สหรัฐฯ ขนขีปนาวุธ "ไทฟอน" ไปติดตั้งที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก.. จะติดตั้งถาวรเลยไหม? ส่วนจีนออกมาเรียกร้องให้ถอนออกทันที
ภัทร จินตนะกุล
ทำความรู้จักชื่อ ไทฟอน ก่อนนะครับ
ไทฟอน (อังกฤษ: Typhon) เป็นอสูรกายยักษ์ซึ่งได้เกิดมาจากพระแม่ธรณีไกอา (บ้างคัมภีร์บอกว่าเป็นเจอา ไกอา หรือไมอา) กับปีศาจทาร์ทารัสซึ่งถือกำเนิดเป็นไทฟอน (ในหนังสือ Mythology ของเฮดิธ แฮมิลต้น อธิบายไว้ว่าไทฟอนเป็นอสุรกายร้อยหัว ตาลุกไฟ และสามารถพ่นไฟได้)
บ้างก็ว่าร่างกายเป็นคน น้ำตาเป็นพิษ มีหัวร้อยหัว ซึ่งเจอาได้สั่งให้ไทฟอนไปโค่นเขาโอลิมปัส จนเทพหนีหายหมด พลังของไทฟอนร้ายกาจถึงขั้นสามารถกางปีกปิดโลกได้
เมื่อเคลื่อนไหวร่างกายจะกลายเป็นพายุขนาดใหญ่
นอกจากนี้ไทฟอนยังเป็นบิดาของปิศาจทั้งปวง ส่วนมารดาของปิศาจทั้งปวงนั้นคืออีคิดน่า และต่อมาผู้คนที่เคยเรียกพายุนี้ว่า ไทฟอน ก็เพี้ยนมาเป็น ไต้ฝุ่น จนถึงทุกวันนี้
มาดูขีปนาวุธนี้ร้ายกาจแค่ไหนกัน
'ระบบขีปนาวุธไทฟอน' (Typhon) สหรัฐฯยกมาจ่อคอหอยจีน วางแนวที่ฟิลิปปินส์-ญี่ปุ่นเล็งเป้าปักกิ่งถึงเซี่ยงไฮ้
Sep, 2 2025
'ระบบขีปนาวุธไทฟอน' (Typhon) สหรัฐฯยกมาจ่อคอหอยจีน วางแนวที่ฟิลิปปินส์-ญี่ปุ่นเล็งเป้าปักกิ่งถึงเซี่ยงไฮ้
เบื้องหลังสถานการณ์
มีรายงานข่าวที่ว่า ในระหว่างการซ้อมรบร่วมที่ญี่ปุ่นในเดือนกันยายน กองทัพสหรัฐฯ วางแผนที่จะติดตั้งระบบขีปนาวุธพิสัยกลางไทฟอนในญี่ปุ่นและดำเนินการฝึกซ้อมที่เกี่ยวข้อง ระบบดังกล่าวจะถูกถอดออกหลังจากการซ้อมรบ
จากการรายงานของสำนักข่าวซินหัว กัวเจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นควรเคารพข้อกังวลด้านความมั่นคงของประเทศอื่นๆ งดเว้นการติดตั้งระบบขีปนาวุธไทฟอน และสนับสนุนสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคด้วยการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม
“จีนแสดงความกังวลอย่างมากในประเด็นที่เกี่ยวข้องหลายครั้ง จีนคัดค้านการที่สหรัฐฯ ติดตั้งระบบขีปนาวุธไทฟอนพิสัยกลางในประเทศแถบเอเชียมาโดยตลอด” กัวกล่าว และเสริมว่าการติดตั้งระบบขีปนาวุธไทฟอนในญี่ปุ่นจะยิ่งบ่อนทำลายผลประโยชน์ด้านความมั่นคงที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศอื่นๆ และก่อให้เกิดภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงเชิงยุทธศาสตร์ในภูมิภาค
'ไทฟอน'คุกคามจีนได้แค่ไหน?
