
.
หนีไปแล้ว! “โรม” เผย “เบน สมิธ” นั่งไพรเวตเจ็ตหนีออกนอกประเทศตั้งแต่สิ้นเดือน ไม่ทราบปลายทางไปไหน จ่อเชิญ “ธรรมนัส” แจงให้ได้ สัมพันธ์กันอย่างไร เชื่อสนิทสนมกันแน่ พบแก๊งคอลฯ สร้างความมั่นคงผ่านคริปโต-ทองคำจริง แฉกลใหม่ ใช้ม่านตาแลกคริปโต
.
วันที่ 2 ต.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมว่า จากที่ประชุมได้มีการพิจารณาปัญหาการฟอกเงินของกัมพูชา ที่เชื่อมโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทย และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทยนั้น จากการชี้แจงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทราบว่าปัจจุบัน นายเบนจามิน สมิธ ได้หลบหนีออกจากประเทศไทยไปแล้ว โดยเดินทางด้วยไพรเวทเจต T7-TCB เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยไม่ทราบว่าประเทศปลายทางเป็นประเทศอะไร
.
ส่วนข้อมูลที่เป็นประโยชน์และที่ตนได้เคยอภิปรายไปแล้ว คือข้อมูลของบริษัท เทียนเทียนเวนเจอร์ ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (กลต.) ได้เคยเตือนว่าเข้าข่ายหลอกลวงและมีการชักชวนลงทุนโดยไม่ได้รับอนุญาต ตนได้รับข้อมูจาก กลต.ว่าเมื่อปี 2564 ได้มีการกล่าวโทษนายเบนจามิน เบอร์เกอร์ ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันเบนจามิน สมิธ ปัจจุบันอยู่ในชั้นอัยการ แต่ยังไม่ทราบว่ามีความคืบหน้า กลต.ก็จะไปตรวจสอบต่อไป
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ปัจจุบัน ยังไม่ได้ให้สัญชาตินายเบนจามิน เบื้องต้น กระทรวงมหาดไทยชี้แจงว่าเนื่องจากอยู่ระหว่างกระบวนการและมีปัญหาเรื่องของข้อตุกติกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ปรึกษาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสมเด็จฮุน เซน จึงยืนยันว่ายังไม่มีการให้สัญชาติในเวลานี้ ซึ่งเราก็ถามย้ำหลายครั้ง
.
ประเด็นถัดมา เป็นสิ่งที่น่ากังวลใจ เมื่อไปดูรายละเอียดทั้งหมด พบว่ามีความเชื่อมโยงกับบริษัทฮุยวัน และ ฮุยวัน PLC ซึ่งมีเงินไหลเวียนบริษัทนี้ 3 ล้านล้านบาท เป็นเงินที่สูงมากและเชื่อว่าเงินส่วนใหญ่ที่ไหลเวียนเป็นเงินที่มาจากการฟอกเงิน โดยจากการสอบถามข้อเท็จจริง มีการเชื่อมโยงไปถึงการซื้อทองคำจากฝั่งกัมพูชามาที่ประเทศไทย และมีการพูดถึงการฟอกเงินในปัจจุบัน โดยทางตำรวจไซเบอร์ได้ระบุว่าการฟอกเงินในปัจจุบัน มีการทำธุรกรรมเปลี่ยนเป็นคริปโตและหลีกเลี่ยงไปซื้อทองคำ เพื่อสร้างความมั่นคงให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงน่าเชื่อว่าการที่ประเทศไทยส่งออกทองคำไปกัมพูชาจำนวนมาก อาจจะเชื่อมโยงบางอย่างกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
.
