ชื่นชม "รังสิมันต์ โรม" ชงปัญหาสแกมเมอร์เป็นวาระเร่งด่วนโลกสำเร็จ
https://www.thairath.co.th/news/politic/2891100
.
.
เลขาฯ สถาบันพระปกเกล้าชื่นชม "รังสิมันต์ โรม" ชงปัญหาสแกมเมอร์ เป็นวาระเร่งด่วนโลกสำเร็จ ยกเป็นพลังการทูตรัฐสภา
.
วันที่ 24 ตุลาคม 2568 นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชื่นชมบทบาทของ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคปชน. ในฐานะผู้แทนประเทศไทย ที่สามารถผลักดันให้ "ปัญหาสแกมเมอร์และอาชญากรรมข้ามชาติ" กลายเป็นวาระเร่งด่วนของโลก (Emergency Item) ในการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภาโลกครั้งที่ 151 (IPU151) ที่นครเจนีวา
.
นายอิสระระบุว่า การผลักดันข้อมติลักษณะนี้ในเวที IPU ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากประเทศสมาชิกส่วนใหญ่ และผ่านการพิจารณาหลายระดับ แต่การที่ประเทศไทยทำได้สำเร็จสะท้อนให้เห็นถึงพลังของการทูตรัฐสภา (Parliamentary Diplomacy) ที่แท้จริง
.
เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้าชี้ว่า การใช้เวทีระหว่างประเทศนี้คือการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และส่งเสียงในประเด็นที่กระทบต่อทุกประเทศ โดยระบุอย่างเสียดสีว่า ไม่ได้ว่าประเทศไหนนะครับ แต่มีคนร้อนตัวอยู่ไม่น้อย
.
นอกจากนี้นายอิสระยังมีกำหนดเข้าพบเลขาธิการ IPU เพื่อหารือเรื่องนวัตกรรมประชาธิปไตยและการเสริมสร้างธรรมาภิบาลข้ามพรมแดนเพิ่มเติม และเป็นที่น่ายินดีว่า เลขาธิการ IPU จะเดินทางเยือนประเทศไทยในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ เพื่อร่วมงานประชุมวิชาการของสถาบันพระปกเกล้า ณ อาคารรัฐสภา ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญในการแสดงบทบาทของไทยในเวทีโลก.
.
https://www.facebook.com/issara.sereewatthanawut/videos/1472594497184097/
.
.
กันจอมพลัง ร่ำไห้พ้อทำดีมันยาก ยื่นมท.สอบมูลนิธิ ลั่นขอพักอยู่กับลูก หลังถูกสังคมจี้ถามประเด็นดราม่า
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_5425887
.
กันจอมพลัง ร่ำไห้พ้อทำดีมันยาก ยื่นมท.สอบมูลนิธิ ลั่นขอพักอยู่กับลูก หลังถูกสังคมจี้ถามประเด็นดราม่า
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 24 ตุลาคม ที่กระทรวงมหาดไทย นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ ‘กัน จอมพลัง’ ได้เดินทางมาเพื่อยื่นหนังสือร้องให้ตรวจสอบมูลนิธิ กัน จอมพลัง ช่วยสู้ โดยมี ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รับเรื่อง
.
กัน จอมพลัง กล่าวว่า หลังจากแถลงข่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก็รู้สึกโล่งใจ และสบายใจขึ้น เพราะแฟนคลับเข้าใจ เพราะทุกประเด็นสามารถชี้แจงด้วยเอกสารได้ ไม่ใช่เพียงแค่การพูดจากปากเท่านั้น ขณะนี้การแสดงเอกสารเป็นที่เรียบร้อย เพื่อความชัดเจนและความโปร่งใส เพื่อแสดงความถูกต้องและความชัดเจน
.
