นิยายของผมเอง ART Genesis

ช็อต 1
การต่อสู้ของซีรอส
ซีรอสถูกนักเลงทั้งสามรุมทำร้าย เขาต้องป้องกันตัวเองด้วยพลังคลื่นวัตถุที่ออกมาจากปลายปากกา โล่สีฟ้าสะท้อนแสงแดด และคลื่นพลังที่พุ่งออกไปสลายแรงโจมตีทุกชนิด ขณะที่นิตาเสกกระบองของเขากระแทกเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน และณัฐนิชาปล่อยหมัดไฟใส่ซีรอสแบบต่อเนื่อง

แต่ซีรอสกลับใช้การเคลื่อนไหวแบบ ผสมผสานระหว่างศิลปะและพลัง ดาบคาตานะของเขาโลดแล่นไปกับสายลม สร้างภาพระเบิดสีสันอลังการราวกับงานวาด 2D ที่มีชีวิต การต่อสู้ดูดุดันและสวยงามในเวลาเดียวกัน

สุดท้ายซีรอสพุ่งขึ้นไปยังชั้นบนสุดของตึก พลางตวัดดาบและปล่อยคลื่นลมแรง ทำให้ศัตรูถอยหนีไปจากระเบียงอย่างรวดเร็ว เขาหายใจเข้าลึก ก่อนยิ้มแบบใจเย็น
“มาต่อกันเลยไหมละ 😈”

มุมกล้องซูมเข้าไปที่ลูกตาของใครบางคนที่มองซีรอสอยู่ไกล ๆ สะท้อนความตื่นเต้นและความหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน

ช็อต 2 – ซากุระและความทรงจำหลอน
ซากุระ เด็กหญิงผู้มีพรสวรรค์ด้านศิลปะสูงสุด แต่สติไม่คงที่ ถูกเล่าเรื่องผ่าน ความทรงจำและภาพหลอน เธอเป็นศิษย์คนแรกของอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ แม้เติบโตมาโดยไม่มีพ่อแม่ แต่ความรักและการสนับสนุนจากอาจารย์ทั้งสอง ทำให้เธอมีพรสวรรค์เหนือธรรมชาติ

เมื่ออายุ 13 ปี ขณะกำลังไปหาอาจารย์ในป่า เธอถูกรถชนเสียชีวิต ความเจ็บปวดของเธอกระจายไปยังจิตใจของอาจารย์ทั้งสอง ทำให้เกิดภาพหลอนว่าพวกเขาตายเพราะซากุระ

ซากุระกลายเป็นคนสติไม่ปกติ แต่ศิลปะของเธอคือ อันดับหนึ่งของโลก ทุกภาพที่วาดสื่อถึงอารมณ์และเรื่องราวลึกซึ้ง แม้ไม่มีตัวอักษรใด ๆ

ช็อต 3 – อาจารย์ทั้งสองและอดีต
อาจารย์คนที่หนึ่งและคนที่สอง เคยเป็นเพื่อนรักและศิลปินคู่หู คนแรกเก่ง ลายเส้นและสีสัน ส่วนคนที่สองถนัด งานปั้นและการเล่าเรื่อง

แต่เมื่อพวกเขามีศิษย์ของตนเอง เกิดความเข้าใจผิดและห่างเหิน อาจารย์คนที่สองน้อยใจเพราะศิษย์แพ้ซากุระบ่อย ๆ เขาเริ่มใช้ความโกรธกับศิษย์ จนศิษย์ทั้งสามหมดศรัทธาและเดินคนละทาง

ซีรอสเป็นหนึ่งในศิษย์ของอาจารย์คนเเรก ทำให้เขาเติบโตเป็นนักสู้ผู้มีสติและใจเย็น


ช็อต 4 – การพบกันครั้งสุดท้ายของอาจารย์ทั้งสอง
หลายปีต่อมา อาจารย์ทั้งสองกลับมาพบกันในป่า พวกเขาทักทายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ในหัวกลับคิดเหมือนกัน:
“พวกเราสู้กันไป ก็ไม่ได้อะไร เพราะเราทั้งสองต่างทรงพลังเหมือนกัน”

ความคิดนี้ทำให้ทั้งคู่ชะงัก ก่อนเข้ากอดกันแน่น เหมือนเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันนาน ก่อนล้มลงบนหญ้า ท่ามกลางวงกลมของต้นไม้ รอบตัวเต็มไปด้วยความสงบและธรรมชาติ

มุมกล้องหมุนขึ้นไปบนท้องฟ้า และไปยังมุมของนกสองตัว – นกขาวและนกดำ – บินเคียงกันอย่างสงบ เสียงเด็กร้องไห้และโหยหวนดังขึ้น
“ไม่นะอาจารย์ 😭”
และมีเสียงเบา ๆ ตามหลังว่า
“จากไปให้สงบครับอาจารย์”


ช็อต 5 – เฉลยความจริงของซากุระ
จริง ๆ แล้ว อาจารย์ทั้งสองตายจาก อุบัติเหตุรถชน ขณะกำลังไปซื้อของกินให้ซากุระ แต่ความเสียใจของซากุระทำให้เธอ สร้างภาพหลอน ว่าพวกเขาเสียชีวิตเพราะเธอ
ซากุระจึงรับบทเป็น ผู้สื่อสารเรื่องราวของอาจารย์ทั้งสอง ผ่านจินตนาการและภาพวาด

แม้ว่าซากุระจะเจ็บช้ำและสติไม่ปกติ แต่ผลงานศิลปะของเธอยืนหนึ่ง โลกทั้งโลกยอมรับความสามารถของเธอ

ช็อต 6  – จุดสิ้นสุดและความหมาย
เรื่องราวทั้งหมดสะท้อนว่า ศิลปะเกิดจากความรัก ความทรงจำ และการยอมรับความจริง
แม้โลกแฟนตาซีและพลังเหนือมนุษย์จะมีอยู่ การสร้างสรรค์ ความเจ็บปวด และแรงบันดาลใจ คือจุดกำเนิดของศิลปะ


ซากุระและศิษย์ทุกคนเติบโตขึ้นด้วยการสืบทอดความรักและพลังจากอาจารย์ทั้งสอง จบลงด้วยความสงบและความสวยงามเหนือกาลเวลา

เขียนโดย : นาย วชิรวิชญ์ รอดมีบุญ
เรียบเรียง : นาย วชิรวิชญ์ รอดมีบุญ
จัดทำอนิเมชั่นโดย : Wish Studio
* อนิเมชั่น ติดตามชมได้ที่เพจ Wish Studio เลยนะครับผม ขอบคุณที่มาอ่านกันมากๆครับ ^^ *
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่