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นใหม่ ที่มีการตั้งข้อสังเกตและต้องตรวจสอบต่อไปคือเรื่องคริปโต ที่มีการจ่ายคริปโตด้วยการแลกเปลี่ยนสแกนม่านตา มีข้อน่าสงสัยว่าการเอาคริปโตไปซื้อข้อมูลชีวภาพ (ไบโอแมตทริกซ์) ซึ่งอาจนำเอาไปทำธุรกรรมบางอย่าง สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ ดังนั้น สิ่งเหล่านี้ ต้องการรายละเอียดและข้อมูลมากกว่านี้
.
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การประชุมครั้งต่อไปในสัปดาห์หน้า กมธ.จะเชิญบุคคลหลายคนมาให้ข้อมูล ทั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่เป็นผู้รู้จักและมีภาพถ่ายทำบุญร่วมกันกับนายเบนจามิน จึงเชื่อว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน รวมถึงเชิญนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าชี้แจงกรณีพูดถึงสินบน 40 ล้าน แลกกับการไม่ดำเนินคดีกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย และอีกหลายหน่วยงานเข้าชี้แจง
.
นอกจากนั้น สัปดาห์หน้า กมธ.จะเชิญกองทัพเรือ มาชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่ากองทัพเรือจะใช้อาคารที่ตั้งของสแกมเมอร์เป็นหน่วยประสานงาน ทำไมต้องดำเนินการแบบนั้น เพราะอาคารดังกล่าวตั้งรุกล้ำดินแดนไทย ถ้ากองทัพเรือไปใช้ เท่ากับว่าเราไปรับรองในสิ่งที่ผิดให้เป็นถูกหรือไม่ ซี่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก
.
.
สภาฯถกปฏิรูปตำรวจ โรม หวังทลายระบบอุปถัมป์ ปิยรัฐ เชื่อ ฝ่ายค้าน-รบ.-ตร.ร่วมมือ จะแก้ได้เร็ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_5393945
.
สภาฯ ถกรายงานปฏิรูปตำรวจ ‘โรม’ หวังแก้นำไปสู่การทลายระบบอุปถัมป์แต่งตั้ง-โยกย้ายบุคลากร ด้าน ‘ปิยรัฐ’ เชื่อหาก ‘ฝ่ายค้าน-รัฐบาล-ตำรวจ’ ร่วมมือกันจะแก้ปัญหาได้ในเวลารวดเร็ว
.
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 ตุลาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นาย
วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษาเรื่องการพิจารณาศึกษา ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) เป็นประธานฯ พิจารณาแล้วเสร็จแล้ว
.
โดย นาย
รังสิมันต์ กล่าวแถลงรายงานว่า ตำรวจไทยมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงและการพัฒนาประเทศในหลายมิติ โดยเฉพาะการรักษาความสงบและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ทำให้ประชาชนใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข นอกจากนี้ ตำรวจไทยยังมีบทบาทสำคัญในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบ รวมถึงยังเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาประเทศตามนโยบายของรัฐบาล การอำนวยความยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย
.
นาย
รังสิมันต์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กำลังเผชิญกับปัญหาหลากหลายมิติที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการให้บริการและความเชื่อมั่นของประชาชน เช่น การแทรกแซงทางการเมืองในการแต่งตั้ง โยกย้าย บุคลากรตำรวจโดยไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์สาธารณะ ความสามารถ ประสิทธิภาพโดยรวม แต่เป็นเรื่องของระบบอุปถัมป์และเส้นสาย นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการบริหารจัดการงบประมาณอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ที่เราจะพบว่าการจัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ ไม่ได้เหมาะสมหรือสอดคล้องกับภัยคุกคามที่มีอยู่ อุปกรณ์ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ที่ส่วนกลาง ขณะที่สถานีตำรวจท้องถิ่นที่ใกล้ชิดกับประชาชนกับได้รับการสนับสนุนอย่างจำกัด ทำให้การดูแลประชาชนขาดประสิทธิภาพ ไม่สามารถตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของประชาชนได้
.
