“สุขุม” มอง “คนละครึ่งพลัส” พาภูมิใจไทยโกยแต้ม
.
.
“สุขุม” มอง “คนละครึ่งพลัส” พาภูมิใจไทยโกยแต้ม ตอกย้ำแบรนด์ “พูดแล้วทำ” ชี้โอกาสยุบสภายังน้อย
.
รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง แสดงความคิดเห็นต่อกระแสข่าวการยุบสภาก่อนกำหนด ว่า มีโอกาสน้อยมาก เนื่องจากพรรคการเมืองส่วนใหญ่ยังไม่พร้อม แน่นอนว่าทางพรรคภูมิใจไทยมอนิเตอร์พรรคอื่นอยู่ตลอดเวลา หากมีความจริงจังในเรื่องของการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคภูมิใจไทยน่าจะเดินเกมก่อนแต่ถามว่าพรรคอื่นพร้อมหรือไม่
.
รศ.ดร.สุขุม ระบุว่า ในช่วงนี้ พรรคภูมิใจไทยถือเป็นพรรคที่เดินเกมทางการเมืองได้อย่างมีจังหวะ ด้วยการเก็บคะแนนเสียงจากนโยบายที่เป็นรูปธรรมต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ที่เพียงเปิดลงทะเบียนไม่กี่ชั่วโมงแรก ก็สร้างภาพลักษณ์เชิงบวกให้กับรัฐบาลและพรรคภูมิใจไทยอย่างมาก เพราะถึงแม้ไม่ใช่ผู้ริเริ่มแนวคิด
.
แต่การลงมือทำ และผลลัพธ์ที่ประชาชนเห็นจริงในรัฐบาลนี้ กลับกลายเป็นแต้มทางการเมืองที่ชัดเจน
.
“ภาพประชาชนยืนต่อคิวลงทะเบียนหน้าธนาคาร หรือกดสิทธิ์ที่ตู้เอทีเอ็ม มันคือคะแนนทั้งนั้น” รศ.ดร.สุขุม กล่าว พร้อมชี้ว่า นโยบายอื่นๆ อย่าง การลดราคาพลังงาน ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ พูดแล้วทำของพรรคภูมิใจไทย แม้จะมีประเด็นวิพากษ์ในเรื่องปัญหาชายแดนหรือปัญหาแก๊งสแกมเมอร์ แต่คะแนนบวกในสายตาประชาชนยังมีมากกว่า
.
พร้อมกล่าวด้วยว่า ช่วงเวลานี้ พรรคภูมิใจไทยมีโอกาสขยายฐานคะแนนต่อเนื่องจากนโยบายเล็กๆ ที่จะทยอยออกมาอีกในอนาคต ไม่มีความจำเป็นต้องรีบยุบสภา”เพราะทุกนโยบายที่เดินอยู่ขณะนี้ล้วนเป็น แต้มต่อทางการเมืองที่สะสมได้จริง ยกเว้นแต่ว่าฝ่ายค้านจะจับมือกันเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจซึ่งมองมุมไหนก็ยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้
.
.
ทนายเดชา จี้ ตรวจสอบ มูลนิธิ "กัน จอมพลัง" ทำดีอย่ากลัวถูกตรวจสอบ
.
ทนายเดชา จี้ ตรวจสอบ มูลนิธิ “กัน จอมพลัง” เป็นมูลนิธิม้าหรือไม่ บี้สอบเพิ่มปมรถหรูจอดที่บ้านเพียบ เสียภาษีถูกต้องหรือไม่ ชี้ หากทำดีอย่ากลัวการตรวจสอบ
.
