คุณดำรง ลัทธพิพัฒน์ เป็นอดีต สส พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์
เธออยู่ในพรรคที่เรียกว่า อนุรักษ์นิยมสุดขั้ว และทำงานรับใช้ พวกกลุ่มอิลิทชนชั้นนำของไทย
แต่ก็ไม่วายที่ต้องมาจบชีวิตลง ต้องมารับกรรมในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อเอาไว้เลย
ดิฉันขอเล่าแบบรวบๆกระชับๆนะคะ
ทุกคนคงทราบกันดีว่า เอกสิทธิ์ทางการทูต คือเอกสิทธิ์ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ
และคนที่ทำงานให้รัฐบาลไทย ตำแหน่งใหญ่โต ไม่ว่าจะเป็นทูต นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และบุคคลสำคัญ ก็จะถือพาสปอร์ทไทยสีแดงสด สีเลือดหมู
นั่นแปลว่าจะมีเอกสิทธิ์ ไม่ต้องถูกดำเนินคดีเวลาไปเยือนต่างประเทศ
ทีนี้ในวันนั้น เมื่อเวลาประมาณสี่สิบปีที่แล้ว ได้มีกฐินที่จะเอาไปทอดที่อเมริกา แล้วเกิดมีเฮโรอีนซุกซ่อนเข้าไปด้วย
และความก็แตก เพราะอเมริกาจ้องอยู่แล้ว หน่วยข่าวกรองอเมริกาได้รับแจ้งว่า บุคคลกลุ่มเอกสิทธิ์ของไทย ได้ลักลอบนำเฮโรอีนเข้าประเทศอเมริกาหลายครั้ง โดยบุคคลกลุ่มดังกล่าว ได้ใช้สิทธิพิเศษ (diplomatic immunity) ไม่ต้องถูกตรวจค้น
และอเมริกาก็ไม่ได้โง่ จะปล่อยให้ทางไทย ทำได้อย่างไม่มีขีดจำกัด
คนเราเมื่อทำได้ครั้งหนึ่ง โดยไม่ถูกจับและได้เม็ดเงินมหาศาล ก็ต้องอยากทำอีกเรื่อยๆ ตามสันดานของมนุษย์โลภมาก
และคราวนั้นอเมริกาก็เตรียมพร้อมรับมือ ปฎิบัตรการจู่โจมแบบสายฟ้าแลบ และก็เจอเฮโรอีนในกฐินชุดนั้นจริงๆ
ทางการอเมริกาได้แจ้งมายังไทย และไทยก็เกิดอาการหวาดกลัวอย่างสุดขีด
โดยคาดไม่ถึงว่า อเมริกาจะกล้าตรวจ ทั้งที่กฐินชุดนั้นได้เดินทางไปกับบุคคลไทย ที่ถือพาสปอร์ทสีแดงเลือดหมู
เปรม ติณสูลานนท์ ซี่งตอนนั้นทุกท่านคงทราบว่า นางเป็นบุคคลไทยที่มีอิทธิพล และมีอำนาจมาก
ก็ได้เรียกคุณดำรง เข้าไปพบ และบอกว่า ให้ทำเพื่อชาติ เสียสละเพื่อชาติ
ความหมายก็คือให้คุณดำรง ยอมรับผิดไปซะ เพื่อที่อเมริกา จะได้ไม่สามารถสาวไปถึงตัวใหญ่ได้
เมื่อคุณดำรงออกมาจากการเข้าพบเปรม เธอก็ขับรถวนไปวนมา วนไปวนมา เครียดมาก ซึ่งตรงนี้ก็น่าเห็นใจเธอมากนะคะ
สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจยิงตัวตาย และไทยก็แจ้งไปยังอเมริกาว่า ผู้ร้ายที่แอบเอาเฮโรอีนเข้าไปในอเมริกา ได้ยิงตัวตายหนีคดีไปแล้ว
คดีก็จบโดยที่คุณดำรง ต้องมาเป็นแพะรับบาปให้กับผู้ร้ายตัวจริง
นี่คือความเลวทรามต่ำช้าที่สุด ของระบอบการเมือง การปกครองของประเทศไทย
