หลวง​พ่อ​ชา​สอนวิธีปฎิบัติ​ธรรม​แบบ​ เห็น​จิต​ในจิต

เห็นจิตในจิต
  
"เรื่องจิตมันเป็นอยู่...อย่างนั้น
เราสังเกตได้ง่ายๆ มันแปล มันเปลี่ยน
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้...
ถ้ามันเกิดขึ้นมาแล้ว มันผิดเรื่องธรรมดา
ของเรา ไม่มี...อะไร

เช่นว่า พูดง่ายๆ ว่า...
เราจะไปเห็นสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่นว่าพ่อเราตาย  หรือแม่เราตาย อะไรเราตายอย่างนี้ เป็นต้น
เมื่อเราได้ตั้งมั่นให้ดีแล้ว...
ก็คล้ายๆ กับว่ามันไม่มี...อะไร  ไม่มี...อะไร
มันจะหวาด มันจะสะดุ้ง นอกจากความสลดสังเวช เท่านั้น
รู้แล้ว...ก็ปล่อย
รู้แล้ว...มันวาง มันปล่อยวาง...
มันไม่สร้างทุกข์ ให้เกิดขึ้นมา
เพราะว่า...มันรู้จักเหตุให้เกิดทุกข์  
มันทุกข์...รู้ทุกข์  ทุกข์เข้า ก็รู้จัก

ทุกข์นี้...มันเกิดมาจากเหตุอะไร  
มันเกิดมาจากเหตุ คืออุปาทานอันนั้น  
มันก็ปล่อยวางมันเสีย...
เหตุทุกข์...มันก็มีสร้างขึ้นมา ก็วาง...
วาง...ด้วยปัญญา
วาง...ด้วยความรู้ คือปัญญา
ไม่ใช่ วาง...ด้วยความโง่อย่างนี้
  
อันนี้ พูดถึงจิต ที่หากว่าเห็นธรรมะ
พิจารณาธรรมะแล้ว มันมีความสงบอย่างนี้
ถึงแม้เรานั่งหลับตา เมื่อความเห็นมันชัดเจน
เช่นนั้น...นั่งหลับตา มันก็ยังเห็น
ลืมตา มันก็อย่างนั้น...อะไรๆ มันก็อย่างนั้น

ผู้ตั้งจิต อยู่...ในจิตแล้ว
ถึงแม้จะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอนที่ไหน
มันไม่ลืม มันเกิด อยู่...ในสิ่งที่ลืมไม่เป็น
มันเกิด อยู่...ในสิ่งที่ลืมไม่ได้  ลืมไม่เป็น
จนมันเป็นอย่างนั้น...อันนี้ พูดถึงผลที่การประพฤติปฏิบัติแล้ว...ไม่สงสัย
อนาคต...ก็ไม่สงสัย
อดีต...ก็ไม่สงสัย
ปัจจุบันนี้...ก็ไม่ต้องสงสัย
แต่มีความรู้สึกว่า...
มันมีอดีต มันมีอนาคต มันมีปัจจุบัน มีอยู่...
มีอยู่...แต่ว่ามันชัด ไม่ได้ห่วงอะไรอีก
  
ทําไม? ถึงไม่ได้ห่วงอะไรอีก
อดีต ก็สิ่งที่มันผ่านมาแล้ว นั่นน่ะ! มันผ่านมาแล้ว เมื่อถึงปัจจุบันนี้  มันเป็นผลของอดีต
นี่! พูดง่ายๆ อย่างเราไม่หิววันนี้ ก็เพราะได้ทานข้าวมาแต่อดีต  เดี๋ยวนี้เราไม่หิว ก็คือ...
ผลของอดีตนี้  ที่ไม่หิวนี้...เป็นปัจจุบัน

เรารู้จักปัจจุบันนี้...เราก็รู้จักอดีต  
การทานข้าวเป็นอดีต การอยู่สบายเดี๋ยวนี้ เป็นปัจจุบัน เพื่อจะทํางานต่อไปอีกในอนาคต  ก็คือ...เป็นเหตุของอนาคต เช่นนี้  
มันก็ตั้ง อยู่...ในอันเดียว
พระท่านว่า...เอโก ธัมโม ธรรมมีอันเดียว
ไม่มาก มีเท่านี้...

เมื่อเห็นปัจจุบันแล้ว มันก็เห็นอนาคต
เห็นปัจจุบันแล้ว มันก็เห็นอดีต มันวิ่งถึงกันเสมอ เพราะว่า...
อันหนึ่งมันเป็นเหตุ อันหนึ่งมันเป็นผล  
นี่! พูดถึงเรื่อง อันนี้
เรื่องผล ที่เราประพฤติปฏิบัตินี่ มันเกิดขึ้นมาแล้วมันแยบคาย."
  

หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง.  
จาก มรดกธรรมเล่มที่ ๑๐ “ภาวนาคือพิจารณาให้รู้ตามเป็นจริง” หน้า ๑๘-๑๙
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่