จากกรณี กัน จอมพลัง โพสต์คลิปชี้แจงผ่านเพจเฟซบุ๊ก “กันจอมพลัง ช่วยสู้” ถึงประเด็น “มูลนิธิกัน จอมพลังช่วยสู้” โดยระบุว่า ตนไม่ได้เป็นประธานหรือกรรมการของมูลนิธิ แต่เป็นเพียงผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ พร้อมตั้งคำถามว่า เหตุใดการที่ไม่มีชื่อตนอยู่ในคณะกรรมการจึงถูกมองว่าผิด ยืนยันว่าทุกฝ่ายต่างมีหน้าที่ของตน ทั้งฝ่ายทำงานและฝ่ายตรวจสอบ ต่างคนต่างทำหน้าที่เพื่อความโปร่งใส
.
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 ต.ค.2568 ที่ Decha&Lbs ทนายคลายทุกข์ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง กล่าวถึงกรณี มูลนิธิ “กัน จอมพลัง” ว่า ตอนนี้มีคนตั้งข้อสงสัยถึงความโปร่งใสในการจัดตั้งมูลนิธิ รวมถึงเงินเข้าออก ตอนนี้เริ่มมีการตรวจสอบและคิดว่าน่าจะตรวจสอบได้แล้ว โดยการจัดตั้งมูลนิธิส่วนมากการรับบริจาคก็ต้องการจะเอาเงินไปช่วยเหลือ แต่จะนำไปใช้อย่างถูกต้องหรือไม่ ก็ต้องดูจากการกระทำ
.
ส่วนขั้นตอนระบบการทำงานของมูลนิธิกัน จอมพลังเป็นอย่างไรนั้น เบื้องต้นเท่าที่ทราบจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้อง ต้องดำเนินการโดยคณะกรรมการที่มีชื่อ ไม่ใช่ดำเนินการจากคนภายนอกเข้ามาครอบงำกิจการ และยังมีเคสตัวอย่างที่ต้องถูกยุบมูลนิธิ เนื่องจากมีการถูกครอบงำกิจการ และทรัพย์สินทั้งหมด ต้องตกเป็นของแผ่นดิน
.
จึงตั้งข้อสงสัยว่า “กัน จอมพลัง” ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมูลนิธิเลยในทางกฎหมายต้องดำเนินการด้วยเสียงข้างมากของคณะกรรมการ ซึ่งคณะกรรมการทั้ง 3 มีชื่อเพื่อนของตน 1 คน ได้รับมอบหมายให้เป็นคณะกรรมการมูลนิธิดังกล่าว ซึ่งไม่ค่อยรู้เรื่องราว
.
ตนจึงตั้งข้อสงสัยอีกว่า 3 คณะกรรมการเป็นนอมินีหรือไม่ ซึ่ง กัน จอมพลัง ไม่เกี่ยวข้องกับมูลนิธิ ไม่มีสิทธิ์มาขับเคลื่อนหรือสั่งการมูลนิธิในการทำแต่ละโครงการได้ การทำถนน หรือบังเกอร์ ต่าง ๆ ได้
.
ล่าสุดที่มีการออกมาเปิดเผยว่า หากเลิกมูลนิธิกันจอมพลัง จะโอนทรัพย์สินทั้งหมดไปให้ “มูลนิธิธรรมนัส” ต่อมา กัน จอมพลัง บอกว่า จะเปลี่ยนเป็นอีกมูลนิธินั้น ซึ่งไม่สามารถทำได้ จึงอยากฝากคนที่เป็นนายทะเบียนกระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบและออกมาชี้แจง ซึ่งกรณีที่ “กัน จอมพลัง” ออกมาพูดว่ามูลนิธิอื่นก็ทำเหมือนกัน ก็ให้เปิดชื่อมูลนิธิมาเลยว่ามีมูลนิธิไหนบ้าง ซึ่งตนเชื่อว่าไม่มี
.
