อยากเล่าเรื่องความรักของเรา เผื่อได้มุมมองจากคนอื่นค่ะ
เราคบกับแฟนมาสักพัก ตอนนี้ยังรักอยู่มาก แต่ปัญหาที่ทำให้ทะเลาะกันตลอดคือ เรื่องงานของเขา
เขาทำงานเป็นตากล้องช่องยูทูป ไม่มีเวลาที่แน่นอน และบริษัทไม่มีการวางแผนระบบงานที่ชัดเจน บางวันถ่ายตั้งแต่เช้าถึงดึก หรือจู่ๆวันนี้อยากจะถ่ายก็ถ่าย เวลาส่วนตัวแทบไม่มี บางครั้งต้องไปช่วยงานที่ไม่ได้เกี่ยวกับบริษัทและไม่ได้ค่าตอบแทนหรือชดเชยเวลา แต่ต้องไปเพราะหัวหน้าเอ่ยปากขอช่วย เราก็เข้าใจถ้านั้นมันคือการทำงานจริงๆ แต่ในใจลึก ๆ รู้สึกเหมือน “เขายังมีแรงให้ทุกอย่าง ยกเว้นเรา”
เราเป็นคนชอบถาม ชอบอยากเข้าใจ แต่เขาเป็นคนไม่ชอบอธิบาย ตอบสั้น ๆ จนเรายิ่งไม่เข้าใจ สุดท้ายกลายเป็นทะเลาะซ้ำ ๆ
อีกอย่างที่เจ็บมากคือ เขาไม่เคยปกป้องเราเลย เวลาเราถูกมองไม่ดีจากเพื่อนร่วมงานหรือสถานการณ์รอบ ๆ ตัวเขา เขาไม่เคยยืนข้างเรา กลับปล่อยให้เรารู้สึกเหมือนตัวคนเดียว
ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เขาเคยพูดบอกเลิกเราหลายครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งก็เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเราเลย บางทีเหมือนเขาเลือก “เลิก” เป็นทางออกง่าย ๆ ทุกครั้งที่มีปัญหา พอเป็นแบบนี้บ่อย ๆ มันทำให้เรารู้สึกว่า ความรักที่มีเขาไม่ได้รักษามันเลย
เราคิดว่าที่ทะเลาะกันเรื่องงานเราไม่ไหวแล้ว เราต้องยอมทุกอย่างทั้งๆที่บางครั้งไม่ใช่งานจริงๆด้วยซ้ำ แต่เขากลับยอมให้งานมาเอาเปรียบเวลาที่ควรอยูด้วยกันเสมอ ในความคิดเรามีทางเลือกคือ ต้องยอม หรือ จะถอย แต่ในความคิดเขาคือ จะยอม หรือ จะทะเลาะกันต่อไป ซึ่งปัญหาบางอย่างสามารถแก้ไขได้ แต่เขาเลือกที่จะบังคับให้เราต้องเข้าใจเขาเสมอ
ความรู้สึกมันเหมือนเราไม่ได้คบกับเขาอย่างเดียว แต่คบกับงานของเขา คนรอบตัวเขา เพราะที่ทำงานเขาล้ำเส้นมาก เวลาที่ไม่ใช่งานถ้าเขาไม่ไป เขาก็จะถูกมองว่าไม่มีส่วนร่วม หรือไม่เข้าร่วมกิจกรรมเลย บางครั้งเขาอยากพักเพราะเหนื่อย แต่เขาก็กลัวคำพูดคนอื่น กลัวคนอื่นพูดถึงเขาไม่ดี เขาเลยต้องยอมทุกครั้ง
สุดท้าย เราตัดสินใจบอกเลิก ทั้งที่ยังรักกันอยู่ เพราะความรักที่เหลือ มันไม่ควรทำร้ายใจเรามากขนาดนี้แล้ว
คำถามที่อยากถามทุกคน
•เราตัดสินใจถูกมั้ยที่เลือกพอ ทั้ง ๆ ที่ยังรักกันอยู่?
•หรือจริง ๆ เราควรอดทนมากกว่านี้ เพราะมันคือเรื่องงานที่เขาเลี่ยงไม่ได้?
•แล้วการที่เขาไม่ปกป้องเรา บอกเลิกซ้ำ ๆ แบบนี้… มันสะท้อนอะไรบ้างคะ?
