โรม มองศาลฎีกา คือที่พึ่ง ไต่สวนทักษิณอยู่ชั้น 14 มั่นใจมีดาบ บังคับหน่วยงานร่วมมือ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5163171
.
.
“โรม” ชี้ถูกแล้วศาลฎีกาฯ ไต่สวน “ทักษิณ”รักษาตัวชั้น14 เอง หวังได้ความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มองเรื่องนี้ ป่วยทิพย์ แน่นอน ซัด”นายกฯอิ๊งค์”คือคนที่เผยแพร่เฟคนิวส์ ซักฟอกอย่างตอบอย่าง
.
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพิจารณาไต่สวนคดีชั้น 14 ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ว่า กรณีชั้น 14 มีความชัดเจนอยู่แล้วว่า มีปัญหาจริงๆ มีทั้งพยานหลักฐานแวดล้อม และการพูดของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่สันนิษฐานได้ว่า น.ส.แพทองธารรู้เรื่องนี้ดีที่สุด องค์ประกอบจิ๊กซอว์ต่างๆ ต่อออกมาชัดเจนว่า กรณีชั้น 14 เป็นกรณีแกล้งป่วย ทำให้นายทักษิณไม่ต้องติดคุกจริง ยิ่งกว่านั้น ยังพบหลักฐานการใช้โทรศัพท์มือถือต่างๆ หมายถึงนายทักษิณอาจบัญชาการสั่งการต่างๆ รวมถึงการปล่อยให้บุคคลภายนอกไปเจอนายทักษิณ
.
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า จึงชัดเจนว่าการติดคุกของนายทักษิณไม่มีอยู่จริง มีความจำเป็นที่องค์กรต่างๆ และศาลต้องใช้กลไกกฎหมายตรวจสอบนายทักษิณอย่างจริงจัง ส่วนตัวมองประเทศอย่างไม่สบายใจ เห็นภาพประธานสภาผู้แทนราษฎร เจอกับประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ฝ่ายค้าน ส่งเรื่องให้ประธานสภาตรวจสอบประธานป.ป.ช.มานานแล้ว
.
แต่ไม่เห็นความคืบหน้าว่า รัฐสภาจะส่งเรื่องนี้เมื่อใด ทั้งที่มีคลิปวิดีโอออกมาขนาดนี้ ถ้าส่งเรื่องไปให้ประธานศาลฎีกาตั้งคณะกรรมการไต่สวน จะเห็นความจริงอีกหลายอย่างมากขึ้น แต่จะเกี่ยวกับกับชั้น 14 หรือไม่นั้น ตนมองว่า วันนี้องค์กรต่างๆ แทบไม่สามารถเชื่อมั่นได้เลยว่า จะจัดการคดีชั้น 14 ดังนั้นการตั้งคณะกรรมการไต่สวนกรณีชั้น 14 จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะตอนนี้แทบไม่เหลือองค์กรใดจัดการชั้น 14 แล้ว บ้านเมืองกำลังถูกกัดกร่อนทำลายจากความอยุติธรรมที่ช่วยเหลือพ่อ เพื่อน พวกพ้อง
.
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาองค์กรตรวจสอบไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง นายรังสิมันต์ กล่าวว่าศาลมีดาบอยู่ในมือที่เข้มแข็งมากที่สุดกว่าทุกองค์กร ถ้าใครไม่ปฏิบัติตามศาล มีโทษจำคุกค้ำอยู่ ค่อนข้างมั่นใจว่าหน่วยงานต่างๆต้องให้ความร่วมมือมากยิ่งขึ้น แต่ต้องกลับไปถามนายกฯ และองค์กรที่เกี่ยวข้องว่า ถ้ามั่นใจกรณีชั้น 14 ทำถูกต้อง โปร่งใส เหตุใดไม่ให้ความร่วมมือ ทั้งแพทยสภา ป.ป.ช.ก็ประสบปัญหา สภาฯก็ประสบปัญหา
.
