทนฯ เพื่อประโยชน์ของตัวเขาเองได้เช่นกัน แล้วยังจะเชื่อถือแพทย์ท่านนั้นให้รักษาอีกหรือ ?
ถูกต้อง ไม่ถูกใจ .. ถูกใจ ไม่ถูกต้อง .. ถูกต้อง ถูกใจ ดีที่สุด แต่ถ้าจำเป็น ผมเลือก ถูกต้อง ไม่ถูกใจ ^_^
ใบรับรองแพทย์ ..ใช้ผิด ติดคุกได้ แถม ใบรับรองแพทย์ กับ ประกันฯhttps://www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=06-01-2008&group=4&gblog=5