'ระบบขีปนาวุธไทฟอน' (Typhon missile system) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า 'ระบบการยิงระยะกลางเชิงยุทธศาสตร์' (SMRF) และได้รับการขนานนามว่า "ไทฟอน" เป็นเครื่องยิงจรวดขนส่งแบบตั้งตรงของกองทัพบกสหรัฐฯ ประกอบด้วยระบบยิงขีปนาวุธ 4 ระบบ, รถบังคับบัญชา 1 คัน, รถสนับสนุนการบรรจุขีปนาวุธ, รถยก, รถสนับสนุนกำลัง ฯลฯ ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างรวดเร็วในพื้นที่ขนาดใหญ่โดยใช้เครื่องบินขนส่งยุทธศาสตร์ C-17
ไทฟอนรอบรับขีปนาวุธมาตรฐาน SM-6 และโทมาฮอว์ก เพื่อโจมตีเป้าหมายต่างๆ ภายในระยะ 500 ถึง 2,000 กิโลเมตร ด้วยพิสัยการยิงนี้ขึงช่วยเติมเต็มช่องว่างอำนาจการยิงระหว่างขีปนาวุธพรีซิชั่นสไตรค์ (PrSM) ของกองทัพบกสหรัฐฯ ซึ่งมีระยะยิง 482 กิโลเมตร และดาร์กฮอว์ก ซึ่งเป็นอาวุธความเร็วเหนือเสียงพิสัยไกลที่มีระยะยิง 2,776 กิโลเมตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ SM-6 ไม่เพียงแต่มีศักยภาพในการสกัดกั้นขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงเท่านั้น แต่ยังสามารถโจมตีภาคพื้นดินได้อีกด้วย ทำให้เป็นอาวุธโจมตีภาคพื้นดินที่มีความแม่นยำและใช้งานได้หลากหลายและมีราคาไม่แพงนัก
พลเอกกาวิน การ์ดเนอร์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการยุทธการที่ 8 กองทัพบกสหรัฐฯ กล่าวว่า "ระบบขีปนาวุธภาคพื้นดินความเร็วเหนือเสียงเคลื่อนที่อย่างไทฟอน จะช่วยให้ผู้บัญชาการสหรัฐฯ สามารถกำหนดเป้าหมายเรือที่กำลังเคลื่อนที่ในทะเล เครื่องบินบนอากาศ หรือเป้าหมายบนบก โดยบูรณาการความสามารถเหล่านี้เข้ากับระบบโจมตีภาคพื้นดินแบบหลายโดเมนแบบใหม่"
ไทฟอนคือมีดที่เอาไว้จ่อคอจีน
ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 กองทัพบกสหรัฐฯ ได้ส่งกำลังพลไทฟอนจากหน่วย MDTF แรกไปยังฟิลิปปินส์ ซึ่งถือเป็นการส่งกำลังพลครั้งแรกในต่างประเทศ โดยส่งกำลังพลจากฐานทัพร่วม Lewis–McChord ผ่านเครื่องบิน C-17 Globemaster ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ไปยังสนามบินที่ไม่ระบุชื่อในลูซอนตอนเหนือสำหรับการฝึกซ้อมทางทหารร่วมในชื่อปฏิบัตืการ Salaknib 2024
เจ้าหน้าที่กองทัพบกสหรัฐฯ ระบุว่า จากตำแหน่งที่ตั้งของระบบไทฟอนบนเกาะในลูซอน ขีปนาวุธของไทฟอนสามารถครอบคลุมไม่เพียงแต่ช่องแคบลูซอนทั้งหมดเท่านั้น แต่ยังไปถึงชายฝั่งจีนและฐานทัพต่างๆ ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนในทะเลจีนใต้ได้อีกด้วย เจ้าหน้าที่กลาโหมฟิลิปปินส์ระบุว่า ระบบนี้ไม่ได้ถูกใช้ในการฝึกซ้อมยิงจริง แต่กองทัพฟิลิปปินส์ได้รับการฝึกฝนเกี่ยวกับวิธีการจัดการและบำรุงรักษาระบบขีปนาวุธ ระบบนี้ยังถูกนำมาใช้ในการฝึกซ้อมที่บาลิกาตัน 24 อีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารกล่าวว่า การส่งไทฟอนไปประจำการที่ฟิลิปปินส์เป็นส่วนหนึ่งของการปรับกลยุทธ์ของกองทัพสหรัฐฯ เพื่อต่อต้านการสะสมขีดความสามารถด้านขีปนาวุธของจีนในแปซิฟิก ด้านโฆษกกองทัพฟิลิปปินส์กล่าวว่าการติดตั้งระบบขีปนาวุธไทฟอนในฟิลิปปินส์อาจขยายออกไปเกินเดือนกันยายน พ.ศ. 2567 โดยอยู่ระหว่างการประเมินว่าการฝึกซ้อมบรรลุวัตถุประสงค์หรือไม่