“อภิปรายไม่วางใจนายกฯแทนที่นายกฯจะตอบเรื่องนี้กลับไปเอาเรื่องพันธมิตรมาพูด ทั้งๆที่ไม่มีมูลความจริง นายกฯกลายเป็นหนึ่งในคนที่เผยแพร่เฟคนิวส์ วันนี้บ้านเมืองไปกันใหญ่แล้ว ศาลจึงเป็นที่พึ่งหวัง สร้างความกระจ่างเรื่องนี้” นายรังสิมันต์ กล่าว
.
.
วินธัย โผล่แจง กมธ.มั่นคงฯ ยันไม่มีปฏิบัติการIO แต่มีเป้าหมายให้ตาม ท้าเจอแจ้งดำเนินคดีเลย
.
วินธัย โผล่แจง กมธ.มั่นคงฯ ยันไม่มีปฏิบัติการIO ลั่นเพจด่านักการเมืองไม่ใช่ของกองทัพ ท้าเจอแจ้งดำเนินคดีเลย ขณะ “โรม” ไม่เห็นด้วยใช้ IO ตามนักการเมือง
.
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวก่อนการประชุมกมธ.ฯในการพิจารณาศึกษาปฏิบัติการข่าวสาร (IO) ทางสื่อสังคมออนไลน์ของหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ส่งผลกระต่อสิทธิเสรีภาพ ของประชาชน ว่าได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงต่อกมธ.ฯ โดยมี พล.อ.ต.วิศัลย์ ธรรมประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการและการข่าว สำนักนโยบายและแผนกลาโหม ,พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ,พล.ต.ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นภายในราชอาฯจักร ( กอ.รมน.), พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ,พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.), นายวิสูตร ด้วงมาก ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมาย 3 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) ,นางนวรัตน์ สถาพรนานนท์ ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 3 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
.
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การพิจารณาวันนี้ทางกมธ.ฯเห็นว่าเรื่อง IO ไม่ใช่เรื่องใหม่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายครั้ง และในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาตั้งแต่ยุคของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีพบว่า มีการใช้ปฏิบัติการ IO หลายครั้ง ทั้งต่อประชาชน นักวิชาการ นักการเมือง เมื่อเป็นแบบนี้ก็เป็นปัญหาที่แก้ไม่จบเสียที และหลังจากที่เรามีรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเราถือว่าเป็นรัฐบาลพลเรือน เราคาดหวังว่าปฏิบัติการ IO จะไม่มีอีกแล้ว แต่กลายเป็นว่า ปฏิบัติการ IO กลับรุนแรงกว่าเดิม ใหญ่กว่าเดิม และยังมีอยู่
.
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า วันนี้เราเห็นว่าเรื่องการทลายลัง IO มีความก้าวหน้า อย่างน้อยที่สุดประชาชนได้เห็นโครงสร้างนี้แล้ว และ IO เหล่านี้ไม่ใช่เฉพาะ IO การเมืองฝ่ายค้านเท่านั้น แต่พบว่าแม้กระทั่งคนในรัฐบาลหรือคนที่มีอิทธิพลเหนือรัฐบาลก็โดน IO ฉะนั้นเรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ตนคิดว่าจะเป็นต้องมีแนวทางในการแก้ปัญหา และจัดการเรื่องนี้อย่างมีความชัดเจน ซึ่งปัญหาที่เราเห้นอยู่ยังไม่มีทางออกในเรื่องนี้เลย ดังนั้นทางกรรมาธิการจึงพยายามเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมในวันนี้
.
“หากถามว่าความคาดหวังคืออะไร ผมคิดว่าเราไม่ควรจะเห็นการใช้เงินภาษีของประชาชนในการทำข้อมูลปฏิบัติการข่าวสารแบบนี้ เวลาการทำข้อมูลข่าวสารแบบนี้มันเต็มไปด้วยเฟคนิวส์ เต็มไปด้วยการสร้างความเกลี่ยดชังมีจุดมั่งหมายสร้างความแตกแยก ซึ่งทั้งหมดนี้ตรงข้ามกับอุดมการณ์ของกองทัพ อุดมการณ์ของทหารไทย และทำไมเราต้องปล่อยให้ปฏิบัติการแบบนี้ยังมีอยู่” นายรังสิมันต์ กล่าว
.
