“ดร.ไพบูลย์” แนะไทยใช้ 2 เวทีนานาชาติ ประกาศจุดยืนเป็นฐานปราบสแกมเมอร์
.
.
“ดร.ไพบูลย์” แนะไทยใช้ 2 เวทีนานาชาติ "‘ASEAN Summit – APEC" ประกาศจุดยืนเป็นศูนย์กลางปราบสแกมเมอร์ในกัมพูชา
.
ดร.ไพบูลย์ ปีตะเสน อาจารย์ประจำศูนย์เกาหลีศึกษา (ปี 2009-2024) และอดีตประธานศูนย์เกาหลีศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า นอกเหนือจากที่ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้ที่ประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา (IPU) สมัยที่ 151 มีมติบรรจุร่างข้อมติว่าด้วยอาชญากรรมองค์กรข้ามชาติ และอาชญากรรมไซเบอร์ และภัยคุกคามแบบผสมผสานต่อประชาธิปไตยและความมั่นคงของมนุษย์ ลงเป็นวาระเร่งด่วนในการประชุมใหญ่ IPU แล้ว
.
ประเทศไทยในฐานะที่มีภูมิประเทศใกล้ชิดกับกัมพูชาควรจะต้องแสดงบทบาทการเป็นศูนย์กลางการแก้ไขปัญหานี้ด้วย
.
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีประเทศไทย และรัฐบาลไทย สามารถใช้โอกาสจากการประชุม 2 เวทีใหญ่ระดับนานาชาติ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อประกาศจุดยืนความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลาง หรือฮับ (HUB) ในการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ ได้แก่ การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (ASEAN Summit) ครั้งที่ 47 ที่กำลังจะจัดขึ้น ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ของมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 26 – 28 ต.ค. 2568 และการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ที่จะจัดขึ้น ณ เมืองคยองจู ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 29 ต.ค. - 1 พ.ย. 2568 ซึ่งในเวทีหลังนี้ คาดว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีประเทศจีน จะเข้าร่วมด้วย
.
ทั้งนี้ สาระสำคัญในการประกาศจุดยืนของประเทศไทยคือ พร้อมรับการสนับสนุนปัจจัยต่างๆ จากนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณ บุคลากร เทคโนโลยี องค์ความรู้ รวมถึงหากหน่วยงานของนานาชาติประสงค์จะเข้ามาตั้งศูนย์ปรามปรามต่อต้านสแกมเมอร์ โดยใช้พื้นที่ของไทยก็ควรสนับสนุน และนายกรัฐมนตรีอาจมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเข้าไปมีส่วนช่วยในการบัญชาการ เพื่อให้เกิดภาพการทำงานร่วมกัน
.
“ประเทศไทยควรจะจับมือกับเกาหลีใต้ เพราะเกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งจีนและอเมริกา เราควรเสนอกับเกาหลีใต้ว่า ยินดีที่จะเป็นเซ็นเตอร์ หรือ เป็นฮับ (HUB) ในการบริหารจัดการปัญหาสแกมเมอร์ เชื่อว่าถ้าเราประกาศออกไปแบบนี้ทุกประเทศพร้อมจะลงขันแน่นอน ที่สำคัญคือ เราควรสื่อสารว่าการดำเนินการนี้ไม่เกี่ยวกับปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และเราไม่ได้ต่อว่าประเทศกัมพูชา แต่เรากำลังช่วยกันจู่โจมสแกมเมอร์ ซึ่งหากทั่วโลกกดดัน เชื่อรัฐบาลกัมพูชาก็ไม่กล้าปฏิเสธ” ดร.ไพบูลย์ กล่าว
.
