นิด้าโพลเผย ปชช.มองรบ.เสียงข้างน้อยของ นายกฯอนุทิน จะทำงานยาก เชื่ออยู่ครบ 4 เดือน
.
.
นิด้าโพลเผย ปชช.มองรัฐบาลเสียงข้างน้อยของ นายกฯอนุทิน จะไม่มีเสถียรภาพ ทำงานด้วยความยากลำบาก กว่าครึ่งเชื่อว่า รัฐบาลจะอยู่ครบ 4 เดือนตามข้อตกลง ส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับการที่ ปชน.ไม่เข้าร่วมรัฐบาล
.
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 8-9 กันยายน 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความคิดเห็นของประชาชนต่อรัฐบาลเสียงข้างน้อยภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.05 ที่ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
.
จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อรัฐบาลเสียงข้างน้อยของนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคประชาชน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 35.88 ระบุว่า รัฐบาลจะไม่มีเสถียรภาพทำงานด้วยความยากลำบาก เพราะต้องเจรจากับพรรคประชาชนตลอด รองลงมา ร้อยละ 30.31 ระบุว่า การตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้ ร้อยละ 23.66 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลเสียงข้างน้อย ร้อยละ 23.21 ระบุว่า เห็นด้วยกับรัฐบาลเสียงข้างน้อย ร้อยละ 23.05 ระบุว่า รัฐบาลจะมีเสถียรภาพ ทำงานได้ราบรื่น จากการสนับสนุนของพรรคประชาชน ร้อยละ 21.45 ระบุว่า ในท้ายที่สุด รัฐบาลจะขัดแย้งกับพรรคประชาชน ร้อยละ 10.61 ระบุว่า ในท้ายที่สุด ข้อตกลงระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชน จะถูกฉีก ร้อยละ 10.53 ระบุว่า รัฐบาลอยู่ไประยะหนึ่ง จะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากเอง ร้อยละ 8.17 ระบุว่า คุณอนุทิน ควรรอเป็นนายกฯ ของรัฐบาลเสียงข้างมาก หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า ร้อยละ 5.34 ระบุว่า พรรคประชาชนควรเข้าร่วมรัฐบาลด้วย เพื่อเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ร้อยละ 4.12 ระบุว่า ในท้ายที่สุด พรรคประชาชนจะจับมือกับพรรคเพื่อไทยล้มรัฐบาล และร้อยละ 0.99 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
.
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อระยะเวลาในการบริหารรัฐบาลเสียงข้างน้อยของนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 56.26 ระบุว่า รัฐบาลจะอยู่ครบ 4 เดือนตามข้อตกลง รองลงมา ร้อยละ 27.79 ระบุว่า รัฐบาลจะอยู่ได้นานกว่า 4 เดือน ร้อยละ 14.58 ระบุว่า รัฐบาลจะอยู่ไม่ถึง 4 เดือน และร้อยละ 1.37 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
.
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อการที่พรรคประชาชนสนับสนุนคุณอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 30.38 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย รองลงมา ร้อยละ 23.36 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย ร้อยละ 23.13 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 22.67 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย และร้อยละ 0.46 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
.
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการที่พรรคประชาชนไม่เข้าร่วมรัฐบาล พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 32.98 ระบุว่า เห็นด้วยมาก รองลงมา ร้อยละ 23.35 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 22.52 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย ร้อยละ 19.39 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย และร้อยละ 1.76 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
.
เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 8.55 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 18.70 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคกลาง ร้อยละ 17.79 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.28 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 13.82 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ และร้อยละ 7.86 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออก โดยตัวอย่าง ร้อยละ 47.94 เป็นเพศชาย และร้อยละ 52.06 เป็นเพศหญิง
.
ตัวอย่าง ร้อยละ 12.13 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 17.79 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 17.94 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 26.34 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 25.80 อายุ 60 ปีขึ้นไป โดยตัวอย่าง ร้อยละ 96.18 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 3.13 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.69 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ
.
ตัวอย่าง ร้อยละ 35.95 สถานภาพโสด ร้อยละ 61.91 สมรส และร้อยละ 2.14 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ โดยตัวอย่าง ร้อยละ 0.15 ไม่ได้รับการศึกษา ร้อยละ 15.11 จบการศึกษาประถมศึกษา ร้อยละ 32.67 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 11.84 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 34.43 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 5.80 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี
.
ตัวอย่าง ร้อยละ 11.91 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 17.18 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 23.28 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 10.69 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 13.21 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 19.62 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 4.11 เป็นนักเรียน/นักศึกษา
.
ตัวอย่าง ร้อยละ 18.17 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 4.20 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 5,000 บาท ร้อยละ 13.51 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 5,001-10,000 บาท ร้อยละ 30.76 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 13.05 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 6.03 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 3.36 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001-50,000 บาท ร้อยละ 2.14 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 50,001-60,000 บาท ร้อยละ 0.23 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 60,001-70,000 บาท และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 70,001-80,000 บาท ในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 0.61 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 80,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 7.71 ไม่ระบุรายได้
.
.
โพลชี้ คนไทยอยากเห็น ‘รัฐบาลทำงานเชิงรุก–ฝ่ายค้านตรวจสอบสร้างสรรค์’ แต่ยังไร้ความเชื่อมั่นการเมือง
.
สวนดุสิตโพลเผย คนไทยคาดหวัง “พรรครัฐบาลทำงานเชิงรุก–ฝ่ายค้านตรวจสอบสร้างสรรค์” ชี้ภาพรวมยังขาดความเชื่อมั่น
.
