ผมเคยเห็นหลาย ๆ คนชอบเอากฎของนิวตันมาเปรียบเปรย บางทีก็เอามาล้อ ผมเข้าใจนะว่าเจตนาของคนที่ทำก็อาจจะปั่น ๆ ทำเล่น ๆ ไม่คิดอะไร แต่ผมในตอนนี้ก็กลับมามองมันอีกครั้งสิ่งที่คนอื่นเคยเปรียบเปรยเอาไว้อย่างสร้างสรรค์และฮา ๆ บ้าง มันทำให้ผมเริ่มคิดจริง ๆ ว่ามันเป็นจริงหมดเลยมันไม่ใช่แค่คำเปรียบเปรยหรือมุกอีกต่อไปแต่มันคือแนวทางอย่างนึง
ตัวอย่างคำเปรียบเปรยที่ผมเคยเจอ
กฎการเคลื่อนที่ทั้ง 3 ข้อของนิวตัน
ข้อ1.ถ้าไม่มีแรงมากระทำอะไรเลย มันก็จะยังคงอยู่อย่างที่มันเป็น
ข้อ2.แรงที่มากพอเท่านั้น ที่จะเปลี่ยนเส้นทางของสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้
ข้อ3.หากจะก้าวไปข้างหน้าก็จำเป็นที่จะต้องทิ้งบางสิ่งไว้ข้างหลังเสมอ
กฎความโน้มถ่วงสากลของนิวตันอันนี้น่าจะโดนล้อหนักสุดละ
- วัตถุซึ่งมีมวลมากยิ่งมีแรงดึงดูดมาก
ทั้งหมดนี้มันเหมือนแนวทางชีวิตอย่างนึงเลยนะสำหรับผม กฎการเคลื่อนที่ข้อ1.ก็อารมณ์แบบถ้าไม่หาอะไรมากระตุ้นตัวเองแล้วมันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงอะซึ่งมันก็จริงผมชอบนะ
ข้อ2.ถ้าไม่พยายามมากพอ จะมีโอกาศเข้าหามั้ยหรืออีกแบบคือถ้าชีวิตไม่พยายามก็ไปไหนไม่ได้หรอก คือจะพูดให้เข้าใจไงดีละ ที่ผมเข้าใจคือข้อนี้จะสอนว่าถ้าไม่ทำอะไรที่มากพอเราก็จะไม่มีทางหลุดจากวัฏจักรลูปชีวิตที่วนซํ้าไม่รู้จบ การไม่หาอะไรที่มากพอชีวิตก็จะไม่มีทางเปลี่ยน (ข้อนี้ตีความยากมาก)
ข้อ3.อันนี้ชอบสุดละ"หากจะก้าวไปข้างหน้าจำเป็นต้องทิ้งบางสิ่งไว้ข้างหลังเสมอ"ค่อนข้างตรงตัวคือถ้าคุณไม่ยอมเสียอะไรเลยคุณก็ไม่มีทางก้าวไปข้างหน้า ขนาดเราแค่เดินเรายังทิ้งดินหรือฝุ่นไว้ข้างหลังเพื่อก้าวไปข้างหน้าเลยอันนี้จริง แค่ตอนนี้ที่คุณกำลังอ่านกระทู้นี้อยู่คุณก็กำลังทิ้งเวลาไว้ข้างหลังเพื่อความคืบหน้าของเนื้อหาที่อ่าน
กฎโน้มถ่วงสากลของนิวตัน"วัตถุซึ่งมีมวลมากยิ่งมีแรงดึงดูดมาก" คนส่วนใหญ่ชอบล้อกันผมว่ามันก็ฮาดี แต่ถ้าเอาจริงจังมาหน่อยให้เปรียบด้วยเป้าหมายทึ่ใหญ่ที่สุดของตัวเองซึ่งแน่นอนมันก็ต้องสำคัญมากอยู่แล้วมันก็เหมืแนกับวัตถุที่มีมวลมากแล้วกำลังดึงเราเข้าไปไกล้ขึ้นในทุกวัน
จากทั้งหมดถ้าเอามายำรวมกันในแบบการตีความของผมก็จะได้ว่า
"ถ้าชีวิตไม่มีสิ่งใดมากระทำเลยชีวิตก็เหมือนหยุดนิ่ง แล้วสิ่งที่กระทำนั้นหลายครั้งก็ต้องมากพอที่จะสร้างทางเลือกในการเปลี่ยนแปลงให้คุณสามารถเปลี่ยนอะไรขางอย่างได้ และหากไม่ทิ้งสิ่งได้เลยชีวิตก็ไม่มีทางที่จะไปข้างหน้าได้ และท้ายที่สุดการมีเป้าหมายที่แน่วแน่คือสิ่งที่จะดึงดูดเราให้ก้าวหน้าขึ้นทุกวัน"
ถ้าใครมีความคิดเห็นอีกก็มาคุยกันได้นะ
กฎของนิวตันไม่ได้อยู่แค่ในฟิสิกส์
ตัวอย่างคำเปรียบเปรยที่ผมเคยเจอ
กฎการเคลื่อนที่ทั้ง 3 ข้อของนิวตัน
ข้อ1.ถ้าไม่มีแรงมากระทำอะไรเลย มันก็จะยังคงอยู่อย่างที่มันเป็น
ข้อ2.แรงที่มากพอเท่านั้น ที่จะเปลี่ยนเส้นทางของสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้
ข้อ3.หากจะก้าวไปข้างหน้าก็จำเป็นที่จะต้องทิ้งบางสิ่งไว้ข้างหลังเสมอ
กฎความโน้มถ่วงสากลของนิวตันอันนี้น่าจะโดนล้อหนักสุดละ
- วัตถุซึ่งมีมวลมากยิ่งมีแรงดึงดูดมาก
ทั้งหมดนี้มันเหมือนแนวทางชีวิตอย่างนึงเลยนะสำหรับผม กฎการเคลื่อนที่ข้อ1.ก็อารมณ์แบบถ้าไม่หาอะไรมากระตุ้นตัวเองแล้วมันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงอะซึ่งมันก็จริงผมชอบนะ
ข้อ2.ถ้าไม่พยายามมากพอ จะมีโอกาศเข้าหามั้ยหรืออีกแบบคือถ้าชีวิตไม่พยายามก็ไปไหนไม่ได้หรอก คือจะพูดให้เข้าใจไงดีละ ที่ผมเข้าใจคือข้อนี้จะสอนว่าถ้าไม่ทำอะไรที่มากพอเราก็จะไม่มีทางหลุดจากวัฏจักรลูปชีวิตที่วนซํ้าไม่รู้จบ การไม่หาอะไรที่มากพอชีวิตก็จะไม่มีทางเปลี่ยน (ข้อนี้ตีความยากมาก)
ข้อ3.อันนี้ชอบสุดละ"หากจะก้าวไปข้างหน้าจำเป็นต้องทิ้งบางสิ่งไว้ข้างหลังเสมอ"ค่อนข้างตรงตัวคือถ้าคุณไม่ยอมเสียอะไรเลยคุณก็ไม่มีทางก้าวไปข้างหน้า ขนาดเราแค่เดินเรายังทิ้งดินหรือฝุ่นไว้ข้างหลังเพื่อก้าวไปข้างหน้าเลยอันนี้จริง แค่ตอนนี้ที่คุณกำลังอ่านกระทู้นี้อยู่คุณก็กำลังทิ้งเวลาไว้ข้างหลังเพื่อความคืบหน้าของเนื้อหาที่อ่าน
กฎโน้มถ่วงสากลของนิวตัน"วัตถุซึ่งมีมวลมากยิ่งมีแรงดึงดูดมาก" คนส่วนใหญ่ชอบล้อกันผมว่ามันก็ฮาดี แต่ถ้าเอาจริงจังมาหน่อยให้เปรียบด้วยเป้าหมายทึ่ใหญ่ที่สุดของตัวเองซึ่งแน่นอนมันก็ต้องสำคัญมากอยู่แล้วมันก็เหมืแนกับวัตถุที่มีมวลมากแล้วกำลังดึงเราเข้าไปไกล้ขึ้นในทุกวัน
จากทั้งหมดถ้าเอามายำรวมกันในแบบการตีความของผมก็จะได้ว่า
"ถ้าชีวิตไม่มีสิ่งใดมากระทำเลยชีวิตก็เหมือนหยุดนิ่ง แล้วสิ่งที่กระทำนั้นหลายครั้งก็ต้องมากพอที่จะสร้างทางเลือกในการเปลี่ยนแปลงให้คุณสามารถเปลี่ยนอะไรขางอย่างได้ และหากไม่ทิ้งสิ่งได้เลยชีวิตก็ไม่มีทางที่จะไปข้างหน้าได้ และท้ายที่สุดการมีเป้าหมายที่แน่วแน่คือสิ่งที่จะดึงดูดเราให้ก้าวหน้าขึ้นทุกวัน"
ถ้าใครมีความคิดเห็นอีกก็มาคุยกันได้นะ