แก้ปัญหานี้ไม่ได้มาประมาณ 1 ปี เลยอยากรู้ว่าต้องทำยังไง
เมื่อประมาณ 2 ปี ก่อนผมย้ายค่ายโทรศัพท์จากค่ายฟ้ามาเป็นค่าเขียวแบบเปิดเบอร์ใหม่ โดยซื้อแพ็คเกจ bundle 5G Netflix Package 699thb คือ สามารถโทรศัพท์+อินเตอร์เน็ต+ดู Netflix แบบ Basic package ได้ด้วย ก็เลยเอาไปผูกกับโทรทัศน์ที่คอนโดตัวเองอยู่ และก็ใช้อยู่คนเดียว ในช่วงต้นปี 2024 พบว่า AIS มีการเรียกเก็บค่าบริการเสริม Netflix 169 บาทเข้ามา และปรากฎรายการ Log-in device Netflix ที่ไม่ใช่เครื่องตัวเอง จึงไปติดต่อเคาท์เตอร์ห้างใกล้ๆ คอนโด เดินเรื่องอยู่ 2-3 เดือน ก็สามารถยกเลิกได้ และทางศูนย์บริการก็ทำการคืนเงินส่วนเกินจาก package หลักที่เราชำระไปแล้วทั้งหมดให้ สาเหตุที่ตรวจสอบพบว่า account Netflix โดน hack เหตุผล basic มากๆ ซึ่งช่วงเวลาเดียวกันก็พบว่าเมลล์ที่ใช้ผูกกับ account ดังกล่าวก็โดน hack เช่นเดียวกัน จึงทำการเปลี่ยน e-mail พร้อมรหัสใหม่ทั้งหมด ตอนนั้นจำได้ว่าเรื่องทั้งหมดจบที่เดือนพฤษภาคม 2567 ก็กลับมาใช้ package โทรศัพท์ตามเดิมนึกว่าปัญหาทุกอย่างจะจบแล้ว ใช้โทรศัพท์ได้อย่างสบายใจ ตัดการเชื่อมต่ออีเมลล์ใหม่กับอีเมลล์ที่โดน hack ทั้งหมด password ใดๆ ก็ไม่ใกล้เคียงกันเลย
ต่อมา EP2. พอดีมีโอกาสต้องเดินทางไปต่างประเทศช่วงเดือนธันวาคม 2567 จึงทำการซื้อ Package Roaming กับ AIS เพราะเห็นว่าราคาโอเค + ได้ประกันการเดินทางด้วย ก่อนบินก็ทำการเปิด Package และใช้งานตามปกติ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เดินทางไม่มีโอกาสได้ดู Netflix แม้แต่จากโทรศัพท์ตัวเอง และไม่เคย Log-in จากอุปกรณ์อื่นใดๆ เลย!! เพราะต้องเดินทางตลอด พอกลับจากต่างประเทศวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เช็คบิลในระบบพบว่า Package Roaming ที่ตัวเองซื้อ ถูกเปิดซ้อนกัน 2 packages (งงว่ามาได้ไง!?) หลังปีใหม่ก็เลยไปติดต่อที่เคาท์เตอร์ห้างใกล้คอนโดเหมือนรอบก่อน เจ้าหน้าที่ก็ทำการปิด Roaming ที่ซ้อนกันให้และ cancle ทำให้ไม่ต้องจ่ายเงิน เรื่องเหมือนจะจบ
ต่อมา EP3. พบว่า 1) AIS มีการเรียกเก็บค่าบริการเสริม Netflix 169 บาท โดยแจ้งว่า account Netflix ของเรามีการซื้อ basic package และเรียกเก็บมาเรื่อยๆ ทุกเดือนจนถึงปัจจุบัน (ตุลาคม 2568) 2) account Netflix มีการเข้าใจอุปกรณ์ซ้อนกัน 3 อุปกรณ์ โดยบอกว่ามีการเข้าใช้จากกรุงเทพ พัทยา และสมุทรปราการ ซึ่งทุกครั้งที่เจอก็จะกด disable devices ในระบบ แต่หลังจากนั้นไม่เกิน 1 นาที ทุก device ก็จะเข้ามา Log-in เหมือนเดิมทุกครั้ง หรือแม้แต่จะเปลี่ยนรหัส Netflix เป็นรหัสอื่น ก็จะมีการเข้า Log-in ภายใน 1 นาทีถัดมาทุกครั้ง