และที่มีการตั้งคำถามว่าทำไม “กัน จอมพลัง” ไม่ใช้ชื่อตัวเองเป็นกรรมการมูลนิธิ ทนายเดชา กล่าวว่า ตนก็ไม่ทราบว่าทำไม กัน จอมพลัง ถึงทำแบบนั้น แต่เคยสอบถามจากมูลนิธิอื่น ๆ เหมือนเป็นการหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบทางกฎหมาย เปรียบเหมือนนักการเมืองที่ส่วนใหญ่มักจะใช้นอมินีในการฟอกเงินหรือหลบเลี่ยงภาษี
.
ส่วนที่ทนายเดชาโพสต์เกี่ยวกับมูลนิธิม้า ทนายเดชา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ถ้าเปิดมูลนิธิมาแล้วแต่ไม่ได้บริหารจัดการเอง ให้บุคคลภายนอกจัดการก็เปรียบเทียบเหมือนการเปิดบัญชีม้า จึงฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย เนื่องจากหลักฐานชัดเจนแล้วเขาออกมายอมรับแล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมูลนิธิ
.
รวมถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยที่สามารถสั่งเรียก 3 คณะกรรมการมาดำเนินการสอบสวนได้เลย ส่วนตัวก็เป็นห่วงในเรื่องของการเบิกถอนเงินสด เช่นเดียวกับเคสหลวงพ่ออลงกต จะทำให้การตรวจสอบนั้นยากขึ้น
.
และหากประชาชนตั้งใจบริจาคเพราะชื่อมูลนิธิ แล้วมารู้ภายหลังว่า กัน จอมพลัง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะเข้าข่ายฐานฉ้อโกง ถึงแม้ว่าเงินดังกล่าวที่โอนไปจะถูกนำไปใช้อย่างถูกต้อง และประชาชนได้ประโยชน์ ทนายเดชา กล่าวว่า ตรงนี้ก็ต้องไปตรวจสอบ อย่างเช่น การซื้อเสื้อเกราะ ที่ตนทราบมาจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่า มีราคาที่ต่ำกว่าทางมูลนิธิจัดซื้อ จึงตั้งคำถามว่า เงินส่วนต่างไปตกหล่นที่ไหน
.
ล่าสุด กัน จอมพลัง ออกมาตัดพ้อว่า การทำความดีทำไมยากขนาดนี้ ต่อไปคงไม่มีใครกล้าทำความดีนั้น ตนขอยกตัวอย่างเช่น ทนายตั้ม ที่เปิดมูลนิธิเพื่อประชาชนถูกตรวจสอบและถูกดำเนินคดีติดคุกอยู่ตอนนี้ รวมไปถึงหลวงพ่ออลงกตที่ทำดีมา 30 ปี แต่ก็ยังถูกตรวจสอบ ดังนั้นหากทำดีอย่ากลัวการตรวจสอบ
.
ส่วนเรื่องที่ทนายเดชาโพสต์เกี่ยวกับรถแลมโบร์กีนีสีแดง ทนายเดชา กล่าวว่า มีคนสนิทของตน ให้ข้อมูลว่า กัน จอมพลัง มีรถหรูจอดที่บ้านอยู่หลายคัน จึงอยากให้ตรวจสอบว่ามีการเสียภาษีอย่างถูกต้องหรือไม่
.
รวมถึงคนในวงการลอตเตอรี่ ฝากถามถึงเรื่องโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวน 2 แสนฉบับ รายได้ 2-3 ล้านบาทต่อเดือน ว่าได้มาอย่างไร ถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากสงสารคนรากหญ้า และยังมีหลายบริษัทที่รอการตรวจสอบ
.
ทั้งนี้ อยากให้ประชาชนตาสว่าง ทุกครั้งที่บริจาคเงินกับคนดัง ควรดูข้อมูลให้ชัดเจนซึ่งเรื่องนี้อาจจะนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หากไม่ดำเนินการ จึงฝากไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง หากตรวจสอบแล้วว่าเป็นคนดีก็ทำงานต่อไป.
.
.