นาย
รังสิมันต์กล่าวด้วยว่า ในการจัดทำรายงานฉบับนี้ เราเจอกับความท้าทายหลายประเด็น แต่ต้องยอมรับว่าองค์กรตำรวจมีความสำคัญ และตัวเลขการลาออกของตำรวจมีจำนวนมาก อีกทั้งบางสถานีตำรวจก็มีความเครียด แต่พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งที่แม้กระทั่งความเป็นธรรมที่พวกเขาสมควรจะได้รับ ก็ไม่ได้รับ เนื่องจากปัญหาของระบบอุปถัมป์และเส้นสายถือเป็นปัญหาสำคัญ จึงเกิดคำถามไปทั่วว่าการทำผลงาน คดีสำคัญๆ จะได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าหรือไม่ หากเทียบกับเส้นสายหรือคอนเนกชั่นเป็นสำคัญ ซึ่งทำให้ตำรวจบางส่วนเริ่มหันหลังให้กับการทำผลงาน เลือกรับใช้ผู้มีอำนาจและใช้กำลังขาในการวิ่งเต้นเพื่อให้ตัวเองได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้น
.
นาย
รังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ปัญหาเหล่านี้ของตำรวจนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ที่ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งตำรวจส่วนใหญ่มีความอึดอัดไม่สามารถพูดปัญหาเหล่านี้ได้ ฉะนั้น เราจึงเห็นว่าการจะปฏิรูประบบราชการตำรวจในครั้งนี้ เป็นเรื่องสำคัญและเห็นว่าควรจะได้รับการแก้ไข และนำไปสู่การทลายระบบอุปถัมป์ ทำให้ระบบตำรวจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ตำรวจเข้าถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งอนุ กมธ. ขึ้นมาศึกษาเพิ่มเติมด้วย อย่างไรก็ตาม ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น หากองค์กรตำรวจมีความเข้มแข็ง หากบุคลากรมีความรู้สึกว่าเขาตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ด้วยใจรักและพิทักษ์กฎหมายต่อไป หากทุกคนทำงานอย่างมีอุดมการณ์ ตนเชื่อว่าเราจะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้รวมถึงการโยกย้ายแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆ ด้วย
.
ด้าน นาย
ปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กทม. พรรค ปชน. ในฐานะโฆษก กมธ. กล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าว หากจะแก้ไขปัญหาได้จริงต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ อย่างน้อยก็ประมาณ 2-3 ปี แต่เชื่อว่าหาก ส.ส.ฝ่ายค้าน รัฐบาล และตำรวจพร้อมใจกันจะได้แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังหวังว่าร่างรายงานฉบับนี้จะเป็นสารตั้งต้นในการนำไปสู่การแก้ไขกฎหมาย รวมถึงการผลักดันเชิงนโยบายให้ฝ่ายบริหารไปดำเนินการต่อไป
.
จากนั้นได้เปิดให้สมาชิกอภิปราย
.
.
‘คณะกมธ.ทหาร’ ปูด ฐตร.ตราด ส่อทุจริตน้ำมันเบิกครั้งละ 1,000 ลิตร ถูกส่งต่อให้เสี่ยในพื้นที่
https://www.dailynews.co.th/news/5167518/
.
‘คณะกมธ.ทหาร’ ปูด ฐตร.ตราด ส่อทุจริตน้ำมันเบิกครั้งละ 1,000 ลิตร ถูกส่งต่อให้เสี่ยรายหนึ่งในพื้นที่-ส่งพลทหารทำงานท่าเรือเฟอร์รี่เอกชน พบพิรุธซื้อใบเสร็จกินส่วนต่าง ด้าน ‘ศักดินัย’ ขอให้ตรวจสอบการรื้อบ่อนกาสิโนในพื้นที่ ลั่น ไม่มีการไปจัดสรรปันส่วน
.
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 2 ต.ค. ที่รัฐสภา นาย
เชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร และ นาย
ศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคประชาชน แถลงข่าวกรณีการทุจริตในฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด (ฐตร.)
.