ต่อมา เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2567 กองทัพฟิลิปปินส์ประกาศว่าพวกเขาวางแผนที่จะจัดหาระบบขีปนาวุธไทฟอน ท่าทีนี้ยิ่งสะท้อนว่าฟิลิปปินส์พร้อมที่จะซื้ออาวุธที่ทันสมัยเพื่อรับมือกับความขัดแย้งกับจีนเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์เหนือเกาะต่างๆ ในทะเลจีนใต้ อย่างไรก็ตาม การที่ไทฟอนมีพิสัยยิงไกลไปถึงจีน อาจทำให้จีนมีท่าทีที่แข็งแกร้าวต่อฟิลิปปินส์ยิ่งขึ้นไปอีก
พลเอกรอย มาบาโกส กาลิโด ผู้บัญชาการทหารบกฟิลิปปินส์คนปัจจุบัน ได้กล่าวในการแถลงข่าวว่า "เราวางแผนที่จะจัดซื้อระบบนี้ เพราะเราให้ความสำคัญกับความเป็นไปได้และการใช้งานจริงของระบบในแนวคิดการพัฒนาระบบป้องกันประเทศแบบหมู่เกาะของเรา" และในส่วนของการใช้ไทฟอนเพื่อรับมือกับกรณีพิพาทกับจีนนั้น กาลิโด กล่าวว่า "เราต้องการให้พวกเขา (จีน) นอนไม่หลับในยามค่ำคืน"
รายงานบนเว็บไซต์ U.S. Defense News ลงวันที่ 18 มีนาคม 2568 ระบุว่า สหรัฐฯ ถือว่าระบบขีปนาวุธภาคพื้นดินพิสัยกลางนี้เป็นปัจจัยสำคัญในการป้องปรามจีน และมีแผนที่จะติดตั้งเพิ่มเติมในภูมิภาคแปซิฟิก ในมุมมองปฏิบัติการ การส่งไทฟอนของกองทัพสหรัฐฯ ไปยังเกาะลูซอนในฟิลิปปินส์ จะทำให้ไทฟอนมีระยะครอบคลุมฐานทัพและสิ่งอำนวยความสะดวกสำคัญในกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ตามแนวชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของจีน และบนเกาะต่างๆ ในทะเลจีนใต้
ในขณะที่ฟิลิปปินส์ต้องการไทฟอนมา "ฟ้องกันตัวเอง" อีก "แนวรับ"ด้านหนึ่งของพันธมิตรสหรัฐฯ ในเอเชียก็เริ่มรับเอาไทฟอนมาใช้เช่นกัน นั่นคือ ญี่ปุ่น โดยเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2568 นาวิกโยธินสหรัฐฯ ประกาศว่าจะดำเนินการฝึกปฏิบัติการไทฟอนโดยไม่ใช้ขีปนาวุธที่ฐานทัพอากาศอิวาคุระของญี่ปุ่น และได้บรรยายสรุปให้หน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องทราบ
แนวโน้มการใช้งานเพื่อ "ต้านจีน"
ปัจจุบันกองทัพบกสหรัฐฯ มีหน่วยปฏิบัติการพิเศษหลายโดเมน (MDTF) สามหน่วย โดยสองหน่วยประจำการอยู่ในแปซิฟิก (มีแผนจะจัดตั้งอีกห้าหน่วย โดยสามหน่วยจะมุ่งเน้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) กองกำลังเหล่านี้เป็น "แกนหลักของการป้องปรามและตอบโต้ความขัดแย้งกับจีนของกองทัพสหรัฐฯ" ในระหว่างการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ-ฟิลิปปินส์ ชิลด์ ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 หน่วยปฏิบัติการพิเศษหลายโดเมนหน่วยแรกของกองทัพบกสหรัฐฯ (MDTF) ได้เดินทางไกลถึง 8,000 ไมล์เพื่อนำระบบขีปนาวุธพิสัยกลางไทฟอนชุดแรกไปประจำการที่เกาะลูซอนในฟิลิปปินส์ หน่วยปฏิบัติการพิเศษหลายโดเมนหน่วยที่สามของกองทัพบกสหรัฐฯ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ฮาวาย จะได้รับระบบขีปนาวุธพิสัยกลางไทฟอนชุดที่สองอย่างเป็นทางการในปีนี้ มีรายงานว่ากองทัพบกสหรัฐฯ วางแผนที่จะนำระบบไทฟอนอีกสามระบบไปประจำการที่ MDTF ระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ถึง พ.ศ. 2571
โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better
ความตึงเครียด จีน ญี่ปุ่น สหรัฐ หนักขึ้น เมื่อมี ไทฟอน
สหรัฐฯ ขนขีปนาวุธ "ไทฟอน" ไปติดตั้งที่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก.. จะติดตั้งถาวรเลยไหม? ส่วนจีนออกมาเรียกร้องให้ถอนออกทันที
ภัทร จินตนะกุล
ทำความรู้จักชื่อ ไทฟอน ก่อนนะครับ
ไทฟอน (อังกฤษ: Typhon) เป็นอสูรกายยักษ์ซึ่งได้เกิดมาจากพระแม่ธรณีไกอา (บ้างคัมภีร์บอกว่าเป็นเจอา ไกอา หรือไมอา) กับปีศาจทาร์ทารัสซึ่งถือกำเนิดเป็นไทฟอน (ในหนังสือ Mythology ของเฮดิธ แฮมิลต้น อธิบายไว้ว่าไทฟอนเป็นอสุรกายร้อยหัว ตาลุกไฟ และสามารถพ่นไฟได้)
บ้างก็ว่าร่างกายเป็นคน น้ำตาเป็นพิษ มีหัวร้อยหัว ซึ่งเจอาได้สั่งให้ไทฟอนไปโค่นเขาโอลิมปัส จนเทพหนีหายหมด พลังของไทฟอนร้ายกาจถึงขั้นสามารถกางปีกปิดโลกได้
เมื่อเคลื่อนไหวร่างกายจะกลายเป็นพายุขนาดใหญ่
นอกจากนี้ไทฟอนยังเป็นบิดาของปิศาจทั้งปวง ส่วนมารดาของปิศาจทั้งปวงนั้นคืออีคิดน่า และต่อมาผู้คนที่เคยเรียกพายุนี้ว่า ไทฟอน ก็เพี้ยนมาเป็น ไต้ฝุ่น จนถึงทุกวันนี้
มาดูขีปนาวุธนี้ร้ายกาจแค่ไหนกัน
'ระบบขีปนาวุธไทฟอน' (Typhon) สหรัฐฯยกมาจ่อคอหอยจีน วางแนวที่ฟิลิปปินส์-ญี่ปุ่นเล็งเป้าปักกิ่งถึงเซี่ยงไฮ้
Sep, 2 2025
'ระบบขีปนาวุธไทฟอน' (Typhon) สหรัฐฯยกมาจ่อคอหอยจีน วางแนวที่ฟิลิปปินส์-ญี่ปุ่นเล็งเป้าปักกิ่งถึงเซี่ยงไฮ้
เบื้องหลังสถานการณ์
มีรายงานข่าวที่ว่า ในระหว่างการซ้อมรบร่วมที่ญี่ปุ่นในเดือนกันยายน กองทัพสหรัฐฯ วางแผนที่จะติดตั้งระบบขีปนาวุธพิสัยกลางไทฟอนในญี่ปุ่นและดำเนินการฝึกซ้อมที่เกี่ยวข้อง ระบบดังกล่าวจะถูกถอดออกหลังจากการซ้อมรบ
จากการรายงานของสำนักข่าวซินหัว กัวเจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นควรเคารพข้อกังวลด้านความมั่นคงของประเทศอื่นๆ งดเว้นการติดตั้งระบบขีปนาวุธไทฟอน และสนับสนุนสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคด้วยการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม
“จีนแสดงความกังวลอย่างมากในประเด็นที่เกี่ยวข้องหลายครั้ง จีนคัดค้านการที่สหรัฐฯ ติดตั้งระบบขีปนาวุธไทฟอนพิสัยกลางในประเทศแถบเอเชียมาโดยตลอด” กัวกล่าว และเสริมว่าการติดตั้งระบบขีปนาวุธไทฟอนในญี่ปุ่นจะยิ่งบ่อนทำลายผลประโยชน์ด้านความมั่นคงที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศอื่นๆ และก่อให้เกิดภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงเชิงยุทธศาสตร์ในภูมิภาค
'ไทฟอน'คุกคามจีนได้แค่ไหน?
