ครบรอบ 26 ปี JoJo’s Bizarre Adventure เวอร์ชัน PlayStation



ปี 1999 ถือเป็นช่วงที่เกมต่อสู้ของ Capcom กำลังอยู่ในยุครุ่งเรือง หลังจากสร้างความนิยมอย่างต่อเนื่องด้วยซีรีส์ Street Fighter ZERO และ Vampire Savior พวกเขาก็หยิบการ์ตูนดังจาก Weekly Shonen Jump อย่าง JoJo’s Bizarre Adventure Part 3: Stardust Crusaders มาทำเป็นเกมต่อสู้ในอาร์เคด ด้วยเทคนิคกราฟิกที่ล้ำยุคบนบอร์ด CP System III ที่ให้ภาพและแอนิเมชันละเอียดสุดในยุคนั้น

ภาคอาร์เคดได้รับเสียงชื่นชมจากทั้งแฟน JoJo และคอเกมต่อสู้ ด้วยระบบ “Stand” ที่ทำให้ตัวละครแต่ละคนมีสไตล์การต่อสู้แตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่การพอร์ตมาลงเครื่องบ้านในเวลานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ CP System III เป็นฮาร์ดแวร์ระดับสูงเกินกว่าที่คอนโซลทั่วไปจะรองรับได้เต็มที่

เมื่อ Capcom ตัดสินใจพัฒนาเวอร์ชัน PlayStation จึงต้องมีการลดทอนบางอย่าง เช่น แอนิเมชันบางชุดถูกตัดออก เอฟเฟกต์ระยิบระยับของฉากซูเปอร์คอมโบถูกทำให้ง่ายลง และรายละเอียดกราฟิกลดลงจากต้นฉบับ แต่ทีมพัฒนาก็พยายามใส่เนื้อหาใหม่มาทดแทน

จุดขายของเวอร์ชัน PS1 คือโหมดออริจินอล Super Story Mode ที่เล่าเรื่องราวการเดินทางของ Jotaro และพวกพ้องจากญี่ปุ่นสู่ไคโร เพื่อเผชิญหน้ากับ DIO โดยจำลองเนื้อเรื่องจากมังงะต้นฉบับมาผ่านฉากต่อสู้และอีเวนต์ต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นของใหม่ที่ไม่มีในอาร์เคด นอกจากนี้ยังรองรับมินิเกมสำหรับ PocketStation อีกด้วย

ระบบต่อสู้ในเกมยังคงอิงจากภาคอาร์เคดภาคแรก ไม่ใช่ Mirai e no Isan (ภาคต่อในอาร์เคด) ตัวละครมีเพียงสองชุดสี ไม่มี Challenge Mode และคัตซีนระหว่างสเตจถูกตัดออก เหลือเพียงเสียงพากย์ในฉากเปิดและตอนจบเท่านั้น แม้จะดูเรียบง่ายกว่าเวอร์ชันตู้ แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ของซีรีส์ไว้ครบถ้วน

เมื่อวางจำหน่าย เกมได้รับเสียงตอบรับดีจากแฟนการ์ตูนและผู้เล่นที่อยากสัมผัส JoJo ในรูปแบบเกมต่อสู้ แม้ภาพจะด้อยกว่าอาร์เคด แต่เสน่ห์ของสไตล์กราฟิก การออกแบบท่าต่อสู้ และบรรยากาศที่ซื่อสัตย์ต่อมังงะก็ทำให้เวอร์ชันนี้ถูกจดจำมาจนทุกวันนี้

ในปี 2001 Capcom ได้นำเกมนี้กลับมาวางจำหน่ายอีกครั้งในชุดราคาประหยัด Capkore เพื่อให้แฟน ๆ ที่พลาดโอกาสในตอนแรกได้สะสมไว้

กว่า 20 ปีผ่านไป JoJo’s Bizarre Adventure เวอร์ชัน PS1 ยังคงเป็นหนึ่งในผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Capcom ในยุคที่การพอร์ตเกมอาร์เคดสู่คอนโซลยังเต็มไปด้วยข้อจำกัด แต่ทีมงานก็ยังรักษา “จิตวิญญาณของ JoJo” เอาไว้ได้อย่างน่าชื่นชม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่