สวีเดนลงนามแสดงเจตจำนง ส่งกริพเพน 150 ลำให้ยูเครน คาดใช้เวลา 3 ปี ส่งมอบลำแรก
.
อุลฟ์ คริสเตอร์สัน นายกรัฐมนตรีของสวีเดน เปิดเผยวานนี้ (22 ตุลาคม) ว่า สวีเดนได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงที่จะจัดส่งเครื่องบินขับไล่กริพเพน ที่ผลิตภายในประเทศ จำนวนสูงสุด 150 ลำให้แก่ยูเครน
.
การลงนามดังกล่าว มีขึ้นในขณะที่เขาและโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้พบปะหารือกันที่เมืองลินเชอปิง ทางตอนใต้ของสวีเดน และได้เข้าเยี่ยมชมบริษัท SAABb.ST ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินรบกริพเพน JAS 39 ตลอดจนเครื่องบินตรวจการณ์ GlobalEye, ระบบขีปนาวุธ, อาวุธต่อต้านรถถังสำหรับทหารราบ และยุทโธปกรณ์อื่นๆ
.
คริสเตอร์สันกล่าวในการแถลงข่าวว่า ทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือระยะยาวด้านการป้องกันภัยทางอากาศ ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ในการส่งออกเครื่องบินขับไล่กริพเพนลำใหม่จำนวน 100-150 ลำ ซึ่งจะเป็นคำสั่งซื้อที่ใหญ่ที่สุดของสวีเดน
.
“เราตระหนักดีว่าเส้นทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล แต่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เรามุ่งมั่นที่จะสำรวจความเป็นไปได้ทั้งหมดในการจัดหาเครื่องบินรบกริพเพนจำนวนมากให้กับยูเครนในอนาคต” คริสเตอร์สันกล่าว
.
ความเป็นไปได้ในการจัดหากริพเพนให้กับยูเครนนั้น ได้รับการพิจารณาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ถูกระงับไว้เพื่อให้รัฐบาลยูเครน สามารถมุ่งเน้นไปที่การนำเครื่องบินขับไล่ F-16 ที่ผลิตในสหรัฐฯ เข้ามาประจำการตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
.
“เราได้เริ่มดำเนินการจัดหากริพเพนให้กับยูเครนแล้ว และคาดว่าสัญญาในอนาคตจะทำให้เราสามารถจัดหาเครื่องบินรบประเภทนี้ได้ไม่น้อยกว่า 100 ลำ” เซเลนสกีกล่าว
.
ขณะที่นักบินยูเครนได้เดินทางไปยังสวีเดนเพื่อทดสอบกริพเพนและช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดส่งเครื่องบินขับไล่เหล่านี้
.
เซเลนสกีกล่าวว่ายูเครนตั้งเป้าที่จะได้รับและเริ่มใช้งานเครื่องบินขับไล่กริพเพนในปีหน้า
.
“สำหรับกองทัพของเรา กริพเพนคือสิ่งสำคัญที่สุด มันเป็นเรื่องของเงินและการซ้อมรบ” เขากล่าว
.
อย่างไรก็ตาม คริสเตอร์สันกล่าวว่ายังไม่มีการตัดสินใจใดๆ แต่คาดการณ์ว่าการผลิตและการส่งมอบเครื่องบินกริพเพนลำใหม่ลำแรก อาจใช้เวลานาน 3 ปี และเสริมว่ายังไม่มีการตัดสินใจเกี่ยวกับการส่งมอบกริพเพนรุ่นเก่าในช่วงเวลาที่เร็วกว่านี้ แม้จะยังไม่ตัดความเป็นไปได้นี้ออกไปก็ตาม
.
อ้างอิง :
JJNY : “สุขุม”มองคนละครึ่งพลัส│จี้สอบมูลนิธิ"กัน"│สวีเดนแสดงเจตจำนงส่งกริพเพนให้ยูเครน│ม็อบ Gen Z ไม่เอานายกฯ จากคณะรปห.