ดร.ไพบูลย์ กล่าวต่อไปด้วยว่า ประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการแสดงเจตจำนงและประกาศตัวเป็น HUB ในการจัดการปัญหาสแกมเมอร์ คือ ภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นของไทยในเวทีโลก เพราะไทยเคยเป็นฐานที่ตั้งของสแกมเมอร์มาก่อนในกรณีก๊กอาน และในช่วงเวลานี้ ก็มีการปล่อยข่าวว่าสแกมเมอร์ในกัมพูชากำลังหลบหนีการจับกุมเข้ามายังฝั่งไทย แม้จะเป็นข้อมูลที่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด แต่ไทยก็อาจได้รับผลกระทบ ฉะนั้นการที่ไทยประกาศตัวเป็น HUB ในการแก้ไขปัญหา จะก่อให้เกิดความเชื่อมั่นในเวทีนานาชาติและเกิดภาพลักษณ์ที่ดี ถึงการเอาจริงเอาจังว่าไทยไม่เป็นส่วนหนึ่งของสแกมเมอร์อย่างเด็ดขาด
“นอกจากจะเป็นการประกาศจุดยืนในเวทีระหว่างประเทศแล้ว ยังถือเป็นการประกาศความเอาจริงเอาจังให้กับคนไทยที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายสแกมเมอร์ให้หยุดการกระทำ เพราะการกวาดล้างจับกุมจากที่มีไทยเป็น HUB คือ ความร่วมมือระดับโลก ไม่ใช่แค่เฉพาะทางการไทยแบบที่ผ่านมา ส่วนตัวเชื่อว่านอกจากจะสามารถคลี่คลายปัญหาภายนอกได้แล้ว ยังจะสามารถช่วยจัดการปัญหาภายในได้ด้วย” ดร.ไพบูลย์ กล่าว
.
นักวิชาการธรรมศาสตร์ กล่าวอีกว่า สาเหตุที่มั่นใจว่าหลายประเทศจะสนับสนุนประเทศไทย เนื่องจากขณะนี้ปัญหาสแกมเมอร์กระทบและเป็นปัญหาระดับโลก ทุกประเทศได้รับความเดือดร้อน เช่น ญี่ปุ่น ขณะนี้ก็กำลังจะคว่ำบาตรกัมพูชา รวมถึงประเทศอื่นๆ ในยุโรปด้วย สำหรับประเทศไทย พบว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวกำลังได้รับผลกระทบเชิงลบจากสแกมเมอร์กัมพูชา จากการพูดคุยกับตัวแทนสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) พบว่าขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในช่วงฤดูหนาว ได้แจ้งยกเลิกการเดินทางไปแล้วราว 65% เนื่องจากมีความกังวลและหวาดวิตกเรื่องความปลอดภัย ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่ได้มองว่าปัญหาอยู่แค่ที่ประเทศกัมพูชา แต่มองว่ามีความเสี่ยงทุกพื้นที่ทั้งภูมิภาค
.
ดร.ไพบูลย์ กล่าวต่อถึงกรณีที่เกาหลีใต้มีท่าทีจะคว่ำบาตรกัมพูชาว่า สิ่งที่จะส่งผลอย่างมากต่อกัมพูชา คือกัมพูชาจะไม่ได้รับความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA) ที่ประเทศพัฒนาแล้วจะมอบให้กับประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งที่ผ่านมาเกาหลีใต้ได้สนับสนุนงบประมาณเหล่านี้ให้กัมพูชาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยรัฐบาลที่ผ่านมาของ ยุน ซอก ยอล ที่ให้การสนับสนุนอย่างมหาศาล เช่น โครงการลุ่มแม่น้ำโขงที่ให้การสนับสนุนหลักพันล้านบาท รวมถึงโครงการอื่นๆ ที่เป็นโครงการต่อเนื่อง เช่น โครงการเพื่อการศึกษา โครงการด้านสาธารณสุข ด้านคมนาคม ด้านพลังงาน ด้านสิ่งแวดล้อม ฯลฯ
.
“ขณะนี้เกาหลีใต้กำลังเดินโครงการในเฟสสอง คือระงับตัดความช่วยเหลือโครงการ ODA ไปหลายโครงการ แต่อีกหนึ่งสิ่งที่จะส่งผลกระทบมหาศาลต่อกัมพูชา คือนักท่องเที่ยวเรือนแสนที่เคยเดินทางไปเที่ยวกัมพูชาตามโบราณสถานต่างๆ ก็ได้ถูกยกเลิกไปหมดแล้วจนถึงสิ้นปี สนามบินที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ของกัมพูชาก็แทบจะร้างผู้คน กระทรวงต่างประเทศของเกาหลีใต้ ได้มีคำสั่งห้ามพลเมืองเดินทางไปในบางพื้นที่ของกัมพูชา และไทยก็ดูเหมือนจะโดนหางเลขเรื่องนี้ไปด้วย ไทยก็ต้องปรับกลยุทธ์การทำงาน และการสื่อสารใหม่ในเวทีระหว่างประเทศว่าไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และจะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาด้วย” นักวิชาการธรรมศาสตร์
.
