[CR] โรยตัวถ้ำป่อง (ถ้ำປ່ອງ : ถ้ำปล่อง) ดำดิ่งสู่โลกใต้พิภพ แคว้นคำม่วน แห่งสปป.ลาว

ສະບາຍດີ ทุกท่านที่แวะเวียนผ่านหรือหลงมาอ่านกระทู้นี้  ต้องขอแก้ไขหัวข้อก่อน [แขวงคำม่วน] นะแต่เกินเวลาแก้ไม่ทัน
เราไม่ได้เขียนมานานหลังจากทริปโรยตัวถ้ำน้ำบ่อผีรอบก่อน 
(ตามไปอ่านทริปโรยตัวถ้ำน้ำบ่อผีได้ที่ โรยตัวถ้ำน้ำบ่อผี)

ทริปนี้เราได้ไปโรยตัวที่สปป. ลาวในช่วง 13 กย. 2568 ที่ผ่านมา สด ๆ ร้อน ๆ กันเลยทีเดียว
เป็นอีกทริปที่รอคอยเช่นเคยหลังจากที่พี่ ๆ Zteam โปรยปิดท้ายเมื่อ 2 ปีก่อน ว่าปีนบ่อผีเหมือนจบปริญญาตรีแต่ถ้าจะให้ดีต้องไปโดน
“ถ้ำป่อง” จะได้ถึงของ เหมือนจบปริญญาโท  5555 พร้อมส่งYouTube ของน้องเต้ย Go Explorer (เดิมชื่อ Go went gone) มาเรียกน้ำย่อย

ปีนี้ได้ฤกษ์สักที หลังจากที่เลื่อนมาหลายรอบ เราเลยไปตื๊อให้จัดอยู่เรื่อย ๆ แฮ่ ๆ พี่ ๆ เค้าคิวทองเหลือเกิน ! ทริปถ้ำป่องเป็นทริปที่จัดค่อนข้างยาก เพราะไม่มีกรุ๊ปไทยที่ไหนพาลงไปสุดก้นบ่อเลย ขนาดที่ลาว เจ้าของที่เค้าก็ทำแค่พาลงไปป่องเดียวไม่ทำทริปให้ลงป่องล่าง  มีแต่แก๊งบุคคลผู้ไม่ปกติ แก๊งนี้แหล่ะค่ะ ที่เขาหาทำ 555 ขาดทุนเค้าก็ยังกัดฟันพาไป มีที่ไหน ลูกทริป 5 สต๊าฟไทย 8 สต็าฟลาว 5 

มาเริ่มกันเลยดีกว่า

ถ้ำป่อง ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ The Rock View Point ภูผาม่าน เมืองคูณคำ แขวงคำม่วน ในสปป.ลาว ที่ใครหลายคนคงเคยได้ยินกันเพราะมีทัวร์หลายที่เค้าจัดพาไปเล่น Zipline กันที่นั่น แต่อาจจะไม่รู้ว่าที่นี่มีโพรงยุบลงไปและมีความลึกรวมประมาณ 170 เมตร ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ป่อง ป่องแรก จะมีความลึกประมาณ 90 เมตร และป่องที่สองจะอยู่เยื้องจากป่องแรกแค่ 4-5 เมตรและมีความลึกลงไปอีกประมาณ 70-80 เมตร 
(จริง ๆ ทางลงถ้ำป่องอยู่ใกล้ The Rock Lodge ที่พักมากกว่า อยู่ติดกันนั่นแหล่ะ)

               ไปDraft ภาพCross section ของพี่คิงที่เขียนโชว์รายละเอียดภายในถ้ำมาลงสีเล่นแปะนั้นแปะนี่อีกที

Day 0 - 1 [11-12 Sep 2025 : ออกเดินทางได้]