'ระบบขีปนาวุธไทฟอน' (Typhon missile system) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า 'ระบบการยิงระยะกลางเชิงยุทธศาสตร์' (SMRF) และได้รับการขนานนามว่า "ไทฟอน" เป็นเครื่องยิงจรวดขนส่งแบบตั้งตรงของกองทัพบกสหรัฐฯ ประกอบด้วยระบบยิงขีปนาวุธ 4 ระบบ, รถบังคับบัญชา 1 คัน, รถสนับสนุนการบรรจุขีปนาวุธ, รถยก, รถสนับสนุนกำลัง ฯลฯ ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างรวดเร็วในพื้นที่ขนาดใหญ่โดยใช้เครื่องบินขนส่งยุทธศาสตร์ C-17
ไทฟอนรอบรับขีปนาวุธมาตรฐาน SM-6 และโทมาฮอว์ก เพื่อโจมตีเป้าหมายต่างๆ ภายในระยะ 500 ถึง 2,000 กิโลเมตร ด้วยพิสัยการยิงนี้ขึงช่วยเติมเต็มช่องว่างอำนาจการยิงระหว่างขีปนาวุธพรีซิชั่นสไตรค์ (PrSM) ของกองทัพบกสหรัฐฯ ซึ่งมีระยะยิง 482 กิโลเมตร และดาร์กฮอว์ก ซึ่งเป็นอาวุธความเร็วเหนือเสียงพิสัยไกลที่มีระยะยิง 2,776 กิโลเมตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ SM-6 ไม่เพียงแต่มีศักยภาพในการสกัดกั้นขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงเท่านั้น แต่ยังสามารถโจมตีภาคพื้นดินได้อีกด้วย ทำให้เป็นอาวุธโจมตีภาคพื้นดินที่มีความแม่นยำและใช้งานได้หลากหลายและมีราคาไม่แพงนัก
พลเอกกาวิน การ์ดเนอร์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการยุทธการที่ 8 กองทัพบกสหรัฐฯ กล่าวว่า "ระบบขีปนาวุธภาคพื้นดินความเร็วเหนือเสียงเคลื่อนที่อย่างไทฟอน จะช่วยให้ผู้บัญชาการสหรัฐฯ สามารถกำหนดเป้าหมายเรือที่กำลังเคลื่อนที่ในทะเล เครื่องบินบนอากาศ หรือเป้าหมายบนบก โดยบูรณาการความสามารถเหล่านี้เข้ากับระบบโจมตีภาคพื้นดินแบบหลายโดเมนแบบใหม่"
ไทฟอนคือมีดที่เอาไว้จ่อคอจีน
ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 กองทัพบกสหรัฐฯ ได้ส่งกำลังพลไทฟอนจากหน่วย MDTF แรกไปยังฟิลิปปินส์ ซึ่งถือเป็นการส่งกำลังพลครั้งแรกในต่างประเทศ โดยส่งกำลังพลจากฐานทัพร่วม Lewis–McChord ผ่านเครื่องบิน C-17 Globemaster ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ไปยังสนามบินที่ไม่ระบุชื่อในลูซอนตอนเหนือสำหรับการฝึกซ้อมทางทหารร่วมในชื่อปฏิบัตืการ Salaknib 2024
เจ้าหน้าที่กองทัพบกสหรัฐฯ ระบุว่า จากตำแหน่งที่ตั้งของระบบไทฟอนบนเกาะในลูซอน ขีปนาวุธของไทฟอนสามารถครอบคลุมไม่เพียงแต่ช่องแคบลูซอนทั้งหมดเท่านั้น แต่ยังไปถึงชายฝั่งจีนและฐานทัพต่างๆ ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนในทะเลจีนใต้ได้อีกด้วย เจ้าหน้าที่กลาโหมฟิลิปปินส์ระบุว่า ระบบนี้ไม่ได้ถูกใช้ในการฝึกซ้อมยิงจริง แต่กองทัพฟิลิปปินส์ได้รับการฝึกฝนเกี่ยวกับวิธีการจัดการและบำรุงรักษาระบบขีปนาวุธ ระบบนี้ยังถูกนำมาใช้ในการฝึกซ้อมที่บาลิกาตัน 24 อีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารกล่าวว่า การส่งไทฟอนไปประจำการที่ฟิลิปปินส์เป็นส่วนหนึ่งของการปรับกลยุทธ์ของกองทัพสหรัฐฯ เพื่อต่อต้านการสะสมขีดความสามารถด้านขีปนาวุธของจีนในแปซิฟิก ด้านโฆษกกองทัพฟิลิปปินส์กล่าวว่าการติดตั้งระบบขีปนาวุธไทฟอนในฟิลิปปินส์อาจขยายออกไปเกินเดือนกันยายน พ.ศ. 2567 โดยอยู่ระหว่างการประเมินว่าการฝึกซ้อมบรรลุวัตถุประสงค์หรือไม่