วันนี้จึงเดินทางมายื่นหนังสือคำร้องตรวจสอบมูลนิธิกัน จอมพลังช่วยสู้ ที่ตัวเองเป็นคนก่อตั้ง เพื่อเป็นบรรทัดฐานให้กับมูลนิธิอื่น โดยตนเชื่อว่าขั้นตอนการตรวจสอบของกระทรวงมหาดไทยจะมีระบบ มีกลไกรูปแบบการตรวจสอบที่เป็นของกระทรวงอยู่แล้ว ซึ่งเรายินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยสามารถชี้อยู่ ชี้ไปให้กับมูลนิธิได้เลย
.
และนอกจากกระทรวงมหาดไทยแล้ว ถ้าหากทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. หรือหน่วยงานอื่นๆ ต้องการข้อมูลอะไร หรืออยากจะตรวจสอบตนเองก็ยินดี และพร้อมให้ตรวจสอบ กัน จอมพลัง ระบุว่า “ถ้าเราไม่บริสุทธิ์ใจเราไม่มาตรงนี้” นอกจากนี้ กัน จอมพลัง ระบุว่า ทุกคนที่โอนเงินมูลนิธิมีตัวตนหมด และถ้าหากเป็นการฟอกเงินหรือมูลนิธิม้า จะมายืนตรงนี้ให้ตรวจสอบทำไม
.
เมื่อถามว่ารู้สึกว่าตัวเองถูกลอยแพหรือไม่ ที่เมื่อเช้า ร.อ.ธรรมนัสไม่รู้เรื่อง และบอกว่า “กัน จอมพลัง เหมือนมือใหม่หัดขับ” กัน จอมพลัง กล่าวยอมรับว่า ร.อ.ธรรมนัสก็พูดถูก เพราะเราทุกคนใหม่หมด เรามาด้วยความที่อยากให้ทุกอย่างรวดเร็ว ยอมรับทุกอย่างเป็นเรื่องจริงไม่โทษใคร เรื่องนี้ทำให้ส่งผลกระทบกับหลายคน ทั้ง ร.อ.ธรรมนัสที่เอาชื่อมา ในฐานะลูกผู้ชายตนเองขอยอมรับ และขอโทษ ซึ่งการจัดตั้งมูลนิธิขึ้นมา ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ปรึกษากับ ร.อ.ธรรมนัส แต่ตอนปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งต้องแยกว่าตัวมูลนิธิกับ ร.อ.ธรรมนัสไม่ใช่คนเดียวกัน พร้อมกล่าวย้ำว่า “ต้องขอโทษด้วยครับ”
เมื่อถามว่าสนิทกับ ร.อ.ธรรมนัส ทำไมถึงไม่พูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส เรื่องนี้ กัน จอมพลัง ระบุว่าเพราะตน และอยากได้ความรวดเร็ว ส่วนที่ ร.อ.ธรรมนัสตำหนิกัน จอมพลังว่าทำอะไรไม่ค่อยคิด กัน จอมพลัง ก็ยอมรับว่าบางครั้งก็ไม่ได้คิดเยอะ ก็เป็นคนคนนึงที่มีความผิดพลาดได้
.
ส่วนที่มีคนกล่าวหาว่ามูลนิธิกัน จอมพลังช่วยสู้เป็นมูลนิธิม้า กัน จอมพลัง เชื่อว่าทุกคนที่โอนเงินบริจาคเข้ามา มีเจตนาให้มูลนิธินำเงินไปใช้เพื่อโครงการต่างๆ เพราะว่าใครเป็นประธาน ซึ่งมูลนิธิก็ทำตามวัตถุประสงค์ทุกคนจะเห็นได้จากการที่ตัวเองลงพื้นที่ช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด รวมถึงเรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันว่าไม่ได้เอาเงินมาใช้ส่วนตัว ไม่ได้เป็นนอมินีใคร ถ้าหากใครที่เคยลงหน้างานกับตนก็จะทราบดีว่าตัวเองทำงานจริงจัง ทุ่มเทขนาดไหน เสี่ยงขนาดไหนก็ไป
.
