กระทั่งเมกัน มี F22 B2 ยังเน้นลูกยาว



https://www.wsj.com/politics/national-security/pentagon-pushes-to-double-missile-production-for-potential-china-conflict-ee153ad3

หัวข้อ: เพนตากอนเร่งเพิ่มการผลิตขีปนาวุธเป็นสองเท่า เพื่อรับมือความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นกับจีน
บทความของ The Wall Street Journal (WSJ) รายงานว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) กำลังผลักดันอย่างเร่งด่วนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตขีปนาวุธและอาวุธสำคัญต่างๆ ขึ้นเป็นสองเท่า โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศจีนในอนาคต ซึ่งสหรัฐฯ มองว่าเป็นภัยคุกคามทางยุทธศาสตร์ในระยะยาว

ประเด็นสำคัญจากบทความมีดังนี้:

* แรงผลักดันจากความขัดแย้งในยูเครนและจีน: สงครามในยูเครนได้แสดงให้เห็นถึงอัตราการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่สูงมากในสงครามสมัยใหม่ ทำให้สหรัฐฯ ตระหนักว่าคลังอาวุธที่มีอยู่อาจไม่เพียงพอสำหรับความขัดแย้งขนาดใหญ่ ขณะเดียวกัน การเสริมสร้างแสนยานุภาพทางทหารอย่างรวดเร็วของจีน โดยเฉพาะในบริเวณช่องแคบไต้หวัน ทำให้เพนตากอนต้องเร่งเสริมคลังอาวุธเพื่อ "ป้องปราม" จีน

* ขีปนาวุธที่อยู่ในเป้าหมาย: สหรัฐฯ มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มการผลิตอาวุธโจมตีระยะไกลที่มีความสำคัญต่อการสู้รบในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เช่น:
   * LRASM (Long-Range Anti-Ship Missile): ขีปนาวุธต่อต้านเรือรบพิสัยไกล
   * JASSM (Joint Air-to-Surface Standoff Missile): ขีปนาวุธร่อนโจมตีจากอากาศสู่พื้นพิสัยไกล
   * SM-6 (Standard Missile-6): ขีปนาวุธอเนกประสงค์ของกองทัพเรือที่สามารถต่อต้านได้ทั้งอากาศยานและขีปนาวุธอื่น

* ความท้าทายในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ: การเพิ่มกำลังการผลิตอย่างรวดเร็วต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ:
   * ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain): การขาดแคลนชิ้นส่วนสำคัญ เช่น มอเตอร์จรวด, ไมโครชิป และวัตถุดิบต่างๆ ซึ่งห่วงโซ่อุปทานเหล่านี้ฝ่อตัวลงหลังสิ้นสุดสงครามเย็น
   * การขาดแคลนแรงงาน: ต้องการแรงงานที่มีทักษะเฉพาะทางเพิ่มขึ้น
   * ความล่าช้าของงบประมาณ: กระบวนการจัดสรรงบประมาณจากรัฐสภาอาจไม่สอดคล้องกับความจำเป็นเร่งด่วน
   * ต้องใช้เวลา: การขยายสายการผลิตและโรงงานต้องใช้เวลาหลายปีจึงจะเห็นผลอย่างเต็มที่


โดยสรุป บทความชี้ให้เห็นว่าเพนตากอนกำลังเปลี่ยนผ่านยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ โดยพยายามฟื้นฟูและขยายฐานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของตนเอง เพื่อเปลี่ยนจากการรับมือกลุ่มก่อการร้ายมาเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันและเผชิญหน้ากับมหาอำนาจอย่างจีน ซึ่งต้องใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ล้ำสมัยและปริมาณมหาศาล.
https://pantip.com/topic/43522492
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ได้ครับ สรุปย่อที่สุดดังนี้:
ประเทศอาเซียนที่มีอาวุธยิงไกลเกิน 200 กม. ได้แก่:
* เวียดนาม: Scud-C (พิสัย ~500 กม.)
* พม่า: Hwasong-6 (~500 กม.) และ SY-400 (~400 กม.)
* มาเลเซีย: ขีปนาวุธร่อน AV-TM 300 (~300 กม.)
* ฟิลิปปินส์: ขีปนาวุธร่อน BrahMos (~290 กม.)
* อินโดนีเซีย: ขีปนาวุธ KHAN (~280 กม.)
(ส่วนไทย, กัมพูชา, ลาว, สิงคโปร์ และบรูไน ยังไม่มีระบบอาวุธใดที่มีพิสัยทำการถึง 200 กม. จากข้อมูลที่เปิดเผย)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่