ต่อมา เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2567 กองทัพฟิลิปปินส์ประกาศว่าพวกเขาวางแผนที่จะจัดหาระบบขีปนาวุธไทฟอน ท่าทีนี้ยิ่งสะท้อนว่าฟิลิปปินส์พร้อมที่จะซื้ออาวุธที่ทันสมัยเพื่อรับมือกับความขัดแย้งกับจีนเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์เหนือเกาะต่างๆ ในทะเลจีนใต้ อย่างไรก็ตาม การที่ไทฟอนมีพิสัยยิงไกลไปถึงจีน อาจทำให้จีนมีท่าทีที่แข็งแกร้าวต่อฟิลิปปินส์ยิ่งขึ้นไปอีก
พลเอกรอย มาบาโกส กาลิโด ผู้บัญชาการทหารบกฟิลิปปินส์คนปัจจุบัน ได้กล่าวในการแถลงข่าวว่า "เราวางแผนที่จะจัดซื้อระบบนี้ เพราะเราให้ความสำคัญกับความเป็นไปได้และการใช้งานจริงของระบบในแนวคิดการพัฒนาระบบป้องกันประเทศแบบหมู่เกาะของเรา" และในส่วนของการใช้ไทฟอนเพื่อรับมือกับกรณีพิพาทกับจีนนั้น กาลิโด กล่าวว่า "เราต้องการให้พวกเขา (จีน) นอนไม่หลับในยามค่ำคืน"
รายงานบนเว็บไซต์ U.S. Defense News ลงวันที่ 18 มีนาคม 2568 ระบุว่า สหรัฐฯ ถือว่าระบบขีปนาวุธภาคพื้นดินพิสัยกลางนี้เป็นปัจจัยสำคัญในการป้องปรามจีน และมีแผนที่จะติดตั้งเพิ่มเติมในภูมิภาคแปซิฟิก ในมุมมองปฏิบัติการ การส่งไทฟอนของกองทัพสหรัฐฯ ไปยังเกาะลูซอนในฟิลิปปินส์ จะทำให้ไทฟอนมีระยะครอบคลุมฐานทัพและสิ่งอำนวยความสะดวกสำคัญในกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ตามแนวชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของจีน และบนเกาะต่างๆ ในทะเลจีนใต้
ในขณะที่ฟิลิปปินส์ต้องการไทฟอนมา "ฟ้องกันตัวเอง" อีก "แนวรับ"ด้านหนึ่งของพันธมิตรสหรัฐฯ ในเอเชียก็เริ่มรับเอาไทฟอนมาใช้เช่นกัน นั่นคือ ญี่ปุ่น โดยเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2568 นาวิกโยธินสหรัฐฯ ประกาศว่าจะดำเนินการฝึกปฏิบัติการไทฟอนโดยไม่ใช้ขีปนาวุธที่ฐานทัพอากาศอิวาคุระของญี่ปุ่น และได้บรรยายสรุปให้หน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้องทราบ
แนวโน้มการใช้งานเพื่อ "ต้านจีน"
ปัจจุบันกองทัพบกสหรัฐฯ มีหน่วยปฏิบัติการพิเศษหลายโดเมน (MDTF) สามหน่วย โดยสองหน่วยประจำการอยู่ในแปซิฟิก (มีแผนจะจัดตั้งอีกห้าหน่วย โดยสามหน่วยจะมุ่งเน้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) กองกำลังเหล่านี้เป็น "แกนหลักของการป้องปรามและตอบโต้ความขัดแย้งกับจีนของกองทัพสหรัฐฯ" ในระหว่างการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ-ฟิลิปปินส์ ชิลด์ ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 หน่วยปฏิบัติการพิเศษหลายโดเมนหน่วยแรกของกองทัพบกสหรัฐฯ (MDTF) ได้เดินทางไกลถึง 8,000 ไมล์เพื่อนำระบบขีปนาวุธพิสัยกลางไทฟอนชุดแรกไปประจำการที่เกาะลูซอนในฟิลิปปินส์ หน่วยปฏิบัติการพิเศษหลายโดเมนหน่วยที่สามของกองทัพบกสหรัฐฯ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ฮาวาย จะได้รับระบบขีปนาวุธพิสัยกลางไทฟอนชุดที่สองอย่างเป็นทางการในปีนี้ มีรายงานว่ากองทัพบกสหรัฐฯ วางแผนที่จะนำระบบไทฟอนอีกสามระบบไปประจำการที่ MDTF ระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ถึง พ.ศ. 2571
โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better