ส่วนเรื่องรถหรูที่มีคนตั้งข้อสังเกตนั้น กัน จอมพลัง ระบุว่า วันนี้ตัวเองทำอะไรก็ถูกจับจ้อง ซึ่งเรื่องรถก็ไม่มีอะไร ตนเองซื้อมา แล้วรถไม่สามารถโอนได้จึงคืนเขาไป ซึ่งตัวเองก็ไม่ได้ใช้รถคันนั้นมาเป็นปีๆ แล้ว พร้อมบอกว่ารถคันหรูขับมาตั้งแต่ขายบะหมี่แล้ว วันนี้จะกลับไปประชุมต่อที่โกดังของมูลนิธิ
ในส่วนที่มีคนกล่าวหาว่ามูลนิธิมีการถอนเงินสดออกมาจากธนาคาร ก็อยากให้มาแสดงหลักฐาน เพราะจากการตรวจสอบสเตตเมนต์ ไม่พบการกดเงินสดออกมา
.
ส่วนบทบาทการลงพื้นที่หลังจากนี้ จากการพูดคุยหลังจากนี้ตัวเองจะขอใช้เวลาอยู่กับลูก แต่หากวันใดสังคมเรียกร้องตัวเองก็จะกลับมา ส่วนจะหายไปนานหรือไม่ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะสิ่งที่ขาดมาโดยตลอด ตนเองช่วยเหลือสังคมจนไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัวและลูกสาว ซึ่งถ้าทุกคนเห็นจะรู้ว่าน้องหมี่เกี๊ยวลูกสาวหน้าตาเหมือนตัวเองมาก แต่ลูกกลับบอกว่าตัวเองหน้าตาเหมือนแม่ เพราะไม่ค่อยได้เจอตัวเองเนื่องจากต้องไปช่วยเหลือสังคม อย่างไรก็ตามมูลนิธิก็จะขับเคลื่อนต่อไป
.
กัน จอมพลัง พร้อมยืนยันว่าไม่เคยรู้สึกเสียดายที่เคยช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด แต่ในวันนี้จะต้องยุติบทบาท เพราะตนได้ช่วยชีวิตคนหลายคนไปแล้วตรงนั้นถือว่าประสบความสำเร็จไปแล้ว ตนภูมิใจและยินดีมากๆ ที่ได้ลงมือทำ
.
“ผมไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่นอน ผมรู้ดีว่าทำอะไรอยู่และทำอะไรลงไป แค่ทุกคนเห็นเอกสารเมื่อเช้าที่เปิดให้ดูก็คือเรื่องจริง ถ้าเราไม่ชัวร์เราต้องเละ แต่หากชัวร์ผมจะผ่านมันไปได้อย่างสง่างาม“ กัน จอมพลัง กล่าว
.
ขณะที่กัน จอมพลัง ให้สัมภาษณ์เสร็จ มีสีหน้าเศร้าน้ำตาคลอ เนื่องจากมีการกล่าวถึงลูกสาว ก่อนจะร้องไห้ออกมาเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีอะไรอยากจะฝากถึงลูกสาวหรือไม่ กัน จอมพลัง ระบุว่า ตนสละเวลากับลูกมามาก เวลาที่ผมอยู่กับลูกแทบไม่มี วันนี้ถามว่าจะมีสักกี่คนที่ทำแบบตน ตนเชื่อว่าคงมี แต่ตนเป็นคนหนึ่งที่เอาเวลาครอบครัวมาเสียสละให้กับสังคม
.
