"สิ่งที่ไม่ได้บอก...กลับพูดแทนเราทุกอย่าง"

กระทู้ข่าว
แต่มันพูดไม่ได้ เพราะ “เรายังไม่พร้อมจะรับผลของคำพูดนั้น”

บางครั้ง... ความเงียบมันไม่ได้หมายความว่า “เราไม่รู้สึก” มันไม่ได้หมายความว่า “เราชินชา” แต่มันหมายความว่า เรารู้ดีเกินไปว่า...ถ้าคำหนึ่งคำหลุดจากปากเราออกไป มันอาจเปลี่ยนทุกอย่างที่เราเคยมีไปตลอดกาล เราเลยเลือก “เงียบ” ทั้งที่ในใจมีคำเป็นพันที่อยากพูดออกไป คำที่อยากบอกว่า “คิดถึง”
แต่กลัวว่าคนฟังจะตอบกลับมาว่า “เราไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแล้ว” คำที่อยากอธิบายว่า “เราพยายามอยู่” แต่กลัวว่ามันจะฟังดูเหมือนข้อแก้ตัว
หรือคำที่อยากพูดว่า “รัก” แต่รู้ว่า... อีกฝ่ายไม่ได้อยากได้ยินมันอีกต่อไป เรารู้ดีว่าคำพูดบางคำ มันมีน้ำหนักมากพอจะทำลายทุกอย่างได้ในวินาทีเดียว
และบางครั้ง...ความสัมพันธ์มันเปราะบางกว่าสิ่งใดในโลก จนแค่คำเดียวที่พูดพลาดไป ก็เหมือนเราทำแก้วที่ถือไว้แน่นที่สุด...หล่นแตกต่อหน้า

ความเงียบจึงกลายเป็นเกราะ เป็นพื้นที่ปลอดภัยของหัวใจที่ไม่อยากเจ็บซ้ำ ไม่อยากเสียคนบางคนไป แม้จะต้องกล้ำกลืนความรู้สึกไว้ในใจ
แม้จะต้องกลับมานั่งร้องไห้กับตัวเองในตอนกลางคืน เราบอกตัวเองว่า “ช่างมัน” แต่ในความเป็นจริง ไม่มีใครช่างมันได้จริงๆ
โดยเฉพาะเมื่อสิ่งที่เรากำลังปกป้อง... คือคนที่เรายังรัก มันทรมานนะ กับการต้องเก็บทุกอย่างไว้คนเดียว อยากพูดแต่พูดไม่ได้
อยากร้องไห้แต่ต้องยิ้มให้เหมือนปกติ อยากอธิบายแต่ต้องทำเหมือนไม่สนใจ เพราะเรารู้ว่าถ้าเผลอพูดออกไปตอนนี้ เราอาจจะเสีย “ทุกอย่าง” ที่เหลืออยู่
รวมถึงความสัมพันธ์อันบอบบางที่เรายังอยากรักษาไว้แม้เพียงเศษเสี้ยว บางครั้งการเงียบมันก็เหมือนการเดินบนมีด ไม่พูดก็เจ็บ
แต่พูด... มันอาจจะเจ็บกว่านั้น เจ็บจนไม่มีทางกลับมาได้อีก

และสุดท้าย... เราก็ได้แต่หวังว่า วันหนึ่งเราจะเข้มแข็งพอที่จะพูดในสิ่งที่อยากพูด โดยไม่กลัวว่าจะต้องเสียอะไรไปอีก แต่จนกว่าจะถึงวันนั้น
เราคงต้องยอม “เงียบ” ต่อไป ยอมให้คำที่อยากพูดกลายเป็นเสียงสะท้อนอยู่ข้างในใจ... ที่ไม่มีใครได้ยินเลย ไม่ใช่เพราะไม่กล้าแต่เพราะ
“เรายังไม่พร้อมจะเห็นทุกอย่างพังทลาย…เพียงเพราะคำพูดของเราเอง”

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่