เมื่อวันที่ 14 ก.ย.“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความคาดหวังต่อพรรคการเมืองไทย ณ วันนี้” จากกลุ่มตัวอย่าง 1,232 คน ระหว่างวันที่ 9–12 กันยายน 2568 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการเห็น บทบาทของพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล ที่ทำงานเชิงรุก แก้ปัญหาได้จริง และตรวจสอบได้ (ร้อยละ 75.27) ขณะที่ บทบาทของพรรคฝ่ายค้าน ที่อยากเห็นมากที่สุด คือการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมาและสร้างสรรค์ (ร้อยละ 68.32)
.
สำหรับประเด็นที่ประชาชนต้องการให้พรรคการเมืองปรับปรุงมากที่สุด คือ ความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ (ร้อยละ 64.29) โดยหากมีการเลือกตั้งในวันนี้ พบว่า พรรคประชาชนจะได้คะแนนนำ (ร้อยละ 23.94) รองลงมาคือ พรรคภูมิใจไทย (ร้อยละ 14.20) ขณะที่ประชาชนจำนวนไม่น้อยยังไม่ตัดสินใจ (ร้อยละ 21.35)
.
ดร.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า สิ่งที่ประชาชนเรียกร้องจากพรรคการเมืองไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นมาตรฐานพื้นฐานด้านคุณธรรมและจริยธรรมที่พรรคการเมืองควรยึดถือ ทว่าความจริงที่ประชาชนยังคง “คาดหวัง” แสดงให้เห็นถึง ความเชื่อมั่นที่ลดลงต่อการเมืองไทย ในปัจจุบัน พร้อมชี้ว่าพรรคการเมืองทุกพรรคจำเป็นต้องสร้างผลงานและความน่าเชื่อถือ หากหวังจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชน
.
ด้าน ผศ.ยอดชาย ชุติกาโม ประธานหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิเคราะห์ว่า บรรยากาศการเมืองขณะนี้อยู่ในภาวะสุญญากาศ รัฐมนตรีรักษาการทยอยออกจากทำเนียบฯ ขณะที่คณะรัฐมนตรีชุด “อนุทิน1” ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของสังคม โดยเฉพาะประเด็นบันทึกข้อตกลง (MOA) ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชน ว่าจะร่วมมือทางการเมืองได้จริงหรือไม่
.
ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ยังต้องการเห็น รัฐบาลใหม่ทำงานเชิงรุก โปร่งใส ตรวจสอบได้ และ ฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา ไม่ค้านเพื่อให้สภาล่ม อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลคือ หากมีการยุบสภาในตอนนี้ ประชาชนยังไม่พร้อมสำหรับการเลือกตั้ง เพราะยังไม่มีพรรคใดได้รับคะแนนนิยมเกินร้อยละ 25 แม้พรรคประชาชนจะมีคะแนนนำอยู่ก็ตาม (ร้อยละ 23.94)
.
นักวิชาการจึงเตือนว่า พรรคการเมืองทุกฝ่ายต้องเร่งสร้างผลงานและความเชื่อมั่นจากสาธารณชน หากต้องการชัยชนะในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอีกไม่ถึง 4 เดือนข้างหน้า
.
.
ม็อบหนุน-ต้านผู้อพยพชุมนุมประชันกันในลอนดอน ตำรวจห้ามวุ่น
.
ตำรวจในกรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักรควบคุมการประท้วงต่อต้านผู้อพยพ ซึ่งจัดโดยนักเคลื่อนไหวขวาจัดชื่อดัง ท่ามกลางบรรยากาศวุ่นวายและตึงเครียด เพราะมีการจัดชุมนุมของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยเช่นกัน
.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ว่าสำนักงานตำรวจกรุงลอนดอนออกแถลงการณ์ ว่ามีการจัดกิจกรรมเดินขบวนทางการเมืองครั้งใหญ่ นำโดยนายทอมมี โรบินสัน หนึ่งในนักเคลื่อนไหวฝ่ายขวาจัดชื่อดังของสหราชอาณาจักร ซึ่งมีแนวคิดต่อต้านผู้อพยพ
.
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดการณ์จำนวนผู้เข้าร่วมอยู่ที่ระหว่าง 110,000-150,000 คน ซึ่งมากกว่าที่ฝ่ายจัดงานคาดการณ์เอาไว้อีก อย่างไรก็ตาม มีความรุนแรงเกิดขึ้นระหว่างการจัดกิจกรรม ส่งผลให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 26 นาย และเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ก่อความไม่สงบได้อย่างน้อย 25 ค
.
รายงานของเจ้าหน้าที่ระบุว่า ความรุนแรงปะทุจากการที่กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งพยายามฝ่าแนวของเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้าไปเผชิญหน้ากับการชุมนุต่อต้านการเหยียดผิว ซึ่งมีขนาดเล็กกว่ามาก และมีผู้เข้าร่วมราว 5,000 คนเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ต้องใช้กำลังตำรวจมากกว่า 1,000 นาย เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมสองฝ่ายปะทะกัน.
JJNY : นิด้าโพลเผย รบ.จะทำงานยาก│โพลชี้ยังไร้ความเชื่อมั่นการเมือง│ชุมนุมประชันกันในลอนดอน│เตือน! ฝนตกหนักมากบางพื้นที่
.
.
รายงานของเจ้าหน้าที่ระบุว่า ความรุนแรงปะทุจากการที่กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งพยายามฝ่าแนวของเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้าไปเผชิญหน้ากับการชุมนุต่อต้านการเหยียดผิว ซึ่งมีขนาดเล็กกว่ามาก และมีผู้เข้าร่วมราว 5,000 คนเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ต้องใช้กำลังตำรวจมากกว่า 1,000 นาย เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมสองฝ่ายปะทะกัน.