🐟🌶️ ไปสอยปลาบึกยักษ์จากตลาดนัดข้างทางมาทำ "แกงป่าปลาบึกใส่ถั่วพลู" บอกเลยว่า จัดจ้านรสเด็ด เผ็ดร้อนค่ะ 😁😋

เมนูวันนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากตลาดนัดริมทาง ที่อ.ลานสัก อุทัยธานีค่ะ



ช่วงนี้น้ำกำลังเยอะ ปลาก็เลยชุมเป็นพิเศษ คุณสามีนึกอยากทานเมนูปลา เลยขับรถเล่นไปเดินตลาดนัด หาซื้อปลาสดๆจากเขื่อนสักนิด

ตลาดนัดที่นี่มักจะมีปลาสดๆจากเขื่อนระบำ มาขายเสมอ ยิ่งช่วงนี้ ก็จะมีพวกเห็ดโคน เห็ดไค มาขายบ้างประปราย









จขก.ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปตลาดเพราะฝนกำลังจะตก เลยมุ่งหน้าเดินหาพ่อค้าปลาก่อนค่ะ
และแล้วก็ไม่ผิดหวัง เจอปลาบึก ตัวใหญ่มาก! เห็นแล้วต้องรีบซื้อเลยค่ะ เพราะไม่ใช่ว่าจะหาเจอได้ง่ายๆ




กลับถึงบ้าน คุณสามีก็จัดการแล่เนื้อปลา ล้างทำความสะอาด






นอกจากปลาบึกก็ได้ปลานิลสดๆ จากเขื่อนระบำ ในราคากิโลละ 50 บาท ถูกมากมาย





รวมถึงปลากดตัวกำลังน่าทาน
ในกะละมังนี้ คือราคา 50 บาท
ถูกจนตกใจ ราคาแบบนี้เห็นอะไร ก็อยากซื้อไปหมดเลยค่ะ




ทำปลาเสร็จแล้วใส่ถุงให้พอในแต่ละมื้อ ที่เหลือก็ใส่ฟรีซไว้ กินได้อีกหลายมื้อ



แกงปลาบึกนี่ จะมีความพิเศษไม่เหมือนใครเลยค่ะ เพราะเนื้อปลาจะมีความนุ่ม หนังเด้งๆ และมันในตัว ทำให้แกงป่ามีรสชาติเข้มข้นจัดจ้าน และอร่อยเป็นพิเศษ ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ

ส่วนผสม

1.ปลาบึก ล้างให้สะอาด  (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)





2.พริกแกงป่า

3.น้ำปลา

4.น้ำตาล

5.น้ำมันพืช สำหรับผัดเล็กน้อย

6.น้ำเปล่า

7.พริกไทยอ่อน

8.มะเขือพวง

9. ถั่วพู หั่นหยาบ

10.พริกขี้หนู บุบพอแตก

11.ใบกะเพรา




วิธีทำ

1.เริ่มจากล้างชิ้นปลาบึกให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ ส่วนผักต่างๆ เช่น มะเขือพวง ถั่วพลู พริกไทยอ่อน และใบกะเพรา ให้ล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อยเช่นกัน




2.ผัดพริกแกง: ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันเล็กน้อย จากนั้นใส่พริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนหอม ขั้นตอนนี้ถ้าชอบรสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้น สามารถใส่กระชายซอย และพริกขี้หนูสวนบุบลงไปผัดพร้อมกันได้เลยค่ะ (แต่จขกท.ลืมซื้อกระชาย ไม่ต้องใส่ 555+)



3.ปรุงรส: เมื่อพริกแกงเริ่มหอมแล้ว ให้ใส่น้ำเปล่าหรือน้ำซุปลงไป คนให้พริกแกงละลายเข้ากันดี ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลเล็กน้อย เพื่อตัดรส คนให้ส่วนผสมเข้ากันและชิมรสตามชอบ



4.ใส่ปลา: พอน้ำแกงเดือดพล่านแล้ว ให้ใส่ชิ้นปลาบึกลงไป ห้ามคน เด็ดขาดในขั้นตอนนี้ เพื่อไม่ให้เนื้อปลาแตกและมีกลิ่นคาว รอให้น้ำแกงเดือดอีกครั้งและเนื้อปลาสุก (สังเกตจากเนื้อปลาจะเริ่มเปลี่ยนสี)






5.ใส่ผัก: เมื่อปลาสุกดีแล้ว ให้ใส่ผักที่สุกยากลงไปก่อน เช่น มะเขือพวง และพริกไทยอ่อน รอให้ผักเริ่มนิ่มเล็กน้อย ใส่ถั่วพูลงไป



6.เพิ่มความหอม: ปิดท้ายด้วยการใส่ใบกะเพราลงไป คนให้เข้ากันแล้วปิดไฟทันที



พร้อมเสิร์ฟ: ตักแกงป่าปลาบึกใส่ชาม เสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆ รับรองว่าอร่อยจนหยุดไม่ได้เลยค่ะ




📍เคล็ดลับเพิ่มความอร่อยให้กับแกงป่าปลาบึก

การเลือกปลา: ควรเลือกปลาบึกที่สดใหม่ เนื้อจะแน่นและไม่มีกลิ่นคาว สังเกตจากเหงือกต้องเป็นสีแดงสดและตาใส การทำอาหารจากวัตถุดิบที่สดใหม่จะทำให้รสชาติโดยรวมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

การหั่นปลา: ควรหั่นชิ้นปลาให้มีขนาดพอเหมาะ ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป ชิ้นปลาที่พอดีคำจะช่วยให้สุกง่ายและทั่วถึง แต่ถ้าเล็กไปเนื้อปลาอาจจะเละได้

ผัดพริกแกง: ขั้นตอนการผัดพริกแกงสำคัญมาก ให้ผัดจนหอมและแตกมันเล็กน้อย จะช่วยให้แกงมีกลิ่นหอมและรสชาติที่เข้มข้นยิ่งขึ้น

เพิ่มความหอมด้วยสมุนไพร: หากคุณมี กระชาย สด ให้บุบพอแตกแล้วใส่ลงไปผัดพร้อมพริกแกง จะช่วยดับกลิ่นคาวและเพิ่มความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของแกงป่าได้ดีเยี่ยม

ใส่น้ำทีละน้อย: ค่อยๆ เติมน้ำทีละนิดขณะผัดพริกแกง จะช่วยให้พริกแกงละลายเข้ากับน้ำมันได้ดีและไม่จับตัวเป็นก้อน

เคล็ดลับปลาไม่คาวและไม่เละ:

⛔อย่าคนปลา: เมื่อใส่ชิ้นปลาลงไปในหม้อแกงแล้ว ห้ามคน เด็ดขาด! ให้รอจนน้ำแกงเดือดพล่านและเนื้อปลาสุกเอง การคนจะทำให้เนื้อปลาแตกและคาว

ใส่ปลาตอนน้ำเดือดจัด: ควรใส่ชิ้นปลาลงไปในน้ำแกงที่กำลังเดือดพล่าน เพื่อให้ผิวปลาสุกทันทีและคงสภาพไม่เละ

ผักที่ใช้: นอกจากผักในสูตรแล้ว คุณสามารถใส่ผักอื่นๆ ที่ชอบได้ เช่น มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว หรือหน่อไม้ก็ได้เช่นกัน

ถ้าลองทำตามเคล็ดลับเหล่านี้ รับรองว่าแกงป่าปลาบึกของคุณจะอร่อยเด็ดจนคนในบ้านติดใจแน่นอนค่ะ!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่