ปชน.จี้อนุทิน ตอบให้ชัด ปราบสแกมเมอร์ ทำไมอ้ำอึ้ง ปมธรรมนัส ซี้เบนสมิธ
.
.
ปชน.จี้อนุทิน ตอบให้ชัด ปราบสแกมเมอร์ ทำไมอ้ำอึ้ง ปมธรรมนัส ซี้เบนสมิธ
.
เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 16 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญชุติพงศ์ ส.ส.ระยอง พรรคประชาชน ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงปฏิกิริยาของรัฐบาลที่เกี่ยวกับการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์มีความล่าช้าไปหรือไม่ ว่า เอาง่ายๆ เรื่องที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกี่ยวข้องกับนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือนายเบน สมิธ ตามที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ประธาน กมธ.ฯ ได้อภิปรายไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ตนยังไม่เห็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะพูดอะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องที่ว่า ร.อ.ธรรมนัสเกี่ยวข้องหรือไม่ รวมถึงได้ไปคุยและได้ไปหาข้อเท็จจริงแล้วหรือไม่ แต่สิ่งที่นายอนุทินทำตลอดมาตั้งแต่เป็นนายกฯ คือการหลีกเลี่ยงตอบคำถามเรื่องสแกมเมอร์ และจะเอาอย่างไรกับสแกมเมอร์ที่อยู่ในกัมพูชา เลี่ยงที่จะตอบว่าการทำงานเป็นอย่างไร ซึ่งเมื่อวาน (15 ต.ค.) ชัดมาก เพราะนายอนุทินบอกว่ามีผู้รับผิดชอบแล้ว และไม่พูดอะไรต่อ สักพักก็ระบุว่าเซ็นตั้งซุปเปอร์บอร์ดเพื่อให้แก้ไขปัญหาแล้ว
.
“ผมต้องถามว่าหน่วยงานที่มีทุกวันนี้ ได้สั่งการไปตามปกติและหรือไม่ ได้เรียกข้อมูลจาก AOC รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทยแล้วหรือไม่ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่มีอำนาจยึดทรัพย์แก๊งสแกมเมอร์ ได้มีการดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง หรือมาตรการและกฎหมายที่มีทุกวันนี้พอแล้วหรือไม่ แม้แต่คนที่ทางสหรัฐอเมริกา อังกฤษหมายหัวไว้ อย่างนายเบน สมิธ เรื่องเหล่านี้นายอนุทินไม่ได้ฟังนายรังสิมันต์พูดเลยหรือ เพราะทราบมาว่านายเบน สมิธ กลับมาอยู่ในประเทศไทยแล้ว และคนที่ถูกหมายหัวจากทั้ง 2 ประเทศ ทำให้เห็นแล้วว่าทำอะไรได้บ้าง แล้วนายอนุทินทำอะไรไปบ้างแล้วหรือไม่” นายชุติพงศ์กล่าว
.
นายชุติพงศ์กล่าวต่อว่า บอร์ดที่ตั้งขึ้นมาดำเนินการและมอบนโยบายอย่างไร เพราะตนยังไม่เห็นนโยบาย ไม่เห็นความจริงจัง จริงใจในการแก้ปัญหาทั้งในและนอกประเทศ ถ้าต้องถามกันตรงๆ นายอนุทินเกรงใจใครอยู่หรือไม่ หรือกังวลอะไรอยู่ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ใกล้กับคนไทย ดูดเงินจากกระเป๋าคนไทยไปเป็นแสนล้าน และเข้ามาอยู่ใกล้ศูนย์กลางอำนาจรัฐ ขนาดนี้ยังต้องรออะไร หรือรอซุปเปอร์บอร์ดประชุมอีกกี่ครั้ง ขณะที่ประเทศเกาหลีใต้ประกาศออกมาแล้วว่าจะช่วยคนของเขาออกจากประเทศกัมพูชา ขณะที่ประเทศเราอยู่ติดกัมพูชาแต่นิ่งเฉย อย่างนี้นานาชาติเขาจะมองเราอย่างไร อาจมองว่าเรานิ่งเฉย หรือเกิดอะไรขึ้นที่อยู่ดีๆ สมเด็จฯฮุน เซน ประธานวุฒิสภา ประกาศว่าจะปราบเว็บพนันหรือสแกมเมอร์ของนักการเมืองไทยที่อยู่ในกัมพูชา จึงต้องถามว่านายอนุทินได้ดำเนินการอะไรบ้างในฐานะนายกฯ เพื่อทำให้เกิดความชัดเจนว่า ไม่มีคนสักคนในรัฐบาลนี้เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ ไม่เช่นนั้นประชาชนก็เคลือบแคลงแบบนี้ต่อไปว่าการตั้งบอร์ดแบบนี้ขึ้นมาเป็นการเตะถ่วงหรือหลีกเลี่ยงที่จะบอกว่าทำอะไรได้บ้าง
.
