JJNY : นิด้าโพลเผยปชน.มาแรงอันดับ 1│ปชน.ประณาม แกนนำคณะรวมพลังแผ่นดิน│จตุจักร ร้านค้าโอด│เหนือและอีสานบนยังมีฝนตกหนัก

นิด้าโพล เผยคนหนุน ณัฐพงษ์ นั่งเก้าอี้นายกฯ พรรค ปชน. มาแรงอันดับ 1
.
.
นิด้าโพล เผยคนหนุน ณัฐพงษ์ นั่งเก้าอี้นายกฯ พรรค ปชน. มาแรงอันดับ 1
.
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 2-2568” สำรวจระหว่างวันที่ 19-25 มิถุนายน 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 2,500 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับคะแนนนิยมทางการเมือง การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.05 ที่ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
.
จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 31.48 ระบุว่าเป็น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (พรรคประชาชน) เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ที่กล้าแสดงออก มีแนวคิดที่ชัดเจนและทันสมัย อีกทั้งยังแสดงจุดยืนทางการเมืองอย่างตรงไปตรงมา อันดับ 2 ร้อยละ 19.88 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 3 ร้อยละ 12.72 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเป็นบุคคลที่พูดจริงทำจริง ตรงไปตรงมา มีความซื่อสัตย์สุจริต ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ
.
อันดับ 4 ร้อยละ 9.64 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะมีความกล้าตัดสินใจ และมีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ อันดับ 5 ร้อยละ 9.20 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊ง) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะมีความตั้งใจในการทำงาน แม้จะมีข้อจำกัดด้านประสบการณ์ และต้องการเปิดโอกาสให้ได้แสดงศักยภาพในการบริหารประเทศ อันดับ 6 ร้อยละ 6.48 ระบุว่าเป็น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ) เพราะเป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ มีความเด็ดขาดในการตัดสินใจ และมีประสบการณ์ทางด้านกฎหมาย
.
อันดับ 7 ร้อยละ 6.12 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะเป็นบุคคลที่มีจุดยืนชัดเจน มีประสบการณ์จากการทำงานในรัฐบาลหลายชุด และทำงานอย่างตรงไปตรงมา อันดับ 8 ร้อยละ 1.48 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) เพราะเป็นบุคคลที่มีความเด็ดขาด มีความน่าเชื่อถือ สามารถบริหารจัดการปัญหาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
ร้อยละ 2.92 ระบุอื่นๆ ได้แก่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน (พรรคประชาธิปัตย์) นายวราวุธ ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง (พรรคประชาชาติ) นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนา) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) นายชัยเกษม นิติสิริ (พรรคเพื่อไทย) นายชวน หลีกภัย (พรรคประชาธิปัตย์) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พรรคประชาธิปัตย์) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ (พรรคกล้าธรรม) และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) และร้อยละ 0.08 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
.
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 46.08 ระบุว่าเป็น พรรคประชาชน อันดับ 2 ร้อยละ 13.24 ระบุว่าเป็น พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 3 ร้อยละ 11.52 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 4 ร้อยละ 9.76 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย อันดับ 5 ร้อยละ 7.72 ระบุว่า ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 6 ร้อยละ 4.20 ระบุว่าเป็น พรรคไทยสร้างไทย อับดับ 7 ร้อยละ 2.88 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ อับดับ 8 ร้อยละ 2.68 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 1.76 ระบุอื่นๆ ได้แก่ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคประชาชาติ พรรคชาติพัฒนา พรรคกล้าธรรม พรรคเสรีรวมไทย พรรคไทยภักดี และพรรคเพื่อไทยรวมพลัง และร้อยละ 0.16 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
.
เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 8.52 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 18.68 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคกลาง ร้อยละ 17.80 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.28 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 13.84 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ และร้อยละ 7.88 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออก โดยตัวอย่าง ร้อยละ 47.96 เป็นเพศชาย และร้อยละ 52.04 เป็นเพศหญิง

ตัวอย่างร้อยละ 12.16 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 17.80 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 17.96 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 26.36 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 25.72 อายุ 60 ปีขึ้นไป โดยตัวอย่าง ร้อยละ 95.96 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 3.32นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.72 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ
ตัวอย่างร้อยละ 35.96 สถานภาพโสด ร้อยละ 61.96 สมรส และร้อยละ 2.08 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ โดยตัวอย่าง ร้อยละ 0.32 ไม่ได้รับการศึกษา ร้อยละ 17.92 จบการศึกษาประถมศึกษา ร้อยละ 34.04 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 9.80 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 32.76 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 5.16 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี
.
ตัวอย่างร้อยละ 9.92 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 18.76 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 21.72 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 11.16 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 14.64 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 18.72 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 5.08 เป็นนักเรียน/นักศึกษา
.
ตัวอย่างร้อยละ 18.80 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 3.24 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 5,000 บาท ร้อยละ 14.04 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 5,001-10,000 บาท ร้อยละ 31.48 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 12.20 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 6.24 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 3.28 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001-50,000 บาท ร้อยละ 1.20 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 50,001-60,000 บาท ร้อยละ 0.48 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 60,001-70,000 บาท ร้อยละ 0.32 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 70,001-80,000 บาท ร้อยละ 0.36 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 80,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 8.36 ไม่ระบุรายได้
.

