เศรษฐกิจเงียบ..... จนหวั่นไหว

ปกติ ใน 1 ปี. ธุรกิจโรงงานเล็กๆ ของเรา จะเงียบแค่ 2 เดือน...

มาปีนี้... 6 เดือนแรก คิดว่าจะโชติช่วงชัชวาล...เพราะยอดขายพุ่งขึ้น 40%.... แต่ หลังจากมีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านทางขวา.   การส่งออกฝั่งนี้ก็ลดลง. ทำได้คือลดราคาและช่วยค่าขนส่ง กะยื้อไว้ไม่ให้เค้าไปหาซัพพลายเออร์รายใหม่ที่ประเทศอื่นซัก 3-4 เดือน....  แต่ มาเดือนนี้ กับปัญหาล่าสุด -- คาดว่าคงต้องปล่อยแล้ว...  จากที่คิดว่ากำลังจจะจบ กลับมีเรื่องใหม่. (ไม่ไหว... คงต้องพอ.  เพราะใครออกมาพูด มีแต่ทัวร์ลง จนไม่มีใครกล้าสะท้อนปัญหาอีกบริบทนึงออกมา)

ส่วนเพื่อนบ้านทางซ้าย..  ตอนนี้จอด... สินค้าไม่สามารถส่งเข้าไปได้   เพราะทางการของเข้าต้องให้ลูกค้าขอใบอนุญาต นำเข้า.  ซึ่งหลังจากผ่านมา 3-4 เดือน... ยังไม่มีลูกค้าคนใดในพม่าได้เลย.  สินค้ากองอยู่มากมายมหาศาล. (ทางหน่วยงานรับผิดชองของไทย ไม่รู้ทำอะไร ถึงไหน) ในการประสานแก้จุดเหล่านี้ กับมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีจากประเทศเพื่อนบ้าน

ส่วนลูกค้าในไทย. บางคนซื้อสินค้าเราไปประกอบ เพื่อขายเพื่อนบ้าน. บางคนซื้อไปประกอบเพื่องส่งออกยุโรป.  บางคนซื้อไปกระจายสินค้าทั่วประเทศไทย..    อยากบอกว่า สถานะปัจจุบัน ทุกคนกำลังหวั่นไหว

ถ้าพอจะคิด. การส่งสินค้าไปขายกับประเทศเพื่อนบ้านที่หดลงเยอะ...หรือการที่เค้าไม่มารักษาที่ไทย ไม่มาท่องเที่ยว..   มันส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อม จน ณ.วันนี้ มันกำลังมาถึงจุดที่ทำให้ธุรกิจโดยทั่วไปได้รับผลกระทบแล้ว.....   ทุกอย่างมันส่งผลถึงกันหมด..

ถ้าพอจะมีจุดสมดุลบ้างคงจะดี..  อย่าสะใจ เพราะคิดว่ามีแต่ฝ่ายเค้าได้รับผลกระทบ. เรานี้แหละ. ตอนนี้ผลกระทบเป็นลูกโซ่ได้มาถึงแล้ว....

คิดว่าใครจะทนถึก และทนอดได้มากกว่ากัน..  ระหว่างผู้ประกอบการสุจริต เจ้าหน้าที่รัฐ.  โดยเฉพาะพวกทหาร ตำรวจ เกียษณ และข้าราชการประจำ

กระทรวงพาณิชย์ เวลาฮันนีมูลของท่าน คาดว่าน่าจะหมดลงแล้ว.  รีบทำอะไรที่จับต้องได้จะดีมากกกกกกก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่