JJNY : โรมจ่อเรียกสอบไรเดอร์รับใช้นาย│โรมยก 3บาปซัดการเมือง│โรมยันไม่เคยเห็นสั่งหยุด│ทสท.ยันอนุดิษฐ์-การุณ ยังไม่มาลาออก

โรม จ่อเรียกสอบ กรณีทหารวิ่งไรเดอร์รับใช้นาย ชี้หากมีเรื่องสินจ้าง ต้องจัดการขั้นเด็ดขาด
https://www.matichon.co.th/politics/news_5183662
.
.
โรม จ่อหารือ วิโรจน์ เรียกสอบปมนายพลสั่งลูกน้องขับแกร็บ ชี้ ทำทหารก็ควรทำหน้าที่ เว้นแต่สมัครใจ หารายได้เสริมนอกเวลาราชการ ลั่น รอดูท่าทีผู้บัญชาการทหารบก จะดำเนินการอย่างไร
.
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 15 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีรายงานข่าว รองผู้บังคับกองพันนายหนึ่งในสังกัดกองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี ถูกกล่าวหาว่าใช้ทหารกองประจำการจากจังหวัดอุดรธานีไปขับรถรับส่งผู้โดยสาร (แกร็บ) เพื่อประโยชน์ส่วนตน ว่า ตนเห็นข่าว ซึ่งก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ประกอบด้วยอีกหลายเรื่องก่อนหน้านี้ในเรื่องการคอร์รัปชั่น ซึ่งไม่ใช่ทหารแต่เป็นทุกองค์กรที่หากสั่งให้ลูกน้องไปขับแกร็บแล้วส่งเงินให้นายต่างๆ นั้น
.
ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะคนที่เข้าไปทำงานในองค์กรนั้น เขาก็มีภารกิจและหน้าที่เฉพาะในเรื่องๆ นั้น หากเขาเข้าไปเป็นทหาร เขาก็ต้องไปทำหน้าที่ที่เกี่ยวกับทหาร ไม่ใช่ให้ไปทำแกร็บ เว้นแต่เขาไม่ได้อยู่ในเวลาราชการแล้วเขาสมัครใจที่จะไปขับแกร็บเองเพื่อหารายได้เสริม นั่นถือเป็นอีกเรื่อง
.
แต่หากมีการสั่งการแล้วมีเรื่องของอามิสสินจ้างเข้ามาเกี่ยวข้อง ตนคิดว่าเรื่องนี้ต้องเอาจริง ต้องมีการดำเนินการเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป แต่ก็ต้องรอติดตามว่าผู้บัญชาการทหารบกจะมีการดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร” นายรังสิมันต์ กล่าว
.
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ตนไม่อยากให้มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเคสบายเคส แต่การที่มีปัญหาคอร์รัปชั่นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ หมายความว่าคนไม่เกรงกลัวกฎหมาย พวกเขาคิดว่าทำอะไรก็ได้ ซึ่งตนไม่อยากให้มีบรรยากาศเช่นนี้เกิดขึ้นไม่ว่าจะในหน่วยงานใดก็ตาม จะเป็นกองทัพหรือไม่ก็ตาม แต่ต้องมีการจัดการอย่างเด็ดขาด รวมถึงต้องมีมาตรการในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อีก
.
เมื่อถามว่า กมธ.ความมั่นคงฯ จะเรียกตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องเพิ่งเกิด ฝคงต้องขอคุยก่อน และคงต้องหาหรือว่าจะมี กมธ.อื่น เช่น กมธ.การทหาร ซึ่งตนมองว่าเป็นกมธ.ที่ตรงกว่าในการที่จะทำเรื่องนี้ แต่ กมธ.ความมั่นคงฯ สามารถทำได้หรือไม่ก็สามารถทำได้ ทั้งนี้ตนจะหารือกับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ในฐานะกมธ.การทหารฯ ก่อน
.

.
โรม ยก 3 บาปซัดการเมือง ดูดส.ส.งูเห่า ถามนายกฯ ปล่อยพรรคร่วมได้ยังไง ทั้งที่พท.ก็เคยโดน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5183796
.
‘โรม’ ยก​ 3​ บาป​ ซัด​ การเมืองสร้างระบบจูงใจดูงูเห่า​ ลั่น​ มันเลวร้ายมาก​ ​ชัด ประชาชนไม่เอาแบบนี้​ จี้ถาม​ ‘นายกฯ’ ปล่อยพรรคร่วมฯ ทำแบบนี้ได้อย่างไร​ ทั้งที่​ ‘เพื่อไทย’ ควรเข้าใจมากที่สุด​
.
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ ส.ส.ชลบุรี พรรคปชน.​ เตรียมย้ายไปสังกัดพรรคกล้า​ธรรม (กธ.)​ ว่า การเมืองมันเลวร้าย คนที่ทรยศต่อประชาชนร้ายหมด​ ในการเลือกตั้งกระแสความนิยมของพรรค​ มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก ประชาชนไว้วางใจ จึงได้มานั่งอยู่ตรงนี้ ดังนั้น​หากจะเปลี่ยน​ไม่สังกัดพรรคเดิม สิ่งที่ควรทำ ​คือ​ต้องถามประชาชนใหม่​ นี่คือบาปที่ 1​
.
