เมื่อคืนนี้ Apple เพิ่งจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่รอบใหญ่ ✨
ประกอบด้วย
- iPhone 17 (เริ่มต้น 29,900 บาท)
- iPhone 17 Pro (เริ่มต้น 43,900 บาท)
- iPhone Air (เริ่มต้น 39,900 บาท – ไฮไลต์ใหม่ของงาน)
- Apple Watch Series 11
- AirPods Pro 3
เรียกได้ว่าเปิดตัวครบทุกไลน์ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ... หลังงานจบ ราคาหุ้น Apple กลับปรับตัวลงทันที ❗
❓ สาเหตุที่หุ้น Apple มักจะ "ลง" หลังเปิดตัวสินค้าใหม่
1. ข่าวดีสะท้อนในราคาไปแล้ว (Buy the rumor, Sell the news)
- นักลงทุนส่วนใหญ่วิเคราะห์กันไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะมีการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ → ราคาหุ้นมักขึ้นมาก่อนงาน แต่พอเปิดจริง ไม่ได้มี "เซอร์ไพรส์" จึงขายทำกำไรออกมา
2. ความคาดหวังสูงเกินไป
- หลายคนรอดูว่า Apple จะมีนวัตกรรมใหม่ ๆ แบบ "ว้าว" หรือเปล่า แต่รอบนี้แม้มี iPhone Air ที่บางและเบาลง แต่โดยรวมยังถือว่าเป็น "อัปเกรดตามรอบ" นักลงทุนบางส่วนมองว่าไม่แรงพอจะดันยอดขาย
3. ราคาสูงกว่าที่คาด
- iPhone 17 Pro เปิดมาที่ 43,900 บาท ถือว่าสูงขึ้นต่อเนื่อง และ iPhone Air ก็แทบไม่ต่างกับ Pro มากนักในแง่ราคา → ทำให้ตลาดกังวลว่ากำลังซื้ออาจไม่แรง
4. กังวลกำไร-ยอดขายในอนาคต
- ปกติ Apple ทำรายได้จาก iPhone มากกว่า 50% ของทั้งบริษัท ถ้า iPhone รุ่นใหม่ขายไม่ปัง → ตลาดก็กังวลกำไรไตรมาสถัดไป
5. ภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯ
- บางครั้งไม่ใช่แค่ Apple เอง แต่ตลาด Nasdaq / หุ้นกลุ่ม Tech โดยรวมอาจอยู่ในช่วงพักตัว ทำให้ราคาลงตามแรงขายทั่วตลาด
📊 สรุป
+ จริง ๆ แล้วไม่ใช่ครั้งแรกที่หุ้น Apple ร่วงหลังงานเปิดตัว iPhone — ถือเป็น "แพทเทิร์น" ที่เกิดขึ้นเกือบทุกปี นักลงทุนเรียกกันว่า "Sell on launch"
แต่ระยะยาว สิ่งที่จะกำหนดราคาหุ้นคือ
- ยอดขายจริงของ iPhone 17 / iPhone Air
- กำไรในไตรมาสถัดไป
- รวมถึงกลยุทธ์ใหม่ ๆ ของ Apple เช่น AI, Vision Pro, บริการ Cloud ฯลฯ
📉 ทำไมราคาหุ้น Apple ถึง "ลง" หลังเปิดตัว iPhone 17 และ iPhone Air?
ประกอบด้วย
- iPhone 17 (เริ่มต้น 29,900 บาท)
- iPhone 17 Pro (เริ่มต้น 43,900 บาท)
- iPhone Air (เริ่มต้น 39,900 บาท – ไฮไลต์ใหม่ของงาน)
- Apple Watch Series 11
- AirPods Pro 3
เรียกได้ว่าเปิดตัวครบทุกไลน์ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ... หลังงานจบ ราคาหุ้น Apple กลับปรับตัวลงทันที ❗
❓ สาเหตุที่หุ้น Apple มักจะ "ลง" หลังเปิดตัวสินค้าใหม่
1. ข่าวดีสะท้อนในราคาไปแล้ว (Buy the rumor, Sell the news)
- นักลงทุนส่วนใหญ่วิเคราะห์กันไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะมีการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ → ราคาหุ้นมักขึ้นมาก่อนงาน แต่พอเปิดจริง ไม่ได้มี "เซอร์ไพรส์" จึงขายทำกำไรออกมา
2. ความคาดหวังสูงเกินไป
- หลายคนรอดูว่า Apple จะมีนวัตกรรมใหม่ ๆ แบบ "ว้าว" หรือเปล่า แต่รอบนี้แม้มี iPhone Air ที่บางและเบาลง แต่โดยรวมยังถือว่าเป็น "อัปเกรดตามรอบ" นักลงทุนบางส่วนมองว่าไม่แรงพอจะดันยอดขาย
3. ราคาสูงกว่าที่คาด
- iPhone 17 Pro เปิดมาที่ 43,900 บาท ถือว่าสูงขึ้นต่อเนื่อง และ iPhone Air ก็แทบไม่ต่างกับ Pro มากนักในแง่ราคา → ทำให้ตลาดกังวลว่ากำลังซื้ออาจไม่แรง
4. กังวลกำไร-ยอดขายในอนาคต
- ปกติ Apple ทำรายได้จาก iPhone มากกว่า 50% ของทั้งบริษัท ถ้า iPhone รุ่นใหม่ขายไม่ปัง → ตลาดก็กังวลกำไรไตรมาสถัดไป
5. ภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯ
- บางครั้งไม่ใช่แค่ Apple เอง แต่ตลาด Nasdaq / หุ้นกลุ่ม Tech โดยรวมอาจอยู่ในช่วงพักตัว ทำให้ราคาลงตามแรงขายทั่วตลาด
📊 สรุป
+ จริง ๆ แล้วไม่ใช่ครั้งแรกที่หุ้น Apple ร่วงหลังงานเปิดตัว iPhone — ถือเป็น "แพทเทิร์น" ที่เกิดขึ้นเกือบทุกปี นักลงทุนเรียกกันว่า "Sell on launch"
แต่ระยะยาว สิ่งที่จะกำหนดราคาหุ้นคือ
- ยอดขายจริงของ iPhone 17 / iPhone Air
- กำไรในไตรมาสถัดไป
- รวมถึงกลยุทธ์ใหม่ ๆ ของ Apple เช่น AI, Vision Pro, บริการ Cloud ฯลฯ