เมื่อถามว่าแสดงว่าส่วนตัวมองการใช้ IO ติดตามนักการเมืองไม่เหมาะสมหรือไม่ รังสิมันต์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่ามีปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารในการรบ เช่น ถ้าเป็นการรบระหว่างประเทศ A กับ ประเทศ B ตนเข้าใจว่ามีความจำเป็นในเรื่องปฏิบัติการาข้อมูลข่าวสาร ซึ่งอาจจะมีความจำเป็นต้องมีเครื่องมือเข้าถึงข้อมูล เพื่อที่จะสร้างความได้เปรียบให้กับตนเอง ตนในฐานปรานคณะกรรมาธิการไม่ได้ขัดในเรื่องนี้แต่ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น เป็นปัญหาใหญ่อยู่ในขณะนี้ แทนที่จะนำเครื่องมือนี้ไปเตรียมความพร้อม หรือไปใช้ในเหตุการณ์ที่มีสงคราม มีการรบกันกับประเทศอื่นที่อาจเป็นอริราชศัตรู แต่กลายเป็นว่ามาปฏิบัติกับคนในประเทศราวกับเป็นศัตรูของชาติเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เป็นเรื่องมทำลายความมั่นคงเสียเอง
.
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า การที่กองทัพใช้เครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อเอาไว้ทำสงครามกับรัฐอื่น แต่สุดท้ายกลับเอามาใช้กับคนในประเทศ สุดท้ายความั่นคงความสามัคคีของคนในชาติก็สูญสลายไป สุดท้ายเครื่องมือแบบนรี้จะถูกตั้งคำถามทั้งการจัดการ การตัดงบประมาณ สุดท้ายเครื่องมือแทนที่จะไปจัดการกับพ่อค้ายาเสพติด คนที่ทำลายความมั่นคงก็ทำไม่ได้ เพราะใช้เครื่องมือผิดประเภท จึงทำให้สภาฯไม่ไว้วางใจให้ใช้เครื่องมือแบบนี้ต่อไป กลายเป็นว่าความมั่นคงของประเทศโดยรวมอ่อนแอลง เพราะสาเหตุสำคัญคือหน่วยงานความมั่นคงใช้เครื่องมือในลักษณะแบบนี้ทำลายความั่นคงของชาติเอง
ขณะที่ในการประชุมกมธ.ฯ นายรังสิมันต์ ประธานที่ประชุม ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนฟังเพียงในช่วงแรก ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงทั้ง กอ.รมน. , กระทรวงกลาโหม , กองทัพบก , กองทัพเรือ , กองทัพอากาศ , และสตช. ยืนยันว่าไม่มีนโยบายทำปฏิบัติการ Information Operation หรือ IO แต่เป็นการสื่อสารเพื่อความเข้าใจในการทำงานของหน่วยงาน และบทบาทหน้าที่ของทหารในการป้องกันประเทศ ช่วยเหลือประชาชน รวมถึงสนับสนุนงานของรัฐบาล
.
โดยพล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวในที่ประชุมว่า กองทัพบกไม่มีการทำ IO แต่คำนี้เกิดขึ้นกับทั่วโลก ซึ่งใช้ปฏิบัติการทางทหาร คือการใช้ IO เป็นเครื่องมือสื่อสารในการรบ และอยู่ในภารกิจป้องกันประเทศ ทั้งนี้เมื่อมาอยู่ในประเทศไทย กองทัพจึงใช้ในการเสริมสร้างความเข้าใจและแก้ไขในสิ่งที่เข้าใจผิด ด้วยวิธีประชาสัมพันธ์ ที่ผ่านมากองทัพพยายามที่จะแก้ไขเรื่องที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง โดยเน้นไปที่เรื่องการสร้างความรับรู้ เพื่อปกป้องเกียรติยศและศักดิ์ศรีขององค์กร แต่ทั้งหมดเป็นการกระทำโดยเปิดเผย รวมถึงเป้าหมายทั้งหมด คือ ประชาชน และนโยบายของเราไม่เคยคิดว่าความเข้าใจทั้งหมดเป็นเรื่องเลวร้าย แต่เป็นผลดีที่จะทำให้เราได้ชี้แจง ไม่มีลักษณะก้าวร้าว หรือทำให้เกิดสิ่งที่ไม่ดีต่อกัน จึงไม่เรียกว่าปฏิบัติการ IO แต่มันคือการสร้างความเข้าใจ การประชาสัมพันธ์ หรือการสร้างการรับรู้
.
