คนกัมพูชาแห่กลับบ้าน ออกจากงานจนไทยขาดแรงงาน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังไทย-กัมพูชา เกิดการปะทะระหว่างชายแดนทั้งสองประเทศ ซึ่งทางรัฐบาลกัมพูชา ต่างก็เรียกร้อง ไปถึงออกมาตรการ เพื่อให้คนในประเทศตัวเองเดินทางกลับ พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่าจะหางานให้ด้วย
แต่ในความเป็นจริง หลังผ่านมาหลายเดือน กลับมีข่าวชาวกัมพูชาลักลอบกลับเข้ามาในไทย เพราะอยากทำงาน ไปถึงล่าสุด ที่สื่อกัมพูชาเองก็รายงานว่า มีชาวกัมพูชