เขาตุยกลางที่ประชุม ในที่ที่เขาทุ่มเทที่สุด
ทำงานเพื่อใคร... แล้วสุดท้าย ใครได้อยู่กับเราจนวันสุดท้าย?
บ่ายวันจันทร์ เสียงโทรศัพท์ในห้องฉุกเฉินดังขึ้น “ขอรถพยาบาลด่วนครับ! มีคนหมดสติในห้องประชุม ชั้น 15!”
ชายวัย 55 ปี ล้มฟุบระหว่างการประชุมประจำสัปดาห์ เพื่อนร่วมงานพยายามเรียก “พี่ๆ เป็นอะไรไหม?” แต่ไม่มีเสียงตอบ... เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปตลอดกาล
เหตุการณ์ก่อนเสียชีวิต
ผู้ตายเป็น “หัวหน้าแผนก” ทำงานในบริษัทเอกชนใหญ่ ทำงานต่อเนื่องเกิน 12 ชั่วโมงต่อวัน
ก่อนเกิดเหตุ มีอาการแน่นหน้าอก เหนื่อยง่ายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังฝืนไปทำงาน
วันนั้น เขาเพิ่งพูดกับลูกน้องว่า “เดี๋ยวงานนี้เสร็จ จะพักจริงจังสักที...” แต่เขาไม่มีโอกาสได้พักอีกเลย
ผลการตรวจสถานที่เกิดเหตุ
1. พบชายหมดสติอยู่บนเก้าอี้ประชุม
2. โต๊ะประชุมเต็มไปด้วยเอกสารและโน้ตบุ๊กที่ยังเปิดอยู่
3. ไม่มีบาดแผล ไม่มีร่องรอยการต่อสู้
4. มีแก้วกาแฟครึ่งแก้วข้างมือ
5. เพื่อนร่วมงานระบุว่า “ได้ยินเสียงเหมือนถอนหายใจยาว ๆ ก่อนเงียบไป”
ผลการผ่าชันสูตรศพ
1. ชายไทย อายุ 55 ปี ตรวจไม่พบบาดแผลภายนอก
2. หัวใจโต ผนังกล้ามเนื้อหนา หลอดเลือดหัวใจตีบ 85% ที่หลอดเลือดซ้ายหลัก
สรุปสาเหตุการเสียชีวิต: หัวใจขาดเลือดเฉียบพลันจากโรคหลอดเลือดหัวใจเรื้อรัง สัมพันธ์กับความเครียดเรื้อรังและการพักผ่อนไม่เพียงพอ
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ: ไม่มีสารพิษหรือยาเกินขนาด
คำให้การจากภรรยา “เขาเป็นคนรักงานมาก ทำงานจนดึกทุกวัน เวลากลับบ้านก็มักจะนั่งดูอีเมลต่อ บอกเสมอว่า ‘ทำอีกนิดเดียว’”
น้ำเสียงสั่นเครือเมื่อเธอพูดว่า “วันก่อนเขาบอกว่าจะซื้อเค้กมาเป่าเทียนให้ลูก... แต่วันนี้ ลูกต้องถือพวงหรีดแทน”
ข้อคิดจากศพ
ในฐานะแพทย์นิติเวช ผมเห็นคน “ตายคาโต๊ะทำงาน” มากกว่าที่ใครคาดคิด
หลายคนไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุ แต่เพราะ “หัวใจล้า” จากความเครียดและการไม่ดูแลตนเอง
ความตุยไม่ได้มาพร้อมเสียงเตือน มันมาพร้อมความเงียบ... ในที่ที่เราคิดว่ากำลัง “สร้างอนาคต” ให้ครอบครัว
หมอหมูพูดจริง
1. อย่าภูมิใจกับคำว่า “อดทน” จนลืมพัก
2. ไม่มีงานใดคุ้มกับชีวิต และไม่มีโบนัสใด... ที่จ่ายคืนเวลาให้คนที่เรารักได้
ปล. ทั้งหมดที่ผมเขียนเป็นเรื่องเล่าที่อ้างอิงข้อมูลจริงและแต่งเติมบางส่วน นะครับ
แกะรอยนิติเวช : หมอหมู วีระศักดิ์ ทำงานหนักจน... วันก่อนเขาบอกว่าจะซื้อเค้กมาเป่าเทียนให้ลูก... แต่วันนี้ ลูกต้องถือพวงห