สวัสดีครับทุกท่านผมตัดสินใจอยู่นานว่าจะทำอย่างไงดีเพราะผมไม่มีใครให้ปรึกษาได้เลยจริงๆ
พอดีว่าช่วงนี้ผมทะเละกับแม่บ่อยขึ้นเรื่องๆ ผมก็โตแล้วครับและรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่เข้าใจอะไรในบ้านหลายๆอย่าง ผมว่าผมเข้าใจในปัญหาหมด แต่แม่ผมป่วยครับเป็นโรคหัวใจและแกก็ชอบมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานและเรื่องเงิน พอดีบ้านผมเป็นบ้านทีไม่ค่อยมีตังเท่าไรออกแนวมีปัญหาสะด้วย และเรื่องส่วนใหญ่ที่ทะเละกับแม่ก็จะไม่พ้นเรื่องพวกนี้และครับ
ทุกครั้งที่เรากินข้าวหรือได้อยู่ร่วมกันผมมักจะเตือนเรื่องต่างๆของแม่เช่นเรื่องกินยา เรื่องการนอนที่ต้องตรงเวลา เรื่องการเงิน และส่วนใหญ่บ้างครั้งผมพูดบ้างคำที่มันอาจจะดูธรรมดาแต่ถ้าเริ่มไปสะกิตใจเขาเมื่อไร เขาก็จะขึ้นเสียงมีอาการแทรกขึ้นมาทันทีทั้งที่ผมยังพูดไม่จบด้วยซ้ำ ผมก็เลยต้องพูดอธิบายแม่ให้เขาใจสิ่งที่ผมจะสื่อแต่ก็เหมือนเขาก็จะไม่ฟังและคิดว่าผมเถียงแกทั้งทีผมมีเจตนาที่ดีกับแม่เสมอจนทะเละกันใหญ่โต คือถ้าไม่บอกเหตุผลของผมกับเขา เขาก็จะคิดว่าผมไปว่าไปด่าแก แต่ถ้าผมบอกเหตุผลเขาก็คิดว่าผมเถึยงไม่ฟังทำตัวเก่งใหญโตกล้าสอนแม่ ทั้งที่ผมมีเจตนาดีกับแม่จริงๆในเรื่องนั้น คือผมก็ไม่อยากให้แกเครียดเพราะแม่เป็นโรคหัวใจถ้าแกเครียดอาจจะมีผลกับหัวใจแกจนช๊อคได้ แต่ถ้าผมเลือกที่จะเงียบแก่ก็จะโกธรและด่าผมต่างๆนาๆไม่หยุดสรุปแกก็เครียดอยู่ดี ครั้นจะไม่พูดกับแก่เพื่อเลี่ยงปัญหาแกก็จะคิดว่าผมถามไม่ตอบไปกวนตีนแกด่าผมอีก ทุกครั้งที่ทะเละกันผมพยายามทำความเข้าใจและอธิบายในส่วนของผมที่ผมมั่นใจว่าดี ขนาดพี่ชายผมอีกคนยังฟังและเข้าใจแต่แม่ไม่เข้าใจผมเลยว่าผมกับมาเป็นคำที่เราฟังแล้วก็ยังมีอาการโกธรอยู่เช่น กูแม่ ใช่สิกูเลี้ยงมาไม่ดี เก่ง กูไม่อยากฟัง อย่าเถึยง พร้อมกับอาการหลับตาคิดขึ้นเสียงดังใส่ปากบอกไม่กูลำคาญให้เงียบ แต่พอผมเงียบเขาก็เล่าขยายต่อด่าผมต่อไม่หยุดจนบ้างครั้งผมยอมรับว่าผมก็มีอาการโกธร
และทุกครั้งที่ผมถามอะไรแม่ไป เขามักจะตอบคำถามไม่ตรงคำถามหรือไม่ก็ไม่ตอบออกนอกประเด็นไปเลย ตัวอย่างเช่น ผมถามแม่ผมว่า"ถ้าแม่เริ่มโกธรผมขอให้แม่บอกผมดีๆไม่ต้องขึ้นเสียงและบอกผมว่า แม่ไม่โอเคเลิกคุยเรื่องนี้เถอะ" และแม่ก็จะตอบผมว่า "ก็กูเป็นแบบนี้" และเมื่อผมได้ยินผมก็ย้ำกับแม่ว่า "ผมต้องการแค่แม่ตอบว่าได้ไม่ได้นะแม่ตอบผมแค่นั้น" แต่แม่ก็จะไปพูดนอกเรื่องแบบ "บังคับกูหรา"," พูดอะไรวนไปมา" (อารมแบบถามว่า 1+1 เท่ากับเท่าไร แล้วแม่ตอบมาว่า เรื่องของกูทำไมต้องคุย) คือแบบไม่เคยตอบตรงคำถามผมเลยทุกคำถาม