เราออกเดินทางจาก กรุงเทพ ฯ ช่วง 20:15 นั่งรถตู้ยาว ปวดก้นกันเลยทีเดียว มีแวะเข้าห้องน้ำเป็นบางช่วง ถนนไทยหลุมบ่อเยอะเหมือนกัน มาแวะจอดอยู่ปั๊มนึง มองไปมายางหลังซ้ายปูดเป็นเทนนิสเลย แต่พี่โชว์เฟอร์ รีบเปลี่ยนยางอะไหล่อย่างชำนาญแล้วขับต่อชิล ๆ เราไปถึงนครพนมช่วงเช้า ไปแวะล้างหน้า แปรงฟัน ช่วง 7:30 แวะทานข้าวเช้าเป็นร้านอาหารเช้าย่านถนนศรีเทพ มีเมนูโจ๊ก ไข่กะทะ ต้มเลือดหมู ฯลฯ แล้วเราก็ แวะซื้อน้ำขนมในเซเว่นตรงนั้น
จากนั้นเดินทางไปยังด่านตม.นครพนม ลงจากรถเพื่อตรวจเช็ค passport จากฝั่งไทย ตรงจุดนี้มีห้องน้ำให้เข้าด้วยนะ แต่ไม่ค่อยสะอาดมากนัก ใช้เวลาตรวจหนังสือ 15-20 นาที เพราะไม่มีคนเลย แล้วก็ขึ้นรถตู้ข้ามสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 ยาวไปถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองลาว ก็ต้องลงจากรถ ตรวจ passport ประทับตราเข้าแล้วก็เดินมาขึ้นรถตู้ ใช้เวลาตรวจ 15-20 นาที จากนั้นเราก็มุ่งหน้าสู่ The Rock Lodge ที่พักของเรานั่นเอง ระหว่างทางไปก็แวะเติมเสบียง ทานอาหารเที่ยงเป็นเฝอริมทาง คนละชามก่อนเข้าที่พัก เส้นทางถนนช่วงแรกก็ดี แต่ช่วงหลังนี่ถนนพังสุด ๆ กระเทือนคดเคี้ยวไปมา แถมมีแต่รถบรรทุกขนของที่เป็นตู้พ่วงคอนเทนเนอร์วิ่งตลอดเวลา เหมือนเป็นเส้นทางสายหลักของพวกเขา ใครขับมาเองต้องเชี่ยวชาญและมีสกิลขับขึ้นเขาเลี้ยวลดแบบถนนพัง ๆ และสกิลแซงรถพ่วงบนเนินเขาที่ดีนะฮะ

เรานั่งกระเทือนไส้จนมาถึงที่The Rock Lodge ในเวลา 12:50 ห้องพักเป็นแนวแคปซูลขอนไม้ ขนาดกะทัดรัด น่ารัก เดินเข้าไปเป็นหลัง ๆ มีห้องน้ำในตัว แยกสัดส่วน ห้องอาบน้ำห้องส้วม ใครตัวสูงนี้มีหัวชนกันบ้างและอาจจะต้องยืนเอียงคออาบน้ำ ที่จริงเค้าก็ทำที่นั่งให้อาบแหล่ะ ทางเข้ามีชั้นวางของเป็นพวก กาแฟดริป น้ำเปล่า กาน้ำร้อนไฟฟ้า ไดร์เป่าผม 1200 W เล็ก ต้องเป่านานแต่ก็ยังดีกว่าไม่มี แต่เตียงนอนถือว่านอนสบายทีเดียว มีพื้นที่สำหรับวางสัมภาระที่พื้นท้ายเตียง เดินต่อไปเป็นระเบียงชิว ๆ มีอ่างล้างหน้าพร้อมกระจก อยู่ด้วย แต่กลางคืนแมลงจะเยอะหน่อย ต้องพกยากันยุงมาด้วยนะ  แต่ห้องมีแอร์พร้อม สบาย
หลังจากวางของเสร็จ สต๊าฟเรียกไปบรีฟ พร้อมแนะนำสต๊าฟในทริปและรายละเอียดกิจกรรม ว่าบ่ายนี้ใครอยากเล่น ซิปไลน์ก็สามารถทำได้ ส่วนข้าวเย็นก็จะไปทานที่ร้านอาหารของที่พัก

แล้วเราก็ไปแต่งตัวทรงเครื่องไปซิปไลน์กัน อ่อลืมบอกไปว่า ทริปนี้มากับเพื่อนสาวตัวเล็กตัวน้อยคนดีคนเดิม โอนไวใจ 5G คราวนี้ไม่ได้หลอกนะ แค่ทักเบา ๆ ว่าอยากลองชาเล้นจ์ตัวเองไหม นางก็ไม่ปฏิเสธ…เราไปที่หน้า Counter ทำการของ The Rock View Point ห่างจากที่พักไม่ไกลนักเดิน 10 นาทีจากห้องพัก จ่ายเงิน 30 $ เค้าคิดเรท 34บาท คิดเป็นเงิน 1020 แต่เค้าให้ส่วนลด สำหรับคนที่พัก 20% เหลือคนละ 816 เลยให้เงินไทยไป 820 กลม ๆ

Package ที่เลือกเป็น pack ชื่อ Highlight of The Rock ใช้เวลา 2 ชม. เล่นได้ 5 เส้น ได้เดินบน Spider net ด้วย ใครอยากเล่น pack ใหญ่กว่านี้เข้าไปดูได้ที่เว็บGreen Discovery Laos จะมีแบบ Full day / Half Day พร้อมราคาแจ้งไว้

ภูเขาที่นี่เป็นภูเขาหินปูนที่มีต้นไม้ขึ้นเขียวแซมสวยมาก และได้เห็นค่างหน้าขาว (Laotian Langur) อยู่บนยอดไม้ 3-4 ตัวไกล ๆ ด้วย หางยาวดำ ๆ ซึ่งเป็นสัตว์ที่หาดูได้ยากใกล้สูญพันธ์