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า บาปที่ 2​ คือการปล่อยการเมือง​ให้เป็นเหมือนการเดินไปตลาดแล้วจับจ่ายซื้อ​ ส.ส.​ ราวกับซื้อของสด​ ถือเป็นความเลวร้ายเช่นเดียวกัน​ นักการเมืองไม่ว่าจะสังกัดพรรคใด​ ไม่ควรทรยศต่อประชาชน​ ขณะเดียวกันก็ไม่ควรสร้างกลไกหรือวิธีการ​เพื่อจูงใจให้​ ส.ส.ทรยศประชาชนด้วย​ ดังนั้น​วันนี้เราได้เห็นกระบวนการที่ทำลาย​ และสร้างความบิดเบี้ยวต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการเมืองอย่างมาก
.
นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ส่วนบาปที่ 3 หากพรรคกธ.​ ทำแบบนี้จริงๆ ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้นในการเมืองคือพรรค กธ.สังกัดพรรคร่วมรัฐบาล นายกรัฐมนตรี​ ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร​ สรุปแล้วรัฐบาลจะใช้วิธีการเติมเสียงด้วยการจูงใจ ให้​ ส.ส.ไม่ว่าจะฝ่ายไหนไปสังกัดฝ่ายตน ด้วยอามิส​สินจ้าง​ หรืออะไรก็ตาม แต่ไม่ว่าจะด้วยอะไร​ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น
.
พรรคเพื่อไทย​ควรจะเข้าใจเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี​ แต่ทำไมในฐานะแกนนำหลักของพรรคร่วมรัฐบาล จึงปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ สุดท้ายกลไกทางการเมือง แบบนี้จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศเป็นอย่างมาก จึงฝากสื่อมวลชนตั้งคำถามว่า ระบบการเมืองที่เป็นงูเห่าแบบนี้ดีต่อสังคมไทย ดีต่อประเทศจริงหรือ โดยไม่ต้องมาดูถึงอุดมการณ์หรือจุดยืนของพรรคนั้น การเปลี่ยนจุดยืนแบบนี้​ ดีต่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งหรือไม่” นายรังสิมันต์ กล่าว
.
เมื่อถามถึง กรณีที่พรรคกธ.​ เปิดเผยว่า​จะมี​ ส.ส.ไหลเข้าพรรคอีกจำนวนหนึ่งนั้น​ นายรังสิมันต์​​ กล่าวว่า เขาพูดเช่นนั้น​มาหลายครั้งแล้ว อาจจะเป็นเรื่องของการบรัฟ​ การสร้างเครดิตให้กับตัวเอง​ แต่วันนี้ผู้ที่สนับสนุนพรรคประชาชน ซึ่งไม่ได้เป็นแค่โหวตเตอร์ไปเลือกตั้งในคูหา แต่มีความเข้มแข็ง​ เขาไม่อยากเห็นการเมืองที่มีลักษณะเป็นงูเห่า ซึ่งบทเรียนจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้วชัดเจน​ ว่า​ งูเห่าไม่ได้กลับมาสักคน เรื่องนี้ประชาชนเห็น ประชาชนรู้ ประชาชนช่วยกันตรวจสอบ และในฐานะพรรคการเมือง​ก็ต้องช่วยกันตรวจสอบ ย้ำว่าตนไม่อยากให้เกิดบรรยากาศแบบนี้ขึ้น
.
เมื่อถามว่า น.ส.กฤษฎิ์​ อ้างถึงความอึดอัดภายในพรรค​ จึงทำให้อยากย้ายไปสังกัดพรรคใหม่ นายรังสิมันต์​​ กล่าวว่า​ คนที่จะย้ายก็ต้องหา เหตุผลต่างๆ นานา​ว่าทำไม จึงย้าย แต่ตนมองว่า ​ต้องพูดคุยกันให้เป็นรูปธรรม ซึ่งภายในพรรคปชน.​ หากส.ส.คนใดรู้สึกไม่ดี ก็ต้องพูดคุยกัน และเข้าใจว่า มันเป็นงาน ไม่มีอะไรที่จะเห็นพ้องต้องกันร้อยเปอร์เซ็นต์​ แต่เรามีกลไกที่จะพูดคุย และสร้างความกระจ่าง จึงค่อนข้างมั่นใจว่า​ ภายในพรรค พยายามพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา และไม่คิดว่า จะมีปัญหา
.

.
โรม ยันอีกเสียง ไม่เคยเห็นสั่งหยุดหน้าที่รายกรม หวังคดีฮั้วส.ว. ไม่ใช่เกมต่อรองอำนาจ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5183670
.
‘โรม’ หวัง คดีฮั้ว ส.ว.จะไม่ฮั้วกัน-ไม่ใช่เกมต่อรองทางการเมืองของคนมีอำนาจ ลั่น ทุกฝ่ายต้องช่วยกันทำให้กระจ่าง-ให้สังคมเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม บอกหากเป็นการกลั่นแกล้ง ทุกคนมีสิทธิต่อสู้คดี
.