โดยนาย
เชตวัน กล่าวว่า ตนมีอยู่ 3 กรณีที่ติดตามและมีความเป็นห่วงว่าจะเกิดการทุจริตหรือไม่ กรณีที่ 1 เรื่องการส่งพลทหารไปทำงานที่ท่าเรือเฟอร์รี่ของเอกชน โดยไปทำงานโบกเรือและไปเป็นลูกเรือข้ามฟากที่บริเวณแหลมงอบ และเกาะช้าง จ.ตราด ซึ่งมีการส่งพลทหารไปทุกวัน ปัจจุบันนี้ท่ามกลางสถานการณ์ที่จังหวัดตราดซึ่งเป็นที่ทราบดีว่าเป็นจังหวัดที่อยู่ในแนวชายแดนที่มีการปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์เช่นนี้เราจะมีการส่งพลทหารไปทำงานให้กับเอกชนได้อย่างไร เพราะไม่ใช่ภารกิจของทหาร
.
นาย
เชตวัน กล่าวอีกว่า ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตนเคยอภิปรายไว้ในการอภิปรายงบประมาณ ว่าถ้าเรามีพลทหารที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เกี่ยวกับภารกิจทางการทหารแบบนี้และเอาไปทำงานให้กับเอกชน เราก็ไม่รู้ว่าไปทำงานเช่นนั้นแล้วรายได้เข้ากระเป๋าใคร และพลทหารที่ไปมีจำนวน 5 นายที่ไปทำงานนั้น ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มหรือไม่
.
นาย
เชตวัน กล่าวอีกว่า กรณีที่ 2 คือ มีการลักลอบนำน้ำมันออกจากค่ายไปขายให้กับใครหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นช่วงระหว่างเดือนมกราคมจนถึงพฤษภาคม 2568 และเป็นช่วงปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา โดยเรื่องนี้มีรายละเอียดการจ่ายน้ำมัน ซึ่งเป็นการลงด้วยลายมือ ทั้ง ๆ ที่กองทัพเรือเคยมาชี้แจงในคณะกรรมาธิการว่าเปลี่ยนเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์หมดแล้ว ซึ่งในเอกสารระบุว่าใครเป็นผู้เซ็นรับ และจ่ายน้ำมันไปที่ไหน โดยต้องระบุเลขทะเบียนรถและหน่วยที่รับออกไป
.
นาย
เชตวัน กล่าวอีกว่า ส่วนที่คาดว่าน่าจะมีการทุจริตหรือไม่ คือ มีการลงรายละเอียดแค่ว่าเป็นรถแบ๊กโฮ เบิกไปครั้งละ 1,000 ลิตรหลายครั้งต่อเนื่องกัน และยังมีภาพรถกระบะ บรรทุกถังน้ำมัน 1,000 ลิตรออกไปจากค่าย ซึ่งถูกนำไปให้เสี่ยรายหนึ่งในพื้นที่ แต่ไม่ทราบว่านำไปใช้ทำอะไร จึงอยากให้มีการตรวจสอบในเรื่องนี้
.
นาย
เชตวัน ยังกล่าวถึง กรณีที่ 3 คือมีเอกสารที่เขียนว่า รายละเอียดการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีงบประมาณ 2568 ของกลยุทธ์ด้านการส่งกำลังบำรุงและฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด โดยกรณีนี้เป็นการจัดซื้อจัดจ้างวงเงินไม่เยอะ เพียงแต่เอกสารชุดนี้จะทำขึ้นมาทำไม ซึ่งมีรายละเอียดว่า การจัดซื้อจัดจ้างในส่วนการฝึกกำลังรบ ค่าวัสดุสิ้นเปลือง ค่าซ่อมบำรุง ศูนย์การเรียนรู้เรื่องศาสตร์พระราชา งบเพิ่มเติม
JJNY : 5in1 หนีไปแล้ว!“โรม”เผย│โรมหวังทลายระบบอุปถัมป์│ปูดฐตร.ตราดส่อทุจริตน้ำมัน│น้ำน่านล้นตลิ่ง│จีนเที่ยวไทยลดลง 24%
https://ch3plus.com/news/political/morning/448881
.
