KEY POINTS
ธปท. นัดประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหาการอายัดบัญชีที่เชื่อมโยงกับบัญชีม้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้สุจริต
ประชาชนผู้สุจริตที่ได้รับผลกระทบ สามารถติดต่อศูนย์ AOC 1441 ต่อ 2 เพื่อขอยกเลิกการอายัดบัญชีได้
จากประเด็นที่มีการพูดถึงอย่างแพร่หลายบนโลกออนไลน์ เรื่องการถูก "อายัดบัญชี" ต้องสงสัยกระทำผิด หรือเอี่ยวบัญชีม้า ส่งผลกระทบต่อประชาชน และขั้นตอนในการปลดอายัดยังล่าช้า ทำให้ประชาชนได้มีการถอนเงินสดออกจากบัญชี เพื่อป้องกันการเกิดเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ ล่าสุด นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงว่า จากกรณีที่มีข่าวการอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้านั้น บัญชีที่ได้รับผลกระทบจะเป็นบัญชีที่อยู่ในเส้นทางเงินที่รับโอนจากบัญชีม้าเท่านั้น
ซึ่งที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) และธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) ได้ยกระดับการจัดการบัญชีม้า โดยขยายขอบเขตการติดตามเส้นทางเงินให้กว้างขึ้น เพื่อกักเงินที่โยงกับบัญชีม้ามาคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด จึงทำให้การระงับบัญชีที่เกี่ยวข้องอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมากขึ้น
“จากความกังวลที่เกิดขึ้น ธปท. ได้หารือกับ ศอปท. และ ธพ. แล้ว และเห็นชอบร่วมกันเบื้องต้นว่าจะเร่งปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต โดยจะมีการหารือร่วมกันวันที่ 14 ก.ย.68 และจะเริ่มดำเนินการได้ทันที”
สำหรับประชาชนสุจริตที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา ท่านสามารถติดต่อยกเลิกการระงับ โดยติดต่อไปยังศูนย์ AOC 1441 ต่อ 2 ได้
เพิ่มเติม หลังประชุมวันนี้
‘ปลัดดีอี’ แจงหลังประชุมด่วน ปม ‘อายัดบัญชี’
วันที่ 14 ก.ย.68 ภายหลังจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือ DE ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสมาคมธนาคารแห่งประเทศไทย , ตัวแทนสถาบันการเงิน , ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือตำรวจไซเบอร์ , สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ฯลฯ เพื่อระดมรับฟังความคิดเห็นแก้ไขปัญหาการอายัดบัญชีบุคคลทั่วไป ที่เชื่อว่าพัวพันกับบัญชีม้านานกว่า 3 ชั่วโมง
เวลา 12.00 น. ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า เนื่องจากตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 และแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2568 กำหนดมาตรการให้ติดตามนำเงินกลับคืนสู่ผู้เสียหาย
ดังนั้น กลไกที่ปรากฏตามกฎหมายนี้ ขอชี้แจงว่า ไม่ใช่เป็นการอายัดบัญชีธนาคารตามที่เข้าใจกัน การอายัดบัญชีธนาคารได้นั้น จะต้องออกหมายโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนแล้วพบว่าบัญชีธนาคารดังกล่าวเข้าข่ายเป็นบัญชีม้าจริง ๆ
แต่กลไกที่ดำเนินการโดยศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ศปอท. ซึ่งทำงานร่วมกับตัวแทนของธนาคาร ตำรวจไซเบอร์ และ ปปง. ดำเนินการ และเป็นประเด็นในวันนี้ คือ ‘การระงับธุรกรรมทางการเงิน’ ที่ถูกโอนจากเส้นเงินของบัญชีม้า
กล่าวคือ เมื่อ ‘บัญชีม้า’ โอนเงินต่อไปที่ ‘บัญชีธนาคาร’ ของใคร เมื่อทางธนาคารสืบพบเจอ ก็จะใช้อำนาจตามกฎหมายนี้ในการระงับ ‘จำนวนเงิน’ ดังกล่าวชั่วคราว เพื่อดำเนินการตรวจสอบว่าเป็นเงินของผู้เสียหายหรือไม่ ก่อนจะดำเนินการดึงจำนวนเงินดังกล่าว ชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหายได้ต่อไป
ทั้งนี้ เกิดปัญหาก็คือ บางบัญชีธนาคารของผู้รับนั้น เป็นบัญชีผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง รับเงินมาโดยสุจริต และบางรายที่มีจำนวนเงินในบัญชีที่น้อยกว่าเงินที่รับมา เมื่อเกิดการระงับเงินที่ได้รับจากบัญชีม้า เลยเกิดปัญหาบัญชีธนาคารนั้นติดลบ หรือไม่สามารถใช้การได้ชั่วคราว
อีกทั้งยังเกิดปัญหาว่า บางโมบายแบงค์กิ้งกลับไปขึ้นข้อความว่าบัญชีธนาคารถูกอายัด ซึ่งการอายัดได้ จะต้องมีหมายจากตำรวจเท่านั้น ซึ่งถือเป็นคนละบทบาทกันกับของ ศปอท.