.
พรรคประชาชน ประณาม แกนนำคณะรวมพลังแผ่นดิน ปลุกปั่นชาตินิยม เจตนาปูทางรปห.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5252115
.
พรรคประชาชน ประณาม แกนนำคณะรวมพลังแผ่นดินบางคน ปราศรัยปลุกปั่นชาตินิยม เจตนาปูทางรปห. ย้ำทางออกจากวิกฤตการเมือง คือยุบสภา เปิดทางเลือกตั้งใหม่ 
.
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2568 พรรคประชาชน โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเห็นต่อภายหลังการชุมนุมของคณะรวมพลังแผ่นดินว่า การชุมนุมที่นำโดย “คณะรวมพลังแผ่นดิน” เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมานี้ ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แม้จะมีข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการให้นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ลาออก และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องตามปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่ปรากฏว่า การปราศรัยของแกนนำบนเวทีบางคนกลับมีเนื้อหาที่เปิดทางให้กับการรัฐประหาร รวมถึงมีการปลุกปั่นกระแสชาตินิยมที่เกินเลยขอบเขต
.
พรรคประชาชนขอประณามการสร้างความชอบธรรมให้กับการรัฐประหาร ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง
.
พรรคประชาชนขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนที่สนับสนุนการชุมนุมด้วยความไม่พอใจต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ถอนตัวจากการสนับสนุนคณะรวมพลังแผ่นดินที่มีแกนนำบางคนมีเจตนาสนับสนุนการรัฐประหารและการแทรกแซงการเมืองด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย เพราะแม้ว่าการแสดงออกทางการเมืองด้วยการชุมนุมประท้วงจะเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่พวกเราคนไทยต่างได้รับบทเรียนอย่างดีแล้วว่า 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศชาติและประชาชนบอบช้ำเสียหายอย่างไม่อาจประเมินได้จากการรัฐประหาร 2 ครั้ง และปัญหาการเมืองของเราไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย ผลพวงจากการรัฐประหารกลับซ้ำเติมปัญหาการใช้อำนาจอย่างฉ้อฉล การคอรัปชั่น กระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยว และการเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องและกลุ่มทุนผูกขาดเสียด้วยซ้ำ
.
วันนี้เราต้องไม่ยินยอมให้ใครฉวยโอกาสเอาความผิดพลาดล้มเหลวของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล มาเปิดทางให้กับการรัฐประหารหรือการแก้ปัญหาการเมืองด้วยวิถีทางที่ขัดต่อประชาธิปไตยอีก ซึ่งมีแต่จะก่อวิกฤตซ้ำซ้อนทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น
.
พรรคประชาชนขอยืนยันว่า ทางออกจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ที่ดีที่สุด คือหนทางปกติตามระบบรัฐสภา นั่นคือการยุบสภา เลือกตั้งใหม่ คืนอำนาจให้แก่ประชาชน เพื่อให้อำนาจสูงสุดของประเทศเป็นผู้กำหนดอนาคตของบ้านเมืองด้วยตนเองว่าต้องการผู้นำและรัฐบาลใหม่แบบไหน.
.

.
ตลาดนัดจตุจักร มีแต่คนเดินไม่มีคนซื้อ ร้านค้าโอด จีนหาย ยอดขายวูบ 50%
.
ตลาดนัดจตุจักร มีแต่คนเดินไม่มีคนซื้อ ร้านค้าโอด จีนหาย ยอดขายวูบ 50%
.
ตลาดนัดจตุจักร สำรวจตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก สวรรค์ของนักช้อปของชาวไทยและต่างชาติ ท่ามกลางเศรษฐกิจ กำลังซื้อซึม และนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดน้อยถอยลงเรื่อยๆ
.
บรรยากาศโดยรวมยังคงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเดินเล่น กิน ช้อป หนาตา ไม่ว่าชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอินเดียและเวียดนาม รวมถึงยุโรปที่ดูคึกคัก ขณะที่ชาวจีนยังค่อนข้างบางตา
.
จากการสอบถามพ่อค้า-แม่ขาย ต่างบอกไปในทิศทางเดียวกันว่า “คนจีนน้อยลง แต่มีอินเดียกับเวียดนามมามากขึ้น แต่ส่วนใหญ่มาเดินเล่น มากิน มากกว่าจะซื้อของ
.
นางเสาวลักษณ์(นามสมมุติ) เจ้าของร้านขายสินค้าแฮนเมด กล่าวว่า การค้าขายปีนี้ไม่ค่อยดีเหมือนเมื่อก่อน ยิ่งนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งถือว่าเป็นลูกค้ารายใหญ่หายไป ส่งผลกระทบต่อยอดขายของร้านหายไปด้วยมากกว่า 50% ยิ่งช่วงเดือนเมษายนหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวเป็นต้นมา ยอดขายยิ่งตกมากขึ้น แม้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรปเข้ามา แต่ยอดสั่งซื้อน้อยกว่าชาวจีน
.
“ตอนนี้บรรยากาศในตลาดนัดจตุจักรก็เปลี่ยนไป มีร้านสินค้าใหม่ๆเข้ามามากขึ้น เช่น ร้านขายของฝาก ที่ลูกค้าต่างชาตินิยม เช่น ยาหม่อง ยาดม เป็นต้น ขณะที่ค่าเช่าก็ยังถือว่าสูง ล็อกหนึ่งจะเริ่มต้นเดือนละ 6,000 บาท ไปถึงหลัก 10,000 บาท ขึ้นอยู่กับทำเลว่าอยู่ด้านในหรือด้านนอก”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่