ตายแล้ววว​ก็​เอาอะไร​ไป​ไม่ได้​

กระทู้คำถาม
"ความมีอัตภาพนี่ มันเป็นทรัพย์ภายนอก
เงิน-ทอง แก้วแหวน บ้านช่องเรือนชานต่าง ๆ
ที่หามาได้ ก็เป็นทรัพย์ภายนอก
ติดตามเราไปไม่ได้ดอก เมื่อตายแล้วก็ทิ้งไว้
กายอันนี้เมื่อตายแล้ว...
ก็นอนทับถมแผ่นดินอยู่ ไม่มี ผู้ใดเก็บกระดูก
ก็กระจายไป
กระดูกหัว ก็ไปอยู่ที่อื่น
กระดูกแขน ก็ไปอยู่ที่อื่น
กระดูกขา ก็ไปอยู่ที่อื่น
กระดูกสันหลัง ก็ไปอยู่ที่อื่น
กระจายไป เท่านั้นแหละ...

เรามันกลัวตัณหาหลาย มันเชื่อตัณหาหลาย คนหนึ่ง ๆ มันมีสองศาสนา
ศาสนาหนึ่ง มันตัณหาสั่งสอน
ศาสนาหนึ่ง เป็นศาสนาของพระพุทธเจ้า
เรามันยึดถือตัณหานี่ ชอบกันนัก หมอนี่!!
มันก็บังคับเอา  เราก็ยึดถือหมอนี่!
มันสอนให้เราเอา ให้ตีเอา ลักเอา ฉกชิง
วิ่งราวเอา มันสอนอย่างนี้...ตัณหาน่ะ

พระพุทธเจ้าว่า...
ให้ทำมาหากินโดยชอบธรรม ให้เป็นศีล
เป็นธรรม อย่าเบียดเบียนกัน มันไม่อยากฟัง  มันเกลียด ตัณหานี่!
มันกลัวพระยามัจจุราช พระยามารก็ผู้ช่วยมัน
มันไม่อยากให้เราไปฟังอื่น
ให้ฟังมัน  มันผูกใจเราไว้ ครั้น...จะไปดำเนิน
ตามทางของพระพุทธเจ้า มันไม่พอใจ
พอจะรับศีล  รับทำไม? มันว่า อย่า...ไปรับมัน
อย่า...ไปทำมัน นี่! มันก็ถูกใจมันเท่านั้นแหละ
มันสอนนะ มันชอบอย่างนั้น...

ส่วนธรรมะของพระพุทธเจ้า
ครั้นอุตส่าห์ทำไป ปฏิบัติดีแล้ว...เราก็มีสุคติ
โลกสวรรค์เป็นที่ไป ทำความเพียรภาวนา
หนัก ๆ เข้า ก็ได้บรรลุพระนิพพาน กำจัดทุกข์ อันนี้ ไม่อยากไป ไม่อยากฟัง ไม่เอา ไม่ชอบ
เพราะฉะนั้น ต้องระวังตัณหา กิเลส
ที่มันชักจูงใจเรา ไม่ให้ทำความดี อย่าไปเชื่อ
มัน

พยายาม...
ฝึกหัดขัดเกลาจิตใจ ให้อยู่...ในศีล ในธรรม
พระพุทธเจ้าว่า...
ให้เป็นผู้หมั่นขยันในทางที่ชอบ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น แม่นในหน้าที่ของตน  เป็นความบริสุทธิ์ ผู้ขยันหมั่นเพียรนั่นแหละ...
จะเป็นเจ้าของทรัพย์ เป็นผู้มั่งคั่งสมบูรณ์

มิใช่ว่า จะรักษาศีลภาวนาแล้วเฮ็ดหยังบ่ได้ มันบ่แม่น นั่น! มันความเห็นผิดไป
พระพุทธเจ้าว่า...ให้ขยันหมั่นเพียร
อะไรที่ชอบธรรม ก็ทำได้
กลางคืนจนแจ้ง ก็ทำไป
กลางวัน ก็ทำได้หมดตลอดวัน
ทำไร่  ทำสวน  ทำนา ให้ทำสุจริต
ไม่เบียดเบียนใคร เท่านั้น."

------------------------------------------------------------------
หลวงปู่ขาว อนาลโย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่