ศาลรัฐธรรมนูญไทยยืนยันมาตลอดว่าอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นของรัฐสภา และตามรัฐธรรมนูญไทยฉบับปัจจุบัน ผู้ประกอบกันเป็นรัฐสภา คือ ส.ส. กับ สว. และมีฐานะเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยอยู่แล้ว
การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ว่าจะแก้ไขเป็นรายมาตรา หรือแก้ไขทั้งฉบับ จึงเป็นอำนาจของ ส.ส. กับสว. รัฐสภาจึงไม่อาจยกอำนาจของตัวเองให้กับคนอื่น อันได้แก่ ส.ส.ร. ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนเพื่อมาแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้อีก เพราะจะกลายเป็นการอ้างการใช้อำนาจอธิปไตยปวงชนซ้ำซ้อนกัน
ในภายภาคหน้า หากมีคนร้องว่า ส.ส.ร. แม้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน แต่มิได้มีฐานะเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย เพราะรัฐธรรมนูญไทยฉบับปัจจุบัน ไม่ได้บัญญัติให้ ส.ส.ร.เป็นตัวแทนปวงชนชาวไทยเหมือน ส.ส. และสว.
การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับในอนาคตอาจมีปัญหาอีก คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไทยเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 จึงมิใช่กรณีการวินิจฉัยเกินคำขอ ตรงกันข้ามกลับสอดคล้องกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 73 และสอดคล้องกับรัฐบัญญัติว่าด้วยศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมัน มาตรา 78 และสอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเยอรมัน คดี BVerfGE 6, 257 (265f) ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
การที่ไอลอว์และกลุ่มที่เคลื่อนไหวโจมตีศาลรัฐธรรมนูญ หากคนกลุ่มดังกล่าวรู้ดีว่ามีกฎหมายให้ศาลรัฐธรรมนูญใช้ดุลพินิจวินิจฉัยคดีได้ คนกลุ่มดังกล่าวย่อมรู้ดีว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีโดยชอบแล้ว
การกล่าวหาศาลรัฐธรรมนูญว่า “วินิจฉัยเกินคำขอ” หรือใช้คำว่า “ไม่ถามแต่แถม” อาจเป็นการจงใจสร้างความเสื่อมเสียต่อคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 ของศาลรัฐธรรมนูญและคำวินิจฉัยอื่นของศาลรัฐธรรมนูญ อันมิใช่การติชมโดยสุจริตในทางวิชาการ
ข่าวอิศรารายงาน
https://www.facebook.com/100064697586312/posts/1211297591036816/
ข่าวรายงานศาลรัฐธรรมนูญยืนยันอำนาจแก้รัฐธรรมนูญเป็นของรัฐสภา
การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ว่าจะแก้ไขเป็นรายมาตรา หรือแก้ไขทั้งฉบับ จึงเป็นอำนาจของ ส.ส. กับสว. รัฐสภาจึงไม่อาจยกอำนาจของตัวเองให้กับคนอื่น อันได้แก่ ส.ส.ร. ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนเพื่อมาแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้อีก เพราะจะกลายเป็นการอ้างการใช้อำนาจอธิปไตยปวงชนซ้ำซ้อนกัน
ในภายภาคหน้า หากมีคนร้องว่า ส.ส.ร. แม้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน แต่มิได้มีฐานะเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย เพราะรัฐธรรมนูญไทยฉบับปัจจุบัน ไม่ได้บัญญัติให้ ส.ส.ร.เป็นตัวแทนปวงชนชาวไทยเหมือน ส.ส. และสว.
การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับในอนาคตอาจมีปัญหาอีก คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไทยเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 จึงมิใช่กรณีการวินิจฉัยเกินคำขอ ตรงกันข้ามกลับสอดคล้องกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 73 และสอดคล้องกับรัฐบัญญัติว่าด้วยศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมัน มาตรา 78 และสอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเยอรมัน คดี BVerfGE 6, 257 (265f) ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
การที่ไอลอว์และกลุ่มที่เคลื่อนไหวโจมตีศาลรัฐธรรมนูญ หากคนกลุ่มดังกล่าวรู้ดีว่ามีกฎหมายให้ศาลรัฐธรรมนูญใช้ดุลพินิจวินิจฉัยคดีได้ คนกลุ่มดังกล่าวย่อมรู้ดีว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีโดยชอบแล้ว
การกล่าวหาศาลรัฐธรรมนูญว่า “วินิจฉัยเกินคำขอ” หรือใช้คำว่า “ไม่ถามแต่แถม” อาจเป็นการจงใจสร้างความเสื่อมเสียต่อคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 ของศาลรัฐธรรมนูญและคำวินิจฉัยอื่นของศาลรัฐธรรมนูญ อันมิใช่การติชมโดยสุจริตในทางวิชาการ
ข่าวอิศรารายงาน
https://www.facebook.com/100064697586312/posts/1211297591036816/