ยอมรับว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำผิดพลาดกับครอบครัวที่ไม่เคยมีเวลาให้ แต่พวกเขาก็ไม่เคยห้ามตนในการช่วยสังคม ตนจึงจะนำเวลาที่พักตรงนี้ไปให้ครอบครัว ”หมี่เกี๊ยวลูก วันนี้ปะป๊าไม่รู้ว่าหนูจะรู้ในสิ่งที่ปะป๊าทำไหมนะ แต่สักวันที่หนูโตขึ้นหนูจะภูมิใจในตัวปะป๊าและสิ่งที่ปะป๊าทำ การทำความดีมันยาก และในระหว่างทางอาจจะมีอุปสรรค แต่หนูจะรู้ว่ามีคนได้ประโยชน์จากสิ่งที่เราทำ ถ้าหนูจะเดินทางเดียวกับปะป๊าหนูจะต้องแข็งแกร่งมากกว่าปะป๊า“
.
.
ทนายเดชา สวน 'กัน จอมพลัง' แจงมูลนิธิบางอย่างยังไม่เคลียร์ ปิดบังข้อมูลหลายจุด ยินดีหากถูกฟ้อง
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9990720
.
ทนายเดชา สวนกลับ ‘กัน จอมพลัง’ ชี้แจงมูลนิธิ บางอย่างยังไม่เคลียร์ ปิดบังข้อมูลหลายจุด มีลักษณะคล้ายถูกครอบงำ ทุกอย่างต้องตรวจสอบได้ ยินดีหากถูกฟ้อง
.
กรณีที่
“มูลนิธิกัน จอมพลังช่วยสู้” ได้ออกมาแถลงชี้แจงต่อสังคมถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความไม่โปร่งใสในการบริหารจัดการและการใช้เงินบริจาค ส่งผลให้เกิดกระแสตั้งคำถามในวงกว้าง และแบ่งความคิดเห็นของประชาชนออกเป็นหลายฝ่าย
.
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 24 ต.ค 68 ที่ Decha&Lbs ทนายคลายทุกข์ ทนาย
เดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง แถลงข่าวภายหลังจากฟังคำชี้แจงทั้งหมด โดยระบุว่า จากที่ “
กัน จอมพลัง” ออกมาบอกว่าเป็นเพียงผู้ร่วมก่อตั้ง แต่ไม่ได้ใส่ชื่อในเอกสาร เพราะเกรงว่าจะดูไม่โปร่งใสนั้น ถือเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น
.
เพราะหากมีเจตนาดีจริง ควรบอกต่อสาธารณะตั้งแต่แรก ไม่ใช่ปกปิดไว้แล้วค่อยมาชี้แจงภายหลัง เนื่องจากการปิดบังตั้งแต่ต้น ทำให้เกิดข้อสงสัยต่อความโปร่งใสของมูลนิธิอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
.
ทนาย
เดชายังกล่าวถึง “คุณ
อีฟ” ซึ่งถูกระบุว่าเป็นประธานมูลนิธิ ว่าที่ผ่านมาไม่เคยแสดงตัวในฐานะประธานเลย ถือเป็นการปกปิดที่ชัดเจน แม้จะอ้างว่าไม่มีเจตนา แต่สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เป็นระบบและขาดความชัดเจนในโครงสร้างของมูลนิธิ ทั้งในด้านผู้บริหาร การตัดสินใจ และการใช้เงิน ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่องค์กรสาธารณะอย่างมูลนิธิควรโปร่งใสที่สุด
.
ในประเด็นของ
บอส ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ที่ออกมาทวงเงินบริจาคด้าน ทนาย
เดชายืนยันว่า มีความผิดปกติเกิดขึ้นจริง เนื่องจากมีบุคคลในวงการบันเทิงและสื่อหลายรายโทรมาปรึกษาในลักษณะเดียวกัน แสดงให้เห็นว่ามีความเสียหายเกิดขึ้น
.
อีกทั้งเมื่อสอบถามไปยังประธานมูลนิธิ กลับไม่สามารถตอบคำถามได้ชัดเจน ทั้งที่เงินบริจาคเข้าบัญชีของมูลนิธิโดยตรง ซึ่งหาก
ณวัฒน์เข้าใจผิด ก็ถือว่าได้รับความเสียหายแล้ว ต้องใช้สิทธิ์โดยการแจ้งความร้องทุกข์ ไม่สามารถนำเงินส่วนตัวของใครมาคืนแทนได้ เพราะต้องดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมาย
.