ปัญหาดังกล่าวเพิ่งมาพบช่วงเดือนพฤาภาคม 2568 เพราะไม่มีเวลาตรวจบิลโทรศัพท์และจ่ายเงินเกินค่าบริการ package หลักอยู่แล้วเพราะโทรศัพท์เยอะมาก แต่พอตรวจดูระเอียดๆ พบว่ามีการเรียกเก็บค่าบริการเสริมดังกล่าวตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 ช่วงที่เราไปปิด Roaming พอดี (เดา) แต่ตอนนั้นระบบไม่มีการแจ้งเตือนว่าเปิด basic package เสริมมาให้ พอพบเรื่องเดือนพฤษภาคม 2568 ก็ไปติดต่อสาขาอื่น เพราะตอนนั้นทำธุระอยู่ที่ห้างสาขานั้นพอดี ทิ้งเรื่องไว้ 2 อาทิตย์ พนักงานโทรมาบอกว่าไม่สามารถยกเลิกให้ได้เพราะลูกค้าเป็นคนสมัครเอง (เอ๊ะ 1) ก็ยืนยันว่าไม่ได้สมัคร และต้องการยกเลิกเลยตอนนี้ พนักงานบอกว่าต้องติดต่อยกเลิกกับ Netflix เองโดยตรง (แต่ AIS เป็นคนเก็บเงินนะ) ต่อมาก็เลยติดต่อไปที่ Call Center ของ Netflix ทาง Chat เจ้าหน้าที่ Netflix ยืนยันว่าไม่สามารถยกเลิกให้ได้เพราะ AIS เป็นคนเรียกเก็บเงิน หากยกเลิกสามารถทำได้กับ AIS ได้เลย (เอ๊ะ 2) เราก็เลย เอาล่ะ ถ้างั้นคงต้องกลับไปหาสาขาเดิมที่เป็นที่พึ่ง เดือนมิถุนายน 2568 ก็เลยเข้าไปติดต่อสาขาเดิมที่เคยแก้ปัญหาให้ได้ทุกอย่าง น้องที่เคาท์เตอร์ก็รับเรื่องให้เราเรื่องทั้งหมดพร้อมบอกว่า นี่ไงเคสเหมือนเดิมเลยดูในประวัติก็ได้ เหตุการณ์คล้ายกันเลย และหายเงียบไปเลย เดือนสิงหาคม 2568 ก็เลยไปตามเรื่อง คราวนี้ได้น้องคนใหม่รับเรื่องไว้เหมือนเดิม และบอกว่าไม่สามารถยกเลิกให้ได้ เพราะ Netflix เป็นคนให้บริการ (โยนกันไปกันมาล่ะ) เลยบอกน้องว่า งั้นเปลี่ยน Package ให้เลยจะได้ไม่มี bundle แล้ว เพราะปีนี้พี่แทบไม่ได้ดูอยู่แล้ว งานยุ่งสุดๆ และน้องก็ยืนยันว่าจะไม่มีการเรียกเก็บเงินใดๆ แล้ว ส่วนเรื่องการเปลี่ยน package หลัก ขออนุญาตปรึกษาหัวหน้าก่อน (ลูกค้าจะเปลี่ยน Package ต้องปรึกษาหัวหน้าด้วยเหรอเพิ่งรู้)
จากเรื่องทั้งหมด เหมือนจะใกล้แก้ปัญหาได้ แต่เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา AIS ส่งข้อความยืนยันมาเหมือนเดิมว่า มีการเรียกเก็บค่าบริการเสริม Netflix 169 บาท คือ ค่าบริการ 169 บาท ต่อเดือนก็คงไม่คิดว่าทำให้ AIS และ Netflix รวยจากค่าบริการนี้ แต่ก็คิดว่าไม่ใช่ค่าบริการส่วนที่เราควรจ่ายเช่นเดียวกัน ตอนนี้กดเปลี่ยน package เองใน AIS app ก็ทำไม่ได้ ระบบแจ้งว่าไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้เลย
แก้ปัญหานี้ยังไงดีนะ !?