หนีไปแล้ว! “โรม” เผย “เบน สมิธ” นั่งไพรเวตเจ็ตหนีออกนอกประเทศตั้งแต่สิ้นเดือน ไม่ทราบปลายทางไปไหน จ่อเชิญ “ธรรมนัส” แจงให้ได้ สัมพันธ์กันอย่างไร เชื่อสนิทสนมกันแน่ พบแก๊งคอลฯ สร้างความมั่นคงผ่านคริปโต-ทองคำจริง แฉกลใหม่ ใช้ม่านตาแลกคริปโต
.
วันที่ 2 ต.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมว่า จากที่ประชุมได้มีการพิจารณาปัญหาการฟอกเงินของกัมพูชา ที่เชื่อมโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทย และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทยนั้น จากการชี้แจงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทราบว่าปัจจุบัน นายเบนจามิน สมิธ ได้หลบหนีออกจากประเทศไทยไปแล้ว โดยเดินทางด้วยไพรเวทเจต T7-TCB เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยไม่ทราบว่าประเทศปลายทางเป็นประเทศอะไร
.
ส่วนข้อมูลที่เป็นประโยชน์และที่ตนได้เคยอภิปรายไปแล้ว คือข้อมูลของบริษัท เทียนเทียนเวนเจอร์ ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (กลต.) ได้เคยเตือนว่าเข้าข่ายหลอกลวงและมีการชักชวนลงทุนโดยไม่ได้รับอนุญาต ตนได้รับข้อมูจาก กลต.ว่าเมื่อปี 2564 ได้มีการกล่าวโทษนายเบนจามิน เบอร์เกอร์ ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันเบนจามิน สมิธ ปัจจุบันอยู่ในชั้นอัยการ แต่ยังไม่ทราบว่ามีความคืบหน้า กลต.ก็จะไปตรวจสอบต่อไป
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ปัจจุบัน ยังไม่ได้ให้สัญชาตินายเบนจามิน เบื้องต้น กระทรวงมหาดไทยชี้แจงว่าเนื่องจากอยู่ระหว่างกระบวนการและมีปัญหาเรื่องของข้อตุกติกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ปรึกษาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสมเด็จฮุน เซน จึงยืนยันว่ายังไม่มีการให้สัญชาติในเวลานี้ ซึ่งเราก็ถามย้ำหลายครั้ง
.
ประเด็นถัดมา เป็นสิ่งที่น่ากังวลใจ เมื่อไปดูรายละเอียดทั้งหมด พบว่ามีความเชื่อมโยงกับบริษัทฮุยวัน และ ฮุยวัน PLC ซึ่งมีเงินไหลเวียนบริษัทนี้ 3 ล้านล้านบาท เป็นเงินที่สูงมากและเชื่อว่าเงินส่วนใหญ่ที่ไหลเวียนเป็นเงินที่มาจากการฟอกเงิน โดยจากการสอบถามข้อเท็จจริง มีการเชื่อมโยงไปถึงการซื้อทองคำจากฝั่งกัมพูชามาที่ประเทศไทย และมีการพูดถึงการฟอกเงินในปัจจุบัน โดยทางตำรวจไซเบอร์ได้ระบุว่าการฟอกเงินในปัจจุบัน มีการทำธุรกรรมเปลี่ยนเป็นคริปโตและหลีกเลี่ยงไปซื้อทองคำ เพื่อสร้างความมั่นคงให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงน่าเชื่อว่าการที่ประเทศไทยส่งออกทองคำไปกัมพูชาจำนวนมาก อาจจะเชื่อมโยงบางอย่างกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
.