จนผมคิดกับตัวเองว่าหรือเป็นที่ผมเองทำให้แม่เครียด เพราะผมไม่เหลือใครในชีวิตแล้วนอกจากแม่ที่ต้องเป็นห่วงและดูแลและผมก็มีเรื่องเครียดของตัวเองอีกมากมาย(ผมว่าก็ไม่น่าจะแพ้กับแม่แน่นอน) ผมมักจะยืนด้วยตนเองเสมอเช่นเรื่องเรียนมหาลัยผมก็หาทุนเรียนฟรีเรียนเองโดยไม่พึ่งเงินจากแม่สักบ้านทั้งค่าใช่จ่ายและค่าเทอม และผมไม่เคยขออะไรมากมายจากแม่เลย แม่จะให้ตังแต่ผมคิดว่าผมพอไหวอยู่ผมก็จะไม่เอาเงินแก เพราะปกติแล้วเงินเดือนแม่ผมก็โดนหักจากหนี้จนแทบไม่เหลืออไรอยู่แล้วในแต่ละเดือน และผมก็อยากให้แกเห็นว่าผมดูแลตัวเองได้ และอยากให้แกอยู่นานๆอย่างมีความสุข
ผมคิดว่าผมควรจะออกจากบ้านไปใช้ชีวิตให้ห่างจากแกเพื่อไม่ให้แกเครียด หรือไม่พูดกับแกเลยจะได้ไม่มีปัญหาอีก หรือมีทางไหนที่ผมควรจะทำหรือทำได้บ้าง ผมไม่มีใครแล้วให้ปรึกษาจริงเลยลองเขียนลงในนี้ดู มันก็เป็นเหมือนที่ระบายของผมและเพราะผมทางตันจริงๆไม่รู้จะทำอย่างไร เรียกคุยก็แล้ว อธิบายก็แล้ว แต่แม่ก็ดูไม่สบายใจไม่มีความสุขและเครียดตลอด
ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะครับ
แม่ที่ทำให้เราเครียดเสมอ
พอดีว่าช่วงนี้ผมทะเละกับแม่บ่อยขึ้นเรื่องๆ ผมก็โตแล้วครับและรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่เข้าใจอะไรในบ้านหลายๆอย่าง ผมว่าผมเข้าใจในปัญหาหมด แต่แม่ผมป่วยครับเป็นโรคหัวใจและแกก็ชอบมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานและเรื่องเงิน พอดีบ้านผมเป็นบ้านทีไม่ค่อยมีตังเท่าไรออกแนวมีปัญหาสะด้วย และเรื่องส่วนใหญ่ที่ทะเละกับแม่ก็จะไม่พ้นเรื่องพวกนี้และครับ
ทุกครั้งที่เรากินข้าวหรือได้อยู่ร่วมกันผมมักจะเตือนเรื่องต่างๆของแม่เช่นเรื่องกินยา เรื่องการนอนที่ต้องตรงเวลา เรื่องการเงิน และส่วนใหญ่บ้างครั้งผมพูดบ้างคำที่มันอาจจะดูธรรมดาแต่ถ้าเริ่มไปสะกิตใจเขาเมื่อไร เขาก็จะขึ้นเสียงมีอาการแทรกขึ้นมาทันทีทั้งที่ผมยังพูดไม่จบด้วยซ้ำ ผมก็เลยต้องพูดอธิบายแม่ให้เขาใจสิ่งที่ผมจะสื่อแต่ก็เหมือนเขาก็จะไม่ฟังและคิดว่าผมเถียงแกทั้งทีผมมีเจตนาที่ดีกับแม่เสมอจนทะเละกันใหญ่โต คือถ้าไม่บอกเหตุผลของผมกับเขา เขาก็จะคิดว่าผมไปว่าไปด่าแก แต่ถ้าผมบอกเหตุผลเขาก็คิดว่าผมเถึยงไม่ฟังทำตัวเก่งใหญโตกล้าสอนแม่ ทั้งที่ผมมีเจตนาดีกับแม่จริงๆในเรื่องนั้น