Canon 70D คุณปู่ยังหายใจ EF-S18-135mm ƒ3.5-5.6 IS STM
Photo cr. N’ Ting iphone
Photo cr. N’ Ting iphone
Photo cr. N’ Ting iphone

เล่นซิปไลน์เสร็จเดินกลับมาแวะร้านกาแฟสักหน่อย และเหลือบเห็นมะพร้าวสดใ นตู้ ก็เลยจัดไป ลูกละ 120 บาทค่า 555 ราคาขั้นสุดแต่อยากมะพร้าวมาก สูดหมดลูกแล้วเดินกลับที่พัก อาบน้ำเตรียมกลับมาทานข้าวทานข้าวเย็นกัน

ข้าวเย็นรอบนี้จะมาพร้อมแพ็คเกจของที่พัก เลยดูกระจ้อยร่อยเหมาะแก่คนทานน้อย สต๊าฟเลยสั่งไข่เจียวมาเพิ่ม สรุปอิ่ม ๆ มีผลไม้ตบท้าย นั่งคุยจิบชาร้อนกันไป อากาศเริ่มมีลมเย็น แต่ก็มียุง แนะนำฉีดยากันยุงดีกว่า นั่งคุยไปมาจำได้ว่าช่วงนี้มีทางช้างเผือก แต่แสงไฟของรีสอร์ทรบกวน พร้อมกับความมือใหม่ เพิ่งเคยถ่ายช้างแรกด้วยมือถือก็เลยได้มาแค่นี้ล่ะ


20:00 ได้เวลาพักผ่อนเดินกลับที่พักกันไปเตรียมเสื้อผ้า กระเป๋าสำหรับวันพรุ่งนี้แล้วเข้านอน
กลับมา relax ขานอนฟังเพลงจนหลับไป
———-

Day 2 : 13 กันยายน 2568 วันตะลุยใต้ภิภพ
ตื่นมา7:00 และทานมื้อเช้าของที่พัก มีให้เลือกแบบ English Breakfast ไข่ 2 ไส้กรอก baked bean เบค่อน เห็ดผักกับหัวหอม และแป้งจี่ที่ไม่ใช่ข้าวเหนียวชุบไข่ปิ้ง แต่เป็นขนมปังคล้ายๆ  ปาแก้ต มาพร้อมเนยสด และแยมมะขาม เออ แปลกดีแฮะ  อ้อชุดจะมีกาแฟด้วย มีเมนูอย่างอื่นด้วย เช่น ข้าวผัดไข่ (รสชาติดีอยู่นะ) ผัดหมี่ panini ham cheese  เสริฟพร้อมสลัดผักราดบัลซามิก เป็นต้น ทานเสร็จก็รีบกลับไปฉี่ก่อนเลยเพราะเดี๋ยวใส่ชุดอุปกรณ์แล้วลำบาก
9:00 เราก็มารวมตัวกันที่ลานนัดพบ แจกอุปกรณ์ ตรวจเช็คไฟฉายคาดหัว รับน้ำคนละ 2 ขวดและห่อข้าวกลางวัน เป็นข้าวเหนียว ไข่ต้ม 2 ฟอง น้ำพริก และ หมูเหนียว

อุปกรณ์ที่ต้องติดตัวเราไปนับตั้งแต่นี้ ได้แก่ Harness, Helmet, Figure 8,  CAMP,  carabiner,  chest ascender,  ascender Handle, Fall arrester, foot loop, สายlandyard คู่, Giant, ตัวกันตก เค้าเรียกว่าอะไรนะ Fall arrester มั้งนะ หากผิดขออภัย ทั้งหมดนี่น่าจะหนักรวมกันได้ 3-4 Kg  ก็หนักอยู่
และชุดแต่ละคนสีสันบาดตาบาดใจเพื่อรูปสวยโดยเฉพาะ

การลงไปที่ก้นถ้ำป่องนี้ทำได้วิธีเดียวคือ โรยตัวลงไปแล้วปีนกลับขึ้นมาทางเดิม 
ซึ่งบริเวณปากถ้ำ ทางลาวเค้าได้เตรียมพื้นที่ด้วยโครงสร้างเหล็กเอาไว้ เจาะยึดกับหินไว้ให้เซ็ตอุปกรณ์โรยตัว พี่ ๆ Zteam ก็จะเข้าเช็คอุปกรณ์ก่อนที่จะเริ่มกิจกรรมโรยตัว เพื่อความปลอดภัยแก่สมาชิก
พี่คิงและไก่โอ๊คคู่ใจห้อยติดทุกทริป
              Photo credit P’ Ton  พี่เสกกำลังเดินไปยังปากป่อง

>>อ่านต่อใน comment