ขอทวงคืนความชอบธรรมให้กับ คุณดำรง ลัทธพิพัฒน์ อดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ (หงส์เหนือมังกร)
เธออยู่ในพรรคที่เรียกว่า อนุรักษ์นิยมสุดขั้ว และทำงานรับใช้ พวกกลุ่มอิลิทชนชั้นนำของไทย
แต่ก็ไม่วายที่ต้องมาจบชีวิตลง ต้องมารับกรรมในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อเอาไว้เลย
ดิฉันขอเล่าแบบรวบๆกระชับๆนะคะ
ทุกคนคงทราบกันดีว่า เอกสิทธิ์ทางการทูต คือเอกสิทธิ์ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ
และคนที่ทำงานให้รัฐบาลไทย ตำแหน่งใหญ่โต ไม่ว่าจะเป็นทูต นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และบุคคลสำคัญ ก็จะถือพาสปอร์ทไทยสีแดงสด สีเลือดหมู
นั่นแปลว่าจะมีเอกสิทธิ์ ไม่ต้องถูกดำเนินคดีเวลาไปเยือนต่างประเทศ
ทีนี้ในวันนั้น เมื่อเวลาประมาณสี่สิบปีที่แล้ว ได้มีกฐินที่จะเอาไปทอดที่อเมริกา แล้วเกิดมีเฮโรอีนซุกซ่อนเข้าไปด้วย
และความก็แตก เพราะอเมริกาจ้องอยู่แล้ว หน่วยข่าวกรองอเมริกาได้รับแจ้งว่า บุคคลกลุ่มเอกสิทธิ์ของไทย ได้ลักลอบนำเฮโรอีนเข้าประเทศอเมริกาหลายครั้ง โดยบุคคลกลุ่มดังกล่าว ได้ใช้สิทธิพิเศษ (diplomatic immunity) ไม่ต้องถูกตรวจค้น
และอเมริกาก็ไม่ได้โง่ จะปล่อยให้ทางไทย ทำได้อย่างไม่มีขีดจำกัด
คนเราเมื่อทำได้ครั้งหนึ่ง โดยไม่ถูกจับและได้เม็ดเงินมหาศาล ก็ต้องอยากทำอีกเรื่อยๆ ตามสันดานของมนุษย์โลภมาก
และคราวนั้นอเมริกาก็เตรียมพร้อมรับมือ ปฎิบัตรการจู่โจมแบบสายฟ้าแลบ และก็เจอเฮโรอีนในกฐินชุดนั้นจริงๆ
ทางการอเมริกาได้แจ้งมายังไทย และไทยก็เกิดอาการหวาดกลัวอย่างสุดขีด
โดยคาดไม่ถึงว่า อเมริกาจะกล้าตรวจ ทั้งที่กฐินชุดนั้นได้เดินทางไปกับบุคคลไทย ที่ถือพาสปอร์ทสีแดงเลือดหมู
เปรม ติณสูลานนท์ ซี่งตอนนั้นทุกท่านคงทราบว่า นางเป็นบุคคลไทยที่มีอิทธิพล และมีอำนาจมาก
ก็ได้เรียกคุณดำรง เข้าไปพบ และบอกว่า ให้ทำเพื่อชาติ เสียสละเพื่อชาติ
ความหมายก็คือให้คุณดำรง ยอมรับผิดไปซะ เพื่อที่อเมริกา จะได้ไม่สามารถสาวไปถึงตัวใหญ่ได้
เมื่อคุณดำรงออกมาจากการเข้าพบเปรม เธอก็ขับรถวนไปวนมา วนไปวนมา เครียดมาก ซึ่งตรงนี้ก็น่าเห็นใจเธอมากนะคะ
สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจยิงตัวตาย และไทยก็แจ้งไปยังอเมริกาว่า ผู้ร้ายที่แอบเอาเฮโรอีนเข้าไปในอเมริกา ได้ยิงตัวตายหนีคดีไปแล้ว
คดีก็จบโดยที่คุณดำรง ต้องมาเป็นแพะรับบาปให้กับผู้ร้ายตัวจริง
นี่คือความเลวทรามต่ำช้าที่สุด ของระบอบการเมือง การปกครองของประเทศไทย