จึงขอชี้แจงว่า บัญชีธนาคารของผู้ถูกระงับเงินธุรกรรมยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยเฉพาะการรับโอนเงินใดๆ เพียงแต่จะไม่สามารถใช้วงเงินที่ได้รับ เพราะถูกระงับเอาไว้ชั่วคราว ซึ่งกลไกการระงับจำนวนเงินจากบัญชีม้านี้ ใช้มาหลายปีแล้ว
ยกตัวอย่างเช่น หากมีเงินในบัญชีธนาคารอยู่ 100 บาท แต่ก่อนหน้านี้เคยได้รับเงินมา 200 บาท แล้วต้องสงสัยเมื่อเงินจำนวนดังกล่าวอาจจะเป็นเงินบัญชีม้า ทาง ศปอท. ก็จะระงับเงินจำนวน 200 บาทไป แต่จะส่งผลทำให้บัญชีธนาคารติดลบจนไม่สามารถใช้เงินได้ แต่บัญชีธนาคารนั้นก็ยังสามารถรับโอนเงินได้ตามปกติ
การหารือในวันนี้ ได้พูดคุยในส่วนของการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการรับเงินนั้นโดยสุจริตอย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกจากจะให้เจ้าของบัญชีธนาคารที่ได้รับผลกระทบ ไปแสดงตัวกับธนาคารของตนเองแล้ว ทาง ศปอท. ก็จะเปิดช่องทางสายด่วน 1441 เพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบโทรแจ้งเข้ามาขอปลดล็อคการระงับได้
อย่างไรก็ตาม เราจะต้องแยกระหว่างผู้ที่ได้รับผลกระทบจริงๆ กับบัญชีม้าหรือผู้กระทำความผิด ที่แฝงตัวมาเพื่อขอให้ปลดล็อค เพราะที่ผ่านมา ก็มีคนที่เป็นบัญชีม้าจริงๆ ติดต่อมาให้เราปลดล็อคอยู่หลายเคส
ดังนั้น ทาง ศปอท. จึงต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบบัญชีธนาคารของบุคคลที่ติดต่อเข้ามาขอให้ปลดล็อคการระงับธุรกรรม ซึ่งเราได้มีตัวแทนของธนาคารและตำรวจไซเบอร์มาร่วมกันตรวจสอบในลักษณะของการทำงานร่วมกัน
โดยประเด็นที่ต้องดูคือ เงินที่เข้าในบัญชีของผู้ที่แจ้งเป็นเงินลักษณะอะไร รูปแบบธุรกรรมทางการเงินปกติหรือไม่ และจำนวนวงเงินเหมาะสมกับการใช้ชีวิตประจำวันหรือไม่ รวมทั้งต้องตรวจสอบว่า ผู้ที่ขอให้ปลดล็อคนั้นมีหมายจากเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือประวัติอาชญากรรมหรือไม่
เมื่อตรวจสอบรายละเอียดครบถ้วนว่าได้รับมาโดยสุจริต ทาง ศปอท. ก็จะมีคำสั่งปลดล็อคจำนวนเงินดังกล่าวชั่วคราว เพื่อให้ผู้ที่ร้องเรียนสามารถนำเงินดังกล่าวไปใช้ได้ตามปกติและเพื่อเป็นการแยกกลุ่มผู้ไม่หวังดีแฝงออกไป โดนยืนยันว่ากระบวนการตรวจสอบจะใช้ระยะเวลาไม่นาน เพราะเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์อยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มทยอยเคลียร์ปลดล็อคไปแล้วและในเวลาไม่นานก็จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้จบสิ้น
อย่างไรก็ตามก็ยอมรับว่า มีบางเคสที่อาจจะเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมหรือพวกบัญชีม้าตัวจริง เราไม่สามารถจะปลดล็อคได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้เสียหาย แต่ทางเรายืนยันว่าจะเร่งทำงานตรวจสอบเพื่อแยกผู้บริสุทธิ์ที่ถูกระงับเงินออกมาและปลดล็อคให้สามารถใช้เงินได้อย่างสุจริต