“วันนี้เราใช้ช่องทางออนไลน์สื่อสารเป็นหลัก หากพบว่าไม่ถูกต้องไม่เหมาะสม ก็มีขั้นตอนการดำเนินการอยู่แล้ว เช่น พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ และเรื่องการหมิ่นประมาท ที่ดำเนินการได้อยู่แล้ว โดยขั้นตอนในการดำเนินการมีเป้าหมาย คือ บุคคลที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก อาจรวมไปถึงนักการเมืองหรือนักวิชาการด้วย ที่จะอยู่ในกลุ่มดังกล่าวเนื่องจากสังคมให้ความสนใจ ซึ่งการติดตามจากกองทัพไม่ใช่เรื่องน่ากังวล เพราะสุดท้ายเราจะต่อสู้กันด้วยข้อเท็จจริง” พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า
.
พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า ดังนั้นหากความเข้าใจผิดเกิดจากเป้าหมายดังกล่าว ก็จะต้องเร่งชี้แจงก่อน และยอมรับตรงๆ เป้าหมายอื่นคือผู้ที่มีทัศนคติไม่ดีกับทหาร โดยมีความต้องการให้สังคมรับรู้ข้อมูลอีกด้านหนึ่ง ขอย้ำว่า ไม่ได้โกรธ หรือตั้งตัวเป็นคู่ขัดแย้ง แต่ยอมรับว่ากองทัพบกใช้อินฟลูเอ็นเซอร์ ในช่องทางออนไลน์ แต่ทำในลักษณะเปิดเผย
.
ส่วนต่างๆที่ออกมาโจมตีนักการเมือง และมีการแอบอ้างว่าเป็นทหาร หรือหน่วยงานด้านความมั่น พล.ต.วินธัย กล่าวยืนยันว่า ไม่ใช่ หน่วยงานกองทัพ และหากพบเหตุในลักษณะนั้นก็สามารถดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้เลย
.
.
‘ประชาชน’ ร่วมเดินขบวนวันแรงงาน ให้คำมั่นดันร่าง กม.คุ้มครองแรงงานเข้าสภาฯ
https://www.khaosod.co.th/politics/news_9741020
.
‘ประชาชน’ ร่วมเดินขบวนวันแรงงาน ให้คำมั่นเปิดสมัยประชุมหน้า ดันร่าง กม.คุ้มครองแรงงานเข้าสภาฯ แน่ เรียกร้องรัฐบาลจริงใจปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
.
เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 1 พฤษภาคม ที่หน้ากระทรวงคมนาคม พรรคประชาชน (ปชน.) นำโดยนายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ ปีกแรงงาน ร่วมเดินขบวนเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2568 เพื่อรณรงค์ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน ฉบับพรรคปชน. จากหน้ากระทรวงคมนาคมไปที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
JJNY : โรมมองศาลฎีกา คือที่พึ่ง│วินธัยโผล่ ยันไม่มี IO แต่มีเป้าหมาย│‘ปชน’ ร่วมเดินขบวนวันแรงงาน│เรียกวิโรจน์ แจงตั๋ว PN
https://www.matichon.co.th/politics/news_5163171
.
.
‘ประชาชน’ ร่วมเดินขบวนวันแรงงาน ให้คำมั่นดันร่าง กม.คุ้มครองแรงงานเข้าสภาฯ
https://www.khaosod.co.th/politics/news_9741020
.