.
ประศาสน์ เผย เขมร ขอไม่ใช้ ‘โยกย้ายถอนทำลาย’ ปมหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว แจงเหตุถอนวาระสร้างรั้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_5423935
.
‘ทูตประศาสน์’ เผย ‘กัมพูชา’ ขอไม่ให้ใช้คำว่า ‘โยกย้ายหรือถอนทำลาย’ แต่ให้ใช้คำว่า ‘ปรับการถือครองที่ดิน’ ปมบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว แจงหลังจากนี้ วางหลักชั่วคราว ก่อนเสนอรัฐบาลเคาะให้ใครดำเนินการ ส่วนสร้างรั้ว ‘เขมร’ บอกไม่มีอำนาจ เลยนำออกจากวาระ ด้าน ‘อธ.เบญจมินทร์’ ชี้ เป็นความพยายามของไทย ลดทอนความตึงเครียด ยันบรรยากาศหารือตรงไปตรงมา'
.
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) พร้อมด้วย นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกันแถลงข่าวผลการหารือ JBC ภายหลังพิธีปิด
.
โดยนายเบญจมินทร์ ระบุว่า บรรยากาศการหารือเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา และนี่เป็นครั้งแรกของการประชุมเจบีซีและออกคำแถลงร่วมทั้งนี้เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความจริงใจในการเร่งการจัดทำหลักเขตแดนทางบก เพราะเป็นส่วนสำคัญในความพยายามของไทยเพื่อที่จะลดความตึงเครียดบริเวณแนวชายแดน
.
ด้านนายประศาสน์ ได้ย้ำถึงบันทึกการประชุมร่วมกันของสองฝ่าย และเพิ่มเติมว่าเรื่องรั้วชายแดน ตนได้ยกขึ้นพูดในคำกล่าวเปิดว่าไอเดียในการสร้างรั้ว เพื่อป้องกันปัญหา เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่ง ลักลอบเข้าเมือง รวมถึงการปิดกั้นยาเสพติด โดยกัมพูชาบอกว่าเขาไม่มีอำนาจที่จะมาหารือในการสร้างรั้ว จึงได้นำเรื่องนี้ มีการหารือกันเกินครึ่งชั่วโมง ก่อนจะนำออกจาระเบียบวาระการประชุม
.
จากนั้น นายเบญจมินทร์ กล่าวเสริมว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมเน้นเฉพาะเรื่องหลักเขตแดนกับภารกิจและอำนาจของเจบีซีและคณะกรรมาธิการจะต้องนำผลการเจรจาไปเสนอยังรัฐบาล ดังนั้นรายละเอียดรวมถึงเรื่องที่อาจจะไม่ได้อยู่ในกรอบเจบีซีกระทรวงการต่างประเทศขอชี้แจงในโอกาสถัดไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดจากประเด็นที่มีความละเอียดอ่อนในการเจรจาในวันนี้รวมทั้งรักษาพลวัตที่ดีของการประชุมอันจะนำไปสู่การลดทอนความตึงเครียดของสถานการณ์และการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในอนาคต
.
เมื่อถามถึงบริเวณบ้านหนองจานและหนองหญ้าแก้ว เราได้มีการพูดคุยว่าอย่างไรบ้าง นายประศาสน์ กล่าวว่า เรามีการหารือเรื่องบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว ตกลงว่าก่อนที่เราจะรู้ว่าเขาล้ำหรือไม่ เราก็ต้องวางหลักชั่วคราวระหว่างหลักที่เขาอ้างกับหลักที่เราอ้าง ระยะทางกำลังเจรจากันอยู่ว่าจะปักถี่แค่ไหน ซึ่งจะเห็นหลักเขตของเขาและหลักของเรา แล้วจะได้ส่งต่อให้กลไกที่เหมาะสม คือหารือกับทางรัฐบาล
.