สำหรับในวันนี้นั้น มีผู้โทรศัพท์สายด่วน 1441 ติดต่อขอให้ปลดล็อคแล้วอย่างน้อย 600-700 สาย ซึ่งทางเราจะทยอยดำเนินการตรวจสอบและแยกระหว่างผู้บริสุทธิ์สุจริตกับบัญชีม้าตัวจริง ก่อนดำเนินการปลดล็อคต่อไป แต่ยอมรับว่าตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาเกิดปัญหาที่หลายคน ไม่สามารถติดต่อเบอร์ 1441 ได้เพราะสายเต็ม ซึ่งทางเรากำลังเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ด้วยการเพิ่มคู่สายให้มากขึ้น
ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ ยืนยันว่า การระงับธุรกรรมต้องสงสัยนั้นไม่ได้สูงขึ้นด้วยซ้ำ แต่ในช่วงที่ผ่านมาถือว่าลดลง และเน้นย้ำว่า นี่ไม่ใช่เป็นการเพิ่งมาเปลี่ยนวิธีการ แต่เป็นกลไกมาตรการเร่งเยียวยาผู้เสียหายตามกฎหมายที่มีมานานแล้ว ซึ่งเราจะต้องตัดผู้ที่สุจริตไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกไปให้รวดเร็วที่สุด โดยในอนาคตจะต้องหารือและวางมาตรการเพื่อทำให้เกิดความสมดุลระหว่างการแยกบัญชีของผู้ที่บริสุทธิ์สุจริตและบัญชีม้าตัวจริง
พร้อมฝากเตือนว่า กลไกการขอปลดล็อคธุรกรรมต้องสงสัยของบัญชีธนาคารผู้บริสุทธิ์นั้น ทางธนาคารจะเป็นผู้ดำเนินการติดต่อแจ้งเอง จะไม่มีโทรศัพท์จาก ศปอท. หรือศูนย์ AOC ติดต่อไปยังผู้บริสุทธิ์โดยตรง เพื่อป้องกันไม่ให้เข้าใจผิดหลงเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
พร้อมกับเน้นย้ำว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นเพียงแค่กลไกการระงับธุรกรรมทางการเงินที่ต้องสงสัยชั่วคราวของ ศปอท. เท่านั้น โดยจะระงับแค่จำนวนเงินที่ได้รับมาเท่านั้น ไม่ใช่ระงับเงินทั้งบัญชีทั้งหมด เพียงแต่ใครที่มีเงินในบัญชีธนาคารน้อย ก็จะถูกอายัดจนใช้เงินไม่ได้ชั่วคราว เป็นคนละส่วนกับกลไกการอายัดบัญชี ซึ่งจะต้องดำเนินการโดยการสอบสวนตำรวจและใช้อำนาจตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา รวมทั้งการตรวจสอบโดย ปปง. ผ่านการออกหมาย hr03 เพื่ออายัดบัญชีธนาคารต้องสงสัย
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จากกรณีที่สังคมตั้งคำถามว่ามาตรการดังกล่าวเหมือนเป็นปลายทางและเป็นการผลักภาระให้ประชาชน แทนที่ทางธนาคารจะดำเนินมาตรการตั้งแต่ต้นน้ำด้วยการป้องกันการเปิดบัญชีม้า ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ กล่าวว่า เราพัฒนากลไกดังกล่าวควบคู่กันไปอยู่แล้ว ไม่ใช่ทำเพียงแค่ปลายทางอย่างเดียว โดยเฉพาะการเพิ่มความเข้มงวดในการเปิดบัญชีธนาคาร รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับ ปปง. ซึ่งได้เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลที่เป็นบัญชีม้าและออกหมาย hr03 เพื่อห้ามบุคคลดังกล่าวเปิดบัญชีธนาคารอื่น ๆ อีก โดยทาง ปปง. มีประกาศทุกเดือนอยู่แล้ว ทั้งนี้ ตัวเลขจำนวนบัญชีม้าถือว่าลดลงและอยู่ในระดับที่ควบคุมได้
Cr. FB สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
ธปท.นัดถกวันนี้ แก้ปมอายัดบัญชีม้า กระทบประชาชนสุจริต
ธปท. นัดประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหาการอายัดบัญชีที่เชื่อมโยงกับบัญชีม้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้สุจริต
ประชาชนผู้สุจริตที่ได้รับผลกระทบ สามารถติดต่อศูนย์ AOC 1441 ต่อ 2 เพื่อขอยกเลิกการอายัดบัญชีได้