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนเสียใจหรือไม่ที่โหวตให้นายอนุทินเป็นนายกฯ แต่กลับเพิกเฉยเรื่องการปราบแก๊งสแกมเมอร์ นายชุติพงศ์กล่าวว่า ปัญหาการเลือกนายกฯที่ผ่านมาเกิดจากรัฐธรรมนูญ ปี’60 ที่ทำให้เราไม่สามารถเลือกนายกฯของพรรคประชาชนได้ แม้เราจะมีเสียงมากที่สุด สถานการณ์ทำให้ทำให้เราต้องเลือกใครสักคนมาทำหน้าที่ยุบสภา หลังจากเกิดวิกฤตศรัทธาที่มีปัญหาเรื่องคลิปเสียงหลุด และชื่อของบุคคลที่จะเป็นนายกฯมีแค่นายชัยเกษม นิติสิริ และนายอนุทิน เราพิจารณาอย่างรอบด้าน และตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะหาทางออกให้กับประเทศ เราจึงเลือกนายอนุทิน ภายใต้ภารกิจที่ต้องทำให้ได้ คือยุบสภา และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเราเป็นฝ่ายค้าน เราไม่ได้คาดหวังให้นายอนุทินเป็นผู้แก้ไขวิกฤตทั้งหมดในช่วงเวลาแค่ 4 เดือน แต่หวังว่านายอนุทินจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้เท่านั้นพอ
.
“ส่วนเรื่องที่คุณอนุทินประกาศในวันแถลงนโยบายว่าใน 4 เดือนจะทำงานอย่างหนัก เป็นพรรคที่พูดแล้วทำ นายอนุทินเลยไม่พูดเลย จะได้ไม่ต้องทำในเรื่องของสแกมเมอร์และคอลเซ็นเตอร์ ถ้านายอนุทินเข้ามาแล้วบอกว่าจะทำงานแล้วทำไม่ได้ พอการเลือกตั้งมาถึงประชาชนก็จะได้พิจารณาว่าผู้ที่เข้ามาเป็นนายกฯ 4 เดือน ที่ประกาศว่าจะทำอะไรนอกเหนือ MOA และอยู่ในอำนาจของเขา แล้วทำไม่ได้ ก็จะเป็นผลงานที่คุณอนุทินฝากไว้ โดยเฉพาะเรื่องสแกมเมอร์ท่านทำไม่ได้ โอกาสทองฝังเพชรครั้งนี้อยู่ที่คุณอนุทิน จะโยนมันทิ้งปล่อยให้คนไทยลำบากต่อไป ทิ้งโอกาสที่เราจะเป็นพันธมิตรกับโลกทั้งใบ ในการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่เรากำลังจับตาครั้งนี้ไปหรือไม่ ถ้าไม่รู้จะทำอย่างไรทาง กมธ.ยินดีให้ข้อมูล แต่ก็ไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างใด ผมคิดว่านายอนุทินต้องทำให้มากกว่าการสนับสนุนอินฟลูเอนเซอร์เปิดเสียงผี เพราะรัฐบาลต้องทำให้ได้มากกว่านั้น” นายชุติพงศ์กล่าว
.