ทนาย
เดชา ยังเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นที่ฝ่ายมูลนิธิระบุว่า “
ไม่มีการถอนเงินสด” โดยยืนยันว่า ตนได้รับการติดต่อจากบุคคลหนึ่งในมูลนิธิ ซึ่งเป็นเพื่อนของตน และยังเป็นหนึ่งในกรรมการมูลนิธิด้วย เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม เวลาประมาณ 17.46 น. โดยเพื่อนคนดังกล่าวโทรมาปรึกษาเรื่องการถอนเงิน พร้อมแจ้งว่าจะมีรถของมูลนิธิมารับถึงบ้าน แต่ต่อมาอีก 2 วัน มีการนัดพูดคุยกับบุคคลสำคัญในวงการสื่อ ซึ่งเป็นคนดังมาก และพูดคุยถึงเรื่องการถอนเงินอีกครั้งในวันที่ 19 ต.ค.
.
ทนาย
เดชา กล่าวว่า ตนยืนยันว่ามีเพื่อนตน ที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการของมูลนิธิ โทรมาแจ้งจริงว่าได้รับการบอกกล่าวจากคนในมูลนิธิให้ไปถอนเงินแทนอีก 2 คนที่ไม่สะดวก ซึ่งเรื่องนี้ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด หากคุณ
กัน จอมพลัง เห็นว่าสิ่งที่ตนพูดไม่เป็นความจริง ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ทันที ตนยินดีไปขึ้นศาล เพราะอยากให้ความจริงปรากฏ หากมีหลักฐานจากเอกสารและสเตทเมนต์บัญชีจริงมาพิสูจน์เลยไม่ใช่เพียงการแสดงกระดาษต่อสื่อ
JJNY : 5in1 ชื่นชม"โรม" ชงวาระด่วนโลก│กันร่ำไห้ขอพัก│ทนายเดชาสวน'กัน'│SCB EIC เตือนศก.ไทยยังอ่อนแรง│ไต้หวันแจกเงินหมื่น
https://www.thairath.co.th/news/politic/2891100
.
https://www.facebook.com/issara.sereewatthanawut/videos/1472594497184097/
.
.
กันจอมพลัง ร่ำไห้พ้อทำดีมันยาก ยื่นมท.สอบมูลนิธิ ลั่นขอพักอยู่กับลูก หลังถูกสังคมจี้ถามประเด็นดราม่า
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_5425887
.
.
ทนายเดชา สวน 'กัน จอมพลัง' แจงมูลนิธิบางอย่างยังไม่เคลียร์ ปิดบังข้อมูลหลายจุด ยินดีหากถูกฟ้อง
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9990720
.
ทนายเดชา สวนกลับ ‘กัน จอมพลัง’ ชี้แจงมูลนิธิ บางอย่างยังไม่เคลียร์ ปิดบังข้อมูลหลายจุด มีลักษณะคล้ายถูกครอบงำ ทุกอย่างต้องตรวจสอบได้ ยินดีหากถูกฟ้อง
.
กรณีที่ “มูลนิธิกัน จอมพลังช่วยสู้” ได้ออกมาแถลงชี้แจงต่อสังคมถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความไม่โปร่งใสในการบริหารจัดการและการใช้เงินบริจาค ส่งผลให้เกิดกระแสตั้งคำถามในวงกว้าง และแบ่งความคิดเห็นของประชาชนออกเป็นหลายฝ่าย
.
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 24 ต.ค 68 ที่ Decha&Lbs ทนายคลายทุกข์ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง แถลงข่าวภายหลังจากฟังคำชี้แจงทั้งหมด โดยระบุว่า จากที่ “กัน จอมพลัง” ออกมาบอกว่าเป็นเพียงผู้ร่วมก่อตั้ง แต่ไม่ได้ใส่ชื่อในเอกสาร เพราะเกรงว่าจะดูไม่โปร่งใสนั้น ถือเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น
.