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 15 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยุติการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกำกับดูแลกรมควบคุมคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีการฮั้ว ส.ว. ทำให้มีการมองว่าเป็นประเด็นการเมืองระหว่างพรรคแดงกับพรรคน้ำเงิน ว่า ตนมองว่าหลักๆ ต้องเอาข้อเท็จจริง ประเด็นอยู่ที่ว่าหากมีการฮั้ว ส.ว.จริง หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบแน่นอนว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เกี่ยวข้อง ถามว่าดีเอสไอเข้ามาได้หรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องสำคัญ และการตั้งข้อกล่าวหาของดีเอสไอไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟอกเงินหรือเรื่องอะไรก็ตาม ก็เป็นการตั้งข้อกล่าวหาที่ต้องมีการพิสูจน์ว่าตกลงแล้วเป็นไปตามที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่ ไม่ได้หมายความว่าการที่ดีเอสไอเข้ามา แล้วจะเท่ากับว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาจะกลายเป็นคนผิดร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องมีกระบวนการพิสูจน์ความผิดต่อไป
.
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าหากตั้งฐานความผิดอยู่ตรงนี้ ถามว่าการพิจารณาคดีหรือทำหน้าที่ของดีเอสไอ หรือของ กกต.สามารถทำได้หรือไม่ ก็สามารถทำได้ เพราะต้องอย่าลืมว่าหาก ส.ว.มีการฮั้วจริงๆ จะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางแน่นอน เพราะเท่ากับว่าคนที่มาเป็น ส.ว.ไม่มีคุณสมบัติ และต้องมีการรับผิดในทางกฎหมายต่อด้วย ดังนั้น ตนคิดว่าองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่นั้นเขาสามารถทำได้
.
นายรังสิมันต์กล่าวด้วยว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งออกมาเช่นนี้ แน่นอนว่าต้องทำให้เกิดความกังวลว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นวาระทางการเมืองอย่างเดียวหรือไม่ หรือเป็นการกลั่นแกล้งในการต่อสู้กัน ซึ่งตนคิดว่าไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น แม้ว่าตนจะไม่เคยเห็นว่ามีการสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นรายกรมนั้น แต่ตนคาดหวังว่าเรื่องการฮั้ว ส.ว.จะมีการสร้างความกระจ่างเกิดขึ้น เพราะเป็นเรื่องที่สังคมจับตามอง หากสุดท้ายจบลงที่เป็นการฮั้วของ ส.ว.อีกครั้ง สังคมจะไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม มาถึงขนาดนี้แล้วเรื่องการฮั้ว ส.ว.ต้องมีความชัดเจนให้สังคม
.
หวังว่าสุดท้ายแล้วทุกฝ่ายจะพยายามช่วยกันทำให้เรื่องนี้เกิดความกระจ่าง ส่วนประเด็นการเมืองใครจะได้ประโยชน์ต้องเข้าใจว่าในการตัดสินคดีหรือดำเนินคดีอะไรก็ตาม ต้องมีคนได้และเสียเสมอ ซึ่งนั่นไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สาระสำคัญอยู่ที่ว่าข้อเท็จจริงพยานหลักฐานเป็นไปตามนั้นหรือไม่” นายรังสิมันต์กล่าว
.
เมื่อถามว่า การที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นกีฬาสีไปแล้ว ส่วนตัวมองว่าจะได้ข้อเท็จจริงอะไรหรือไม่ หรือสุดท้ายจะเป็นเพียงแค่เกมการต่อรองกับผู้มีอำนาจอย่างเดียว นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนหวังว่าจะเป็นเกมต่อรองของผู้มีอำนาจ เพราะเราไม่ควรเอาเรื่องกระบวนการยุติธรรมมาใช้ต่อรองเช่นนี้ กระบวนการยุติธรรมมีหน้าที่สร้างความชัดเจน และมีหน้าที่ในการดำเนินการเอาคนผิดมาลงโทษ นี่คือสิ่งที่สังคมคาดหวัง ตนลงพื้นที่ประชาชนก็พูดถึงและมีความเป็นห่วงเรื่องนี้ว่าจะมีมวยล้มต้มคนดู
.
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า ดังนั้น ทุกฝ่ายที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ ตนรู้ว่าพวกท่านอาจจะมีความคิดบางอย่างในเรื่องทางการเมือง ผลลัพธ์ทางการเมือง แต่ไม่สำคัญเท่าพยานหลักฐานกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ฉะนั้น จึงหวังว่าจะไม่เกิดเป็นการฮั้วกันในเรื่องนี้ แต่จะเกิดเป็นความกระจ่างเพื่อให้สังคมเชื่อว่าความยุติธรรมมีอยู่จริง และเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็น ส.ส.หรือ ส.ว.ก็สามารถที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ หรือหากเป็นการกลั่นแกล้งกันแต่ละคนก็มีสิทธิที่จะต่อสู้คดี แต่ขณะเดียวกันหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ไม่ว่าจะเป็น กกต.หรือดีเอสไอ เขาก็สามารถทำหน้าที่ของเขาได้เช่นเดียวกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่