เมื่อถามถึงกรณีที่นายอนุทินจะโทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้เพื่อแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา นายชุติพงศ์กล่าวว่า ถ้าโทรไปก็ขอฝากนายอนุทินเสนอมาตรการเชิงรุกบ้าง ไม่ใช่บอกว่ารับทราบเฉยๆ เราต้องแสดงบทบาทในฐานะประเทศที่มีชายแดนติดกับกัมพูชา ที่ต้องช่วยเหลือให้ประเทศอื่นแก้ปัญหาแก๊งสแกมเมอร์ต่อไปได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยต้องประสานความร่วมมือเอาคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาโดยเฉพาะในพื้นที่สแกมเมอร์ กลับออกมาให้หมดแล้วมาคัดแยก ว่าใครเป็นตัวใหญ่หรือเหยื่อ ถ้าเราช่วยได้ทั้งคนไทยและคนประเทศอื่นๆ บทบาทของไทยในเวทีโลกก็จะเป็นที่ยอมรับในเวทีโลก และย้ำว่าโอกาสทองอยู่ในมือนายอนุทิน และการพูดคุยกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ถ้าไม่มีคำตอบอะไรที่ชัดเจนให้เขา ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
.
เมื่อถามว่าจะมีการเชิญ ร.อ.ธรรมนัส และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และหัวหน้าพรรคกล้าธรรม เข้ามาชี้แจงต่อ กมธ.อีกหรือไม่ นายชุติพงศ์กล่าวว่า เชิญมาอีกแน่นอนในเร็วๆ นี้ ซึ่งเราเห็นความขึงขังจาก ร.อ.ธรรมนัส ว่าพร้อมช่วยปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนัน จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ ร.อ.ธรรมนัส จะมาชี้แจงว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง พร้อมช่วยประเททศไทยในการแก้ปัญหาอย่างไร และสามารถชี้แจงได้ด้วยว่าเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับนายเบน สมิธ ถ้า ร.อ.ธรรมนัส เลือกที่จะรำวงไปเรื่อยๆ ไม่ตอบอะไรเลย และถ้านายอนุทินยังไม่ทำอะไร ยิ่งนานไปคนยิ่งสงสัยว่าการเงียบของนายอนุทินอยู่ภายใต้ความเกรงใจอะไรหรือไม่ ถ้ายิ่งช้า ยิ่งเงียบคนที่เสียหายที่สุดคือนายอนุทินและพรรคภูมิใจไทย
.
.
ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติยืนยัน “ทุ่นระเบิด PMN-2” แนวชายแดน ไทย–กัมพูชา “เป็นของใหม่”
.
ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติออกมายืนยันแล้ว! ทุ่นระเบิด PMN-2 ที่พบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา “เป็นของใหม่” และ “เพิ่งถูกฝังไว้ใต้ดินเพียงไม่กี่เดือน”
.
วันที่ 16 ต.ค. 68 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญหลายคน พบว่า ทุ่นระเบิดที่จุดชนวนให้เกิดเหตุปะทะไทย-กัมพูชา “น่าจะเป็นระเบิดที่เพิ่งวางใหม่”
.
รอยเตอร์ระบุว่า นับตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มีทหารไทยอย่างน้อย 6 นายได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดที่ฝังอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยพบว่าเป็น PMN-2 หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคลจากสหภาพโซเวียต ซึ่งไทยกล่าวหาว่าเป็นระเบิดใหม่ที่กัมพูชาลักลอบนำไปวาง
.
กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยบอกว่าเป็นวัตถุระเบิดที่ไม่ใช่ PMN-2 ซึ่งหลงเหลือมาจากช่วงสงครามกลางเมือง
.
ล่าสุด สำนักข่าวรอยเตอร์ได้เข้าถึงข้อมูลของกองทัพไทย เป็นวิดีโอและภาพถ่ายของปฏิบัติการกวาดล้างทุ่นระเบิด PMN-2 ช่วงวันที่ 18-23 ก.ค. 68 นอกจากนี้ ระหว่างการเยือนพื้นที่แนวหน้าของไทยในเดือน ส.ค. รอยเตอร์ได้ถ่ายภาพสะเก็ดระเบิดที่เจ้าหน้าที่ระบุว่าเก็บกู้ได้จากเหตุการณ์เหล่านั้น รวมถึงภาพถ่ายทุ่นระเบิดที่ยังคงสภาพดีหลายสิบลูกที่ไทยระบุว่าเก็บกู้ได้ตามแนวชายแดน
.