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นใหม่ ที่มีการตั้งข้อสังเกตและต้องตรวจสอบต่อไปคือเรื่องคริปโต ที่มีการจ่ายคริปโตด้วยการแลกเปลี่ยนสแกนม่านตา มีข้อน่าสงสัยว่าการเอาคริปโตไปซื้อข้อมูลชีวภาพ (ไบโอแมตทริกซ์) ซึ่งอาจนำเอาไปทำธุรกรรมบางอย่าง สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ ดังนั้น สิ่งเหล่านี้ ต้องการรายละเอียดและข้อมูลมากกว่านี้
.
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การประชุมครั้งต่อไปในสัปดาห์หน้า กมธ.จะเชิญบุคคลหลายคนมาให้ข้อมูล ทั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่เป็นผู้รู้จักและมีภาพถ่ายทำบุญร่วมกันกับนายเบนจามิน จึงเชื่อว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน รวมถึงเชิญนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าชี้แจงกรณีพูดถึงสินบน 40 ล้าน แลกกับการไม่ดำเนินคดีกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย และอีกหลายหน่วยงานเข้าชี้แจง
.
นอกจากนั้น สัปดาห์หน้า กมธ.จะเชิญกองทัพเรือ มาชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่ากองทัพเรือจะใช้อาคารที่ตั้งของสแกมเมอร์เป็นหน่วยประสานงาน ทำไมต้องดำเนินการแบบนั้น เพราะอาคารดังกล่าวตั้งรุกล้ำดินแดนไทย ถ้ากองทัพเรือไปใช้ เท่ากับว่าเราไปรับรองในสิ่งที่ผิดให้เป็นถูกหรือไม่ ซี่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก
.
.
สภาฯถกปฏิรูปตำรวจ โรม หวังทลายระบบอุปถัมป์ ปิยรัฐ เชื่อ ฝ่ายค้าน-รบ.-ตร.ร่วมมือ จะแก้ได้เร็ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_5393945
.
สภาฯ ถกรายงานปฏิรูปตำรวจ ‘โรม’ หวังแก้นำไปสู่การทลายระบบอุปถัมป์แต่งตั้ง-โยกย้ายบุคลากร ด้าน ‘ปิยรัฐ’ เชื่อหาก ‘ฝ่ายค้าน-รัฐบาล-ตำรวจ’ ร่วมมือกันจะแก้ปัญหาได้ในเวลารวดเร็ว
.
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 ตุลาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษาเรื่องการพิจารณาศึกษา ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) เป็นประธานฯ พิจารณาแล้วเสร็จแล้ว
.
โดย นายรังสิมันต์ กล่าวแถลงรายงานว่า ตำรวจไทยมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงและการพัฒนาประเทศในหลายมิติ โดยเฉพาะการรักษาความสงบและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ทำให้ประชาชนใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข นอกจากนี้ ตำรวจไทยยังมีบทบาทสำคัญในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบ รวมถึงยังเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาประเทศตามนโยบายของรัฐบาล การอำนวยความยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย
.
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กำลังเผชิญกับปัญหาหลากหลายมิติที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการให้บริการและความเชื่อมั่นของประชาชน เช่น การแทรกแซงทางการเมืองในการแต่งตั้ง โยกย้าย บุคลากรตำรวจโดยไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์สาธารณะ ความสามารถ ประสิทธิภาพโดยรวม แต่เป็นเรื่องของระบบอุปถัมป์และเส้นสาย นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการบริหารจัดการงบประมาณอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ที่เราจะพบว่าการจัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ ไม่ได้เหมาะสมหรือสอดคล้องกับภัยคุกคามที่มีอยู่ อุปกรณ์ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ที่ส่วนกลาง ขณะที่สถานีตำรวจท้องถิ่นที่ใกล้ชิดกับประชาชนกับได้รับการสนับสนุนอย่างจำกัด ทำให้การดูแลประชาชนขาดประสิทธิภาพ ไม่สามารถตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของประชาชนได้
.