คือผมก็ไม่อยากให้แกเครียดเพราะแม่เป็นโรคหัวใจถ้าแกเครียดอาจจะมีผลกับหัวใจแกจนช๊อคได้ แต่ถ้าผมเลือกที่จะเงียบแก่ก็จะโกธรและด่าผมต่างๆนาๆไม่หยุดสรุปแกก็เครียดอยู่ดี ครั้นจะไม่พูดกับแก่เพื่อเลี่ยงปัญหาแกก็จะคิดว่าผมถามไม่ตอบไปกวนตีนแกด่าผมอีก ทุกครั้งที่ทะเละกันผมพยายามทำความเข้าใจและอธิบายในส่วนของผมที่ผมมั่นใจว่าดี ขนาดพี่ชายผมอีกคนยังฟังและเข้าใจแต่แม่ไม่เข้าใจผมเลยว่าผมกับมาเป็นคำที่เราฟังแล้วก็ยังมีอาการโกธรอยู่เช่น กูแม่ ใช่สิกูเลี้ยงมาไม่ดี เก่ง กูไม่อยากฟัง อย่าเถึยง พร้อมกับอาการหลับตาคิดขึ้นเสียงดังใส่ปากบอกไม่กูลำคาญให้เงียบ แต่พอผมเงียบเขาก็เล่าขยายต่อด่าผมต่อไม่หยุดจนบ้างครั้งผมยอมรับว่าผมก็มีอาการโกธร
และทุกครั้งที่ผมถามอะไรแม่ไป เขามักจะตอบคำถามไม่ตรงคำถามหรือไม่ก็ไม่ตอบออกนอกประเด็นไปเลย ตัวอย่างเช่น ผมถามแม่ผมว่า"ถ้าแม่เริ่มโกธรผมขอให้แม่บอกผมดีๆไม่ต้องขึ้นเสียงและบอกผมว่า แม่ไม่โอเคเลิกคุยเรื่องนี้เถอะ" และแม่ก็จะตอบผมว่า "ก็กูเป็นแบบนี้" และเมื่อผมได้ยินผมก็ย้ำกับแม่ว่า "ผมต้องการแค่แม่ตอบว่าได้ไม่ได้นะแม่ตอบผมแค่นั้น" แต่แม่ก็จะไปพูดนอกเรื่องแบบ "บังคับกูหรา"," พูดอะไรวนไปมา" (อารมแบบถามว่า 1+1 เท่ากับเท่าไร แล้วแม่ตอบมาว่า เรื่องของกูทำไมต้องคุย) คือแบบไม่เคยตอบตรงคำถามผมเลยทุกคำถาม
จนผมคิดกับตัวเองว่าหรือเป็นที่ผมเองทำให้แม่เครียด เพราะผมไม่เหลือใครในชีวิตแล้วนอกจากแม่ที่ต้องเป็นห่วงและดูแลและผมก็มีเรื่องเครียดของตัวเองอีกมากมาย(ผมว่าก็ไม่น่าจะแพ้กับแม่แน่นอน) ผมมักจะยืนด้วยตนเองเสมอเช่นเรื่องเรียนมหาลัยผมก็หาทุนเรียนฟรีเรียนเองโดยไม่พึ่งเงินจากแม่สักบ้านทั้งค่าใช่จ่ายและค่าเทอม และผมไม่เคยขออะไรมากมายจากแม่เลย แม่จะให้ตังแต่ผมคิดว่าผมพอไหวอยู่ผมก็จะไม่เอาเงินแก เพราะปกติแล้วเงินเดือนแม่ผมก็โดนหักจากหนี้จนแทบไม่เหลืออไรอยู่แล้วในแต่ละเดือน และผมก็อยากให้แกเห็นว่าผมดูแลตัวเองได้ และอยากให้แกอยู่นานๆอย่างมีความสุข
ผมคิดว่าผมควรจะออกจากบ้านไปใช้ชีวิตให้ห่างจากแกเพื่อไม่ให้แกเครียด หรือไม่พูดกับแกเลยจะได้ไม่มีปัญหาอีก หรือมีทางไหนที่ผมควรจะทำหรือทำได้บ้าง ผมไม่มีใครแล้วให้ปรึกษาจริงเลยลองเขียนลงในนี้ดู มันก็เป็นเหมือนที่ระบายของผมและเพราะผมทางตันจริงๆไม่รู้จะทำอย่างไร เรียกคุยก็แล้ว อธิบายก็แล้ว แต่แม่ก็ดูไม่สบายใจไม่มีความสุขและเครียดตลอด
ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะครับ