สงครามไทย-เขมร ไม่น่าจะจบในรุ่นเราหรอก

คิดว่าการศึกษาในประเทศเขามันไม่ส่งเสริมเรื่องคุณธรรมกับสมบัติผู้ดีครับ
สาเหตุที่แท้จริงเพราะประเทศตกอยู่ภายใต้การยึดครองมายาวนานหลายร้อยปี
มีสงครามตลอดเวลาไม่เคยมีช่วงเวลาที่มีความสงบให้พัฒนาบ้านเมืองและจิตใจคน

คนเขมรเกิดมาต้องดิ้นรนเอาตัวรอดในระดับที่แตกต่างจากคนไทยมาก
ของเราเจอพิษเศรษฐกิจเป็นระยะๆ แต่มันยังไม่โหดเท่าไม่มีจะกินเพราะสงครามพร้อมๆ กับต้องวิ่งหนีระเบิดลูกปืนไปด้วย
ดูดีๆ สงครามในเขมรมันยังไม่สงบจริงๆ เพราะการแย่งอำนาจกันก็ตัดสินด้วยกำลังใครเข้มแข็งกว่าก็ชนะ
ผู้ชนะกดขี่ข่มเหงผู้แพ้ ประชาชนและสงครามกลางเมืองรอบใหม่ก็พร้อมจะปะทุตลอดเวลา
ตัวอย่างง่ายๆ ก็คือ Propaganda + Single Gateqay + fake news ปิดหูปิดตาประชาชน

มันเป็นไปทั้งหมดทั้งผู้นำ ชนชั้นสูง ข้าราชการ ประชาชน ... มันไปทางเดียวกันหมด

คิดว่าเราเห็นภาพก็คงสับสนเพราะ ระดับ ปชช. เขมรเองก็ดูไม่มีพิษสงอะไร
เป็นเพื่อนบ้าน เป็นชาวพุทธเหมือนกันด้วยคงเข้าใจเรื่องศีล 5 แต่พอปรับโหมดเป็นการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด
ในแนวคิดนี้ให้เข้าใจไว้ก่อนครับว่าชาวพุทธทุกคนมันก็คือ มนุษย์
ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดและความเป็นพุทธไม่ได้แปลว่า สงบ สันติเสมอไป

ที่สำคัญมันฝังในหัวไปแล้ว คนไทย (หรือสยาม) เป็น Tricker สำคัญตัวหนึ่ง  (อีกตัวคือ ชาวเวียดนาม)
ที่แตะปุ๊บเขาก็พร้อมจะปรับโหมดเป็นไฟเตอร์ที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะทันที

ภายใต้ความเชื่อว่าของทั้งหมดเป็นของเขามาก่อน เขาเป็นต้นกำเนิด เราต้องพึ่งพาเขา ไม่มีเขาก็ไม่มีเราในวันนี้
และต้องทำทุกวีถีทางเท่าที่จะทำได้เพราะไม่เคยเอาชนะไทย (สยาม) ได้เลย

เป็นความน้อยเนื้อต่ำใจที่การศึกษาเขาไม่เคยสอนให้ใช้มันเป็นพลังพัฒนาตัวเอง แต่ใช้มันหล่อเลี้ยงความเกลียดชังเป็นเครื่องมือทางการเมือง

สงคราม 5 วันที่ผ่านมาเป็นตัวอย่างได้ชัดเจน และน่าจะสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้คนเขมรมาก
คิดว่าลึกๆ มีคนจำนวนมากรู้ดีว่า ทหารรบแพ้ตายไปหลายพันคน แพ้แบบไม่มีทางสู้และเสียพื้นที่ครอบครองเป็นจำนวนมาก

และพร้อมจะเอาคืนตลอดเวลา
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่