นายรังสิมันต์กล่าวด้วยว่า ในการจัดทำรายงานฉบับนี้ เราเจอกับความท้าทายหลายประเด็น แต่ต้องยอมรับว่าองค์กรตำรวจมีความสำคัญ และตัวเลขการลาออกของตำรวจมีจำนวนมาก อีกทั้งบางสถานีตำรวจก็มีความเครียด แต่พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งที่แม้กระทั่งความเป็นธรรมที่พวกเขาสมควรจะได้รับ ก็ไม่ได้รับ เนื่องจากปัญหาของระบบอุปถัมป์และเส้นสายถือเป็นปัญหาสำคัญ จึงเกิดคำถามไปทั่วว่าการทำผลงาน คดีสำคัญๆ จะได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าหรือไม่ หากเทียบกับเส้นสายหรือคอนเนกชั่นเป็นสำคัญ ซึ่งทำให้ตำรวจบางส่วนเริ่มหันหลังให้กับการทำผลงาน เลือกรับใช้ผู้มีอำนาจและใช้กำลังขาในการวิ่งเต้นเพื่อให้ตัวเองได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้น
.
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ปัญหาเหล่านี้ของตำรวจนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ที่ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งตำรวจส่วนใหญ่มีความอึดอัดไม่สามารถพูดปัญหาเหล่านี้ได้ ฉะนั้น เราจึงเห็นว่าการจะปฏิรูประบบราชการตำรวจในครั้งนี้ เป็นเรื่องสำคัญและเห็นว่าควรจะได้รับการแก้ไข และนำไปสู่การทลายระบบอุปถัมป์ ทำให้ระบบตำรวจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ตำรวจเข้าถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งอนุ กมธ. ขึ้นมาศึกษาเพิ่มเติมด้วย อย่างไรก็ตาม ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น หากองค์กรตำรวจมีความเข้มแข็ง หากบุคลากรมีความรู้สึกว่าเขาตื่นขึ้นมาทำหน้าที่ด้วยใจรักและพิทักษ์กฎหมายต่อไป หากทุกคนทำงานอย่างมีอุดมการณ์ ตนเชื่อว่าเราจะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้รวมถึงการโยกย้ายแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆ ด้วย
.
ด้าน นายปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กทม. พรรค ปชน. ในฐานะโฆษก กมธ. กล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าว หากจะแก้ไขปัญหาได้จริงต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ อย่างน้อยก็ประมาณ 2-3 ปี แต่เชื่อว่าหาก ส.ส.ฝ่ายค้าน รัฐบาล และตำรวจพร้อมใจกันจะได้แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังหวังว่าร่างรายงานฉบับนี้จะเป็นสารตั้งต้นในการนำไปสู่การแก้ไขกฎหมาย รวมถึงการผลักดันเชิงนโยบายให้ฝ่ายบริหารไปดำเนินการต่อไป
.
จากนั้นได้เปิดให้สมาชิกอภิปราย
.
.
‘คณะกมธ.ทหาร’ ปูด ฐตร.ตราด ส่อทุจริตน้ำมันเบิกครั้งละ 1,000 ลิตร ถูกส่งต่อให้เสี่ยในพื้นที่
https://www.dailynews.co.th/news/5167518/
.
‘คณะกมธ.ทหาร’ ปูด ฐตร.ตราด ส่อทุจริตน้ำมันเบิกครั้งละ 1,000 ลิตร ถูกส่งต่อให้เสี่ยรายหนึ่งในพื้นที่-ส่งพลทหารทำงานท่าเรือเฟอร์รี่เอกชน พบพิรุธซื้อใบเสร็จกินส่วนต่าง ด้าน ‘ศักดินัย’ ขอให้ตรวจสอบการรื้อบ่อนกาสิโนในพื้นที่ ลั่น ไม่มีการไปจัดสรรปันส่วน
.