รักที่ยังอยู่ แต่ไปต่อไม่ไหว เราควรพอแล้วจริงๆใช่มั้ย
เราคบกับแฟนมาสักพัก ตอนนี้ยังรักอยู่มาก แต่ปัญหาที่ทำให้ทะเลาะกันตลอดคือ เรื่องงานของเขา
เขาทำงานเป็นตากล้องช่องยูทูป ไม่มีเวลาที่แน่นอน และบริษัทไม่มีการวางแผนระบบงานที่ชัดเจน บางวันถ่ายตั้งแต่เช้าถึงดึก หรือจู่ๆวันนี้อยากจะถ่ายก็ถ่าย เวลาส่วนตัวแทบไม่มี บางครั้งต้องไปช่วยงานที่ไม่ได้เกี่ยวกับบริษัทและไม่ได้ค่าตอบแทนหรือชดเชยเวลา แต่ต้องไปเพราะหัวหน้าเอ่ยปากขอช่วย เราก็เข้าใจถ้านั้นมันคือการทำงานจริงๆ แต่ในใจลึก ๆ รู้สึกเหมือน “เขายังมีแรงให้ทุกอย่าง ยกเว้นเรา”
เราเป็นคนชอบถาม ชอบอยากเข้าใจ แต่เขาเป็นคนไม่ชอบอธิบาย ตอบสั้น ๆ จนเรายิ่งไม่เข้าใจ สุดท้ายกลายเป็นทะเลาะซ้ำ ๆ
อีกอย่างที่เจ็บมากคือ เขาไม่เคยปกป้องเราเลย เวลาเราถูกมองไม่ดีจากเพื่อนร่วมงานหรือสถานการณ์รอบ ๆ ตัวเขา เขาไม่เคยยืนข้างเรา กลับปล่อยให้เรารู้สึกเหมือนตัวคนเดียว
ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เขาเคยพูดบอกเลิกเราหลายครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งก็เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับเราเลย บางทีเหมือนเขาเลือก “เลิก” เป็นทางออกง่าย ๆ ทุกครั้งที่มีปัญหา พอเป็นแบบนี้บ่อย ๆ มันทำให้เรารู้สึกว่า ความรักที่มีเขาไม่ได้รักษามันเลย
เราคิดว่าที่ทะเลาะกันเรื่องงานเราไม่ไหวแล้ว เราต้องยอมทุกอย่างทั้งๆที่บางครั้งไม่ใช่งานจริงๆด้วยซ้ำ แต่เขากลับยอมให้งานมาเอาเปรียบเวลาที่ควรอยูด้วยกันเสมอ ในความคิดเรามีทางเลือกคือ ต้องยอม หรือ จะถอย แต่ในความคิดเขาคือ จะยอม หรือ จะทะเลาะกันต่อไป ซึ่งปัญหาบางอย่างสามารถแก้ไขได้ แต่เขาเลือกที่จะบังคับให้เราต้องเข้าใจเขาเสมอ
ความรู้สึกมันเหมือนเราไม่ได้คบกับเขาอย่างเดียว แต่คบกับงานของเขา คนรอบตัวเขา เพราะที่ทำงานเขาล้ำเส้นมาก เวลาที่ไม่ใช่งานถ้าเขาไม่ไป เขาก็จะถูกมองว่าไม่มีส่วนร่วม หรือไม่เข้าร่วมกิจกรรมเลย บางครั้งเขาอยากพักเพราะเหนื่อย แต่เขาก็กลัวคำพูดคนอื่น กลัวคนอื่นพูดถึงเขาไม่ดี เขาเลยต้องยอมทุกครั้ง
สุดท้าย เราตัดสินใจบอกเลิก ทั้งที่ยังรักกันอยู่ เพราะความรักที่เหลือ มันไม่ควรทำร้ายใจเรามากขนาดนี้แล้ว
คำถามที่อยากถามทุกคน
•เราตัดสินใจถูกมั้ยที่เลือกพอ ทั้ง ๆ ที่ยังรักกันอยู่?
•หรือจริง ๆ เราควรอดทนมากกว่านี้ เพราะมันคือเรื่องงานที่เขาเลี่ยงไม่ได้?
•แล้วการที่เขาไม่ปกป้องเรา บอกเลิกซ้ำ ๆ แบบนี้… มันสะท้อนอะไรบ้างคะ?