สำนักข่าวรอยเตอร์ได้ตรวจสอบข้อมูล metadata ของภาพถ่าย 7 ภาพ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ภาพเหล่านั้นถ่ายในช่วงเวลาเดียวกับที่ปฏิบัติการกวาดล้างทุ่นระเบิดของไทยเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 18-23 ก.ค. แต่ข้อมูล metadata ไม่ได้ระบุข้อมูลตำแหน่ง
.
ผู้เชี่ยวชาญด้านทุ่นระเบิดอิสระ 4 คน ซึ่งรอยเตอร์ได้ขอให้ประเมินข้อมูลดังกล่าว กล่าวว่า “ภาพเหล่านี้เป็น PMN-2 ที่เพิ่งถูกวางใหม่”
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ไม่สามารถระบุได้ว่าใครเป็นผู้วางทุ่นระเบิดดังกล่าว
.
ลี ธุช รองประธานหน่วยงานปฏิบัติการและช่วยเหลือเหยื่อทุ่นระเบิดกัมพูชา (CMAA) แย้งว่า รูปภายนอกเพียงอย่างเดียวไม่สามารถพิสูจน์อายุของระเบิดได้อย่างชัดเจน
.
“ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและการรบกวนสามารถทำให้วัตถุที่ถูกฝังไว้เป็นเวลานานดูค่อนข้างใหม่ได้” เขากล่าวกับรอยเตอร์
.
ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทยกล่าวว่า ทุ่นระเบิดที่ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บเป็นทุ่นระเบิด PMN-2 ที่เพิ่งติดตั้งใหม่ “ทุ่นระเบิดเหล่านี้ถูกพบในสภาพใหม่ ยังคงมีร่องรอยให้เห็นชัดเจน” และยืนยันว่า ไทยไม่สามารถเข้าถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มาจากโซเวียตได้ และย้ำว่าไม่เคยนำระเบิด PMN-2 มาใช้
.
ด้าน แอนดรูว์ เวียน สมิธ ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านวัตถุระเบิดจากสหราชอาณาจักร ซึ่งเคยทำงานในกัมพูชา แต่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในเหตุไทย-กัมพูชา กล่าวว่า สภาพของ PMN-2 ในภาพที่กองทัพไทยและสำนักข่าวรอยเตอร์บันทึกไว้ บ่งชี้ว่า “พวกมันถูกฝังไว้ใต้ดินมาเพียงไม่กี่เดือน”
.
สมิธกล่าวว่า PMN-2 รุ่นเก่ามีสัญญาณบ่งชี้ คือ ตัวเรือนพลาสติกที่ยืดหยุ่นได้จะเปราะบางลงเมื่อเวลาผ่านไป และยังมีแผ่นยางที่ส่วนใหญ่เมื่ออยู่ในดินมักจะต้องหมองลงอย่างรวดเร็ว สะสมสิ่งสกปรกในช่องว่าง
.
“แต่ทุ่นระเบิดที่ผมเห็นไม่มีอะไรอยู่ในช่องว่างเหล่านั้น” สมิธกล่าว
.
ขณะที่ เยชัว โมเซอร์-พวงสุวรรณ จาก Landmine Monitor ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรณรงค์ระหว่างประเทศเพื่อห้ามทุ่นระเบิด กล่าวว่า ทุ่นระเบิดไม่ได้ถูกปกคลุมด้วยรากไม้และพืชพรรณอย่างที่ควรจะเป็นหากฝังไว้ใต้ดินเป็นเวลานาน
.
ลี ธุช แย้งว่า การกัดเซาะของดิน น้ำท่วม และพืชพรรณที่เคลื่อนตัว อาจทำให้ทุ่นระเบิดเก่าดูใหม่กว่าความเป็นจริง
.
แต่โมเซอร์-พวงสุวรรณ กล่าวว่า น้ำท่วมอาจอธิบายตำแหน่งที่เปลี่ยนไปของทุ่นระเบิดได้ แต่ปัจจัยเหล่านี้ไม่ได้ทำให้วัตถุระเบิดดูใหม่
JJNY : ปชน.จี้ตอบปมธรรมนัสซี้เบนสมิธ│ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติยันทุ่นของใหม่│ติงโหนกระแส│รัฐมนตรีเกาหลีใต้ พบ "ฮุน มาเนต"