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 2 ต.ค. ที่รัฐสภา นายเชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร และ นายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคประชาชน แถลงข่าวกรณีการทุจริตในฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด (ฐตร.)
.
โดยนายเชตวัน กล่าวว่า ตนมีอยู่ 3 กรณีที่ติดตามและมีความเป็นห่วงว่าจะเกิดการทุจริตหรือไม่ กรณีที่ 1 เรื่องการส่งพลทหารไปทำงานที่ท่าเรือเฟอร์รี่ของเอกชน โดยไปทำงานโบกเรือและไปเป็นลูกเรือข้ามฟากที่บริเวณแหลมงอบ และเกาะช้าง จ.ตราด ซึ่งมีการส่งพลทหารไปทุกวัน ปัจจุบันนี้ท่ามกลางสถานการณ์ที่จังหวัดตราดซึ่งเป็นที่ทราบดีว่าเป็นจังหวัดที่อยู่ในแนวชายแดนที่มีการปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์เช่นนี้เราจะมีการส่งพลทหารไปทำงานให้กับเอกชนได้อย่างไร เพราะไม่ใช่ภารกิจของทหาร
.
นายเชตวัน กล่าวอีกว่า ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตนเคยอภิปรายไว้ในการอภิปรายงบประมาณ ว่าถ้าเรามีพลทหารที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เกี่ยวกับภารกิจทางการทหารแบบนี้และเอาไปทำงานให้กับเอกชน เราก็ไม่รู้ว่าไปทำงานเช่นนั้นแล้วรายได้เข้ากระเป๋าใคร และพลทหารที่ไปมีจำนวน 5 นายที่ไปทำงานนั้น ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มหรือไม่
.
นายเชตวัน กล่าวอีกว่า กรณีที่ 2 คือ มีการลักลอบนำน้ำมันออกจากค่ายไปขายให้กับใครหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นช่วงระหว่างเดือนมกราคมจนถึงพฤษภาคม 2568 และเป็นช่วงปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา โดยเรื่องนี้มีรายละเอียดการจ่ายน้ำมัน ซึ่งเป็นการลงด้วยลายมือ ทั้ง ๆ ที่กองทัพเรือเคยมาชี้แจงในคณะกรรมาธิการว่าเปลี่ยนเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์หมดแล้ว ซึ่งในเอกสารระบุว่าใครเป็นผู้เซ็นรับ และจ่ายน้ำมันไปที่ไหน โดยต้องระบุเลขทะเบียนรถและหน่วยที่รับออกไป
.
นายเชตวัน กล่าวอีกว่า ส่วนที่คาดว่าน่าจะมีการทุจริตหรือไม่ คือ มีการลงรายละเอียดแค่ว่าเป็นรถแบ๊กโฮ เบิกไปครั้งละ 1,000 ลิตรหลายครั้งต่อเนื่องกัน และยังมีภาพรถกระบะ บรรทุกถังน้ำมัน 1,000 ลิตรออกไปจากค่าย ซึ่งถูกนำไปให้เสี่ยรายหนึ่งในพื้นที่ แต่ไม่ทราบว่านำไปใช้ทำอะไร จึงอยากให้มีการตรวจสอบในเรื่องนี้
.
นายเชตวัน ยังกล่าวถึง กรณีที่ 3 คือมีเอกสารที่เขียนว่า รายละเอียดการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีงบประมาณ 2568 ของกลยุทธ์ด้านการส่งกำลังบำรุงและฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด โดยกรณีนี้เป็นการจัดซื้อจัดจ้างวงเงินไม่เยอะ เพียงแต่เอกสารชุดนี้จะทำขึ้นมาทำไม ซึ่งมีรายละเอียดว่า การจัดซื้อจัดจ้างในส่วนการฝึกกำลังรบ ค่าวัสดุสิ้นเปลือง ค่าซ่อมบำรุง ศูนย์การเรียนรู้เรื่องศาสตร์พระราชา งบเพิ่มเติม