AIS กับ NETFLIX จะเอายังไงดี?
เมื่อประมาณ 2 ปี ก่อนผมย้ายค่ายโทรศัพท์จากค่ายฟ้ามาเป็นค่าเขียวแบบเปิดเบอร์ใหม่ โดยซื้อแพ็คเกจ bundle 5G Netflix Package 699thb คือ สามารถโทรศัพท์+อินเตอร์เน็ต+ดู Netflix แบบ Basic package ได้ด้วย ก็เลยเอาไปผูกกับโทรทัศน์ที่คอนโดตัวเองอยู่ และก็ใช้อยู่คนเดียว ในช่วงต้นปี 2024 พบว่า AIS มีการเรียกเก็บค่าบริการเสริม Netflix 169 บาทเข้ามา และปรากฎรายการ Log-in device Netflix ที่ไม่ใช่เครื่องตัวเอง จึงไปติดต่อเคาท์เตอร์ห้างใกล้ๆ คอนโด เดินเรื่องอยู่ 2-3 เดือน ก็สามารถยกเลิกได้ และทางศูนย์บริการก็ทำการคืนเงินส่วนเกินจาก package หลักที่เราชำระไปแล้วทั้งหมดให้ สาเหตุที่ตรวจสอบพบว่า account Netflix โดน hack เหตุผล basic มากๆ ซึ่งช่วงเวลาเดียวกันก็พบว่าเมลล์ที่ใช้ผูกกับ account ดังกล่าวก็โดน hack เช่นเดียวกัน จึงทำการเปลี่ยน e-mail พร้อมรหัสใหม่ทั้งหมด ตอนนั้นจำได้ว่าเรื่องทั้งหมดจบที่เดือนพฤษภาคม 2567 ก็กลับมาใช้ package โทรศัพท์ตามเดิมนึกว่าปัญหาทุกอย่างจะจบแล้ว ใช้โทรศัพท์ได้อย่างสบายใจ ตัดการเชื่อมต่ออีเมลล์ใหม่กับอีเมลล์ที่โดน hack ทั้งหมด password ใดๆ ก็ไม่ใกล้เคียงกันเลย
ต่อมา EP2. พอดีมีโอกาสต้องเดินทางไปต่างประเทศช่วงเดือนธันวาคม 2567 จึงทำการซื้อ Package Roaming กับ AIS เพราะเห็นว่าราคาโอเค + ได้ประกันการเดินทางด้วย ก่อนบินก็ทำการเปิด Package และใช้งานตามปกติ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เดินทางไม่มีโอกาสได้ดู Netflix แม้แต่จากโทรศัพท์ตัวเอง และไม่เคย Log-in จากอุปกรณ์อื่นใดๆ เลย!! เพราะต้องเดินทางตลอด พอกลับจากต่างประเทศวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เช็คบิลในระบบพบว่า Package Roaming ที่ตัวเองซื้อ ถูกเปิดซ้อนกัน 2 packages (งงว่ามาได้ไง!?) หลังปีใหม่ก็เลยไปติดต่อที่เคาท์เตอร์ห้างใกล้คอนโดเหมือนรอบก่อน เจ้าหน้าที่ก็ทำการปิด Roaming ที่ซ้อนกันให้และ cancle ทำให้ไม่ต้องจ่ายเงิน เรื่องเหมือนจะจบ
ต่อมา EP3. พบว่า 1) AIS มีการเรียกเก็บค่าบริการเสริม Netflix 169 บาท โดยแจ้งว่า account Netflix ของเรามีการซื้อ basic package และเรียกเก็บมาเรื่อยๆ ทุกเดือนจนถึงปัจจุบัน (ตุลาคม 2568) 2) account Netflix มีการเข้าใจอุปกรณ์ซ้อนกัน 3 อุปกรณ์ โดยบอกว่ามีการเข้าใช้จากกรุงเทพ พัทยา และสมุทรปราการ ซึ่งทุกครั้งที่เจอก็จะกด disable devices ในระบบ แต่หลังจากนั้นไม่เกิน 1 นาที ทุก device ก็จะเข้ามา Log-in เหมือนเดิมทุกครั้ง หรือแม้แต่จะเปลี่ยนรหัส Netflix เป็นรหัสอื่น ก็จะมีการเข้า Log-in ภายใน 1 นาทีถัดมาทุกครั้ง
ปัญหาดังกล่าวเพิ่งมาพบช่วงเดือนพฤาภาคม 2568 เพราะไม่มีเวลาตรวจบิลโทรศัพท์และจ่ายเงินเกินค่าบริการ package หลักอยู่แล้วเพราะโทรศัพท์เยอะมาก แต่พอตรวจดูระเอียดๆ พบว่ามีการเรียกเก็บค่าบริการเสริมดังกล่าวตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 ช่วงที่เราไปปิด Roaming พอดี (เดา) แต่ตอนนั้นระบบไม่มีการแจ้งเตือนว่าเปิด basic package เสริมมาให้ พอพบเรื่องเดือนพฤษภาคม 2568 ก็ไปติดต่อสาขาอื่น เพราะตอนนั้นทำธุระอยู่ที่ห้างสาขานั้นพอดี ทิ้งเรื่องไว้ 2 อาทิตย์ พนักงานโทรมาบอกว่าไม่สามารถยกเลิกให้ได้เพราะลูกค้าเป็นคนสมัครเอง (เอ๊ะ 1) ก็ยืนยันว่าไม่ได้สมัคร และต้องการยกเลิกเลยตอนนี้ พนักงานบอกว่าต้องติดต่อยกเลิกกับ Netflix เองโดยตรง (แต่ AIS เป็นคนเก็บเงินนะ) ต่อมาก็เลยติดต่อไปที่ Call Center ของ Netflix ทาง Chat เจ้าหน้าที่ Netflix ยืนยันว่าไม่สามารถยกเลิกให้ได้เพราะ AIS เป็นคนเรียกเก็บเงิน หากยกเลิกสามารถทำได้กับ AIS ได้เลย (เอ๊ะ 2) เราก็เลย เอาล่ะ ถ้างั้นคงต้องกลับไปหาสาขาเดิมที่เป็นที่พึ่ง เดือนมิถุนายน 2568 ก็เลยเข้าไปติดต่อสาขาเดิมที่เคยแก้ปัญหาให้ได้ทุกอย่าง น้องที่เคาท์เตอร์ก็รับเรื่องให้เราเรื่องทั้งหมดพร้อมบอกว่า นี่ไงเคสเหมือนเดิมเลยดูในประวัติก็ได้ เหตุการณ์คล้ายกันเลย และหายเงียบไปเลย เดือนสิงหาคม 2568 ก็เลยไปตามเรื่อง คราวนี้ได้น้องคนใหม่รับเรื่องไว้เหมือนเดิม และบอกว่าไม่สามารถยกเลิกให้ได้ เพราะ Netflix เป็นคนให้บริการ (โยนกันไปกันมาล่ะ) เลยบอกน้องว่า งั้นเปลี่ยน Package ให้เลยจะได้ไม่มี bundle แล้ว เพราะปีนี้พี่แทบไม่ได้ดูอยู่แล้ว งานยุ่งสุดๆ และน้องก็ยืนยันว่าจะไม่มีการเรียกเก็บเงินใดๆ แล้ว ส่วนเรื่องการเปลี่ยน package หลัก ขออนุญาตปรึกษาหัวหน้าก่อน (ลูกค้าจะเปลี่ยน Package ต้องปรึกษาหัวหน้าด้วยเหรอเพิ่งรู้)
จากเรื่องทั้งหมด เหมือนจะใกล้แก้ปัญหาได้ แต่เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา AIS ส่งข้อความยืนยันมาเหมือนเดิมว่า มีการเรียกเก็บค่าบริการเสริม Netflix 169 บาท คือ ค่าบริการ 169 บาท ต่อเดือนก็คงไม่คิดว่าทำให้ AIS และ Netflix รวยจากค่าบริการนี้ แต่ก็คิดว่าไม่ใช่ค่าบริการส่วนที่เราควรจ่ายเช่นเดียวกัน ตอนนี้กดเปลี่ยน package เองใน AIS app ก็ทำไม่ได้ ระบบแจ้งว่าไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้เลย
แก้ปัญหานี้ยังไงดีนะ !?