“เขาใช้คำว่าปรับการถือครองที่ดิน ขอไม่ใช้คำว่าโยกย้ายหรือถอนทำลาย เพราะมันอาจจะมากกว่านั้นหรือแล้วแต่ แต่เราใช้คำกลางๆ ไป ปรับการถือครอง ปรับการครอบครองที่ดิน” นายประศาสน์ กล่าว
.
เมื่อถามว่าเรามีระยะเวลาหรือไม่ว่ากี่วันในการดำเนินการ นายประศาสน์ กล่าวว่า ยังไม่ขอลงรายละเอียด ซึ่งหากปักหลักเสร็จแล้ว จะเสนอให้รัฐบาล ซึ่งรัฐบาลจะตัดสินใจว่าจะมอบหมายให้ใคร ของฝ่ายเราใครเป็นกลไกล ของฝ่ายเขาใครเป็นกลไก และหารือกันว่าจะทำแผนปฏิบัติการได้อย่างไรในการแก้ไขปัญหาการปรับตรงนี้ เพราะฉะนั้น กลไกในอนาคตต้องรอสำรวจให้เสร็จ ต้องใช้เวลาสักพัก ขอความเห็นใจ เพราะติดค้างมา 26 – 27 ปีแล้ว เราก็พยายามเร่งที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว
.
เมื่อถามว่าครั้งที่แล้วมีการคุยเรื่องหลักหมุดบ้านคลองแผง ตาพระยา หลักหมุดที่ 33-35 ที่มีการลุกลามของชาวกัมพูชาเช่นเดียวกัน วันนี้มีการพูดคุยถึงตรงนี้หรือไม่ นายประศาสน์ กล่าวว่า ตนได้มีการเตรียมการประชุมฝ่ายไทย โดยหารือทางกองทัพและจังหวัด ว่ามีอะไรที่จะให้ยกเป็นเรื่องด่วนในขณะนี้ครั้งนี้สมัยวิสามัญเป็นเรื่องด่วนก็มีการตกลงกันว่าเรื่องด่วนเป็นบ้านหนองหญ้าแก้วและบ้านหนองจาน ส่วนปัญหาอื่นรอในโอกาสต่อไป ตนได้รับความเห็นชอบว่าเอา 2 เรื่องนี้ให้จบก่อน ขอเอาเรื่องร้อนตรงนี้ก่อน ดับไฟให้ได้ตรงนี้ก่อน ซึ่งเป็นที่มาของการนัดเร็วที่สุดในครั้งถัดไปในเดือน ม.ค.
.
เมื่อถามว่ากัมพูชาจะมีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ในการพูดคุยกับเราเรื่องบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว นายประศาสน์ กล่าวว่า เราไม่ลงรายละเอียด เพราะต้องนำไปเสนอรัฐบาล ซึ่งประเด็นนี้แลกเปลี่ยนกัน 2 ชั่วโมง เราพูดได้แค่นี้ว่าจะคุยกันแค่นี้ ตอนนี้เรายังยังไม่รู้เลยว่าเขตที่แต่ละฝ่ายอ้างสิทธิ์ พื้นที่จริงอยู่ที่ไหน ต้องไปปักเขตให้เห็นก่อนว่าที่เห็นต่างจะทำอย่างไรต่อ ทำทีละลำดับ หาตำแหน่งให้เสร็จ ได้แนวมาแล้วรัฐบาลก็จะแต่งตั้งว่าใครจะเป็นคนคุย จะคุยอย่างไร ยังอีกยาว แต่เราพยายามเร่งรัดเร็วที่สุดแล้ว ถึงได้ดึกขนาดนี้ ถึงเวลานั้น กว่าจะทำคู่มือเสร็จไม่ต่ำกว่า 6 สัปดาห์ ตอนนี้ตกลงหลักการไว้ถึงเวลาเราต้องระดมกำลังของเรา
JJNY : “ดร.ไพบูลย์”แนะไทยใช้ 2 เวที│เผยเขมรขอไม่ใช้‘โยกย้ายถอนทำลาย│สหรัฐคว่ำบาตรบ.น้ำมันใหญ่รัสเซีย│เตือน!ใต้มีฝนตกหนัก
.
.
ประศาสน์ เผย เขมร ขอไม่ใช้ ‘โยกย้ายถอนทำลาย’ ปมหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว แจงเหตุถอนวาระสร้างรั้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_5423935
.