เพราะหากมีเจตนาดีจริง ควรบอกต่อสาธารณะตั้งแต่แรก ไม่ใช่ปกปิดไว้แล้วค่อยมาชี้แจงภายหลัง เนื่องจากการปิดบังตั้งแต่ต้น ทำให้เกิดข้อสงสัยต่อความโปร่งใสของมูลนิธิอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
.
ทนายเดชายังกล่าวถึง “คุณอีฟ” ซึ่งถูกระบุว่าเป็นประธานมูลนิธิ ว่าที่ผ่านมาไม่เคยแสดงตัวในฐานะประธานเลย ถือเป็นการปกปิดที่ชัดเจน แม้จะอ้างว่าไม่มีเจตนา แต่สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เป็นระบบและขาดความชัดเจนในโครงสร้างของมูลนิธิ ทั้งในด้านผู้บริหาร การตัดสินใจ และการใช้เงิน ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่องค์กรสาธารณะอย่างมูลนิธิควรโปร่งใสที่สุด
.
ในประเด็นของ บอส ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ที่ออกมาทวงเงินบริจาคด้าน ทนายเดชายืนยันว่า มีความผิดปกติเกิดขึ้นจริง เนื่องจากมีบุคคลในวงการบันเทิงและสื่อหลายรายโทรมาปรึกษาในลักษณะเดียวกัน แสดงให้เห็นว่ามีความเสียหายเกิดขึ้น
.
อีกทั้งเมื่อสอบถามไปยังประธานมูลนิธิ กลับไม่สามารถตอบคำถามได้ชัดเจน ทั้งที่เงินบริจาคเข้าบัญชีของมูลนิธิโดยตรง ซึ่งหากณวัฒน์เข้าใจผิด ก็ถือว่าได้รับความเสียหายแล้ว ต้องใช้สิทธิ์โดยการแจ้งความร้องทุกข์ ไม่สามารถนำเงินส่วนตัวของใครมาคืนแทนได้ เพราะต้องดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมาย
.
ทนายเดชา ยังเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นที่ฝ่ายมูลนิธิระบุว่า “ไม่มีการถอนเงินสด” โดยยืนยันว่า ตนได้รับการติดต่อจากบุคคลหนึ่งในมูลนิธิ ซึ่งเป็นเพื่อนของตน และยังเป็นหนึ่งในกรรมการมูลนิธิด้วย เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม เวลาประมาณ 17.46 น. โดยเพื่อนคนดังกล่าวโทรมาปรึกษาเรื่องการถอนเงิน พร้อมแจ้งว่าจะมีรถของมูลนิธิมารับถึงบ้าน แต่ต่อมาอีก 2 วัน มีการนัดพูดคุยกับบุคคลสำคัญในวงการสื่อ ซึ่งเป็นคนดังมาก และพูดคุยถึงเรื่องการถอนเงินอีกครั้งในวันที่ 19 ต.ค.
.
ทนายเดชา กล่าวว่า ตนยืนยันว่ามีเพื่อนตน ที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการของมูลนิธิ โทรมาแจ้งจริงว่าได้รับการบอกกล่าวจากคนในมูลนิธิให้ไปถอนเงินแทนอีก 2 คนที่ไม่สะดวก ซึ่งเรื่องนี้ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด หากคุณกัน จอมพลัง เห็นว่าสิ่งที่ตนพูดไม่เป็นความจริง ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ทันที ตนยินดีไปขึ้นศาล เพราะอยากให้ความจริงปรากฏ หากมีหลักฐานจากเอกสารและสเตทเมนต์บัญชีจริงมาพิสูจน์เลยไม่ใช่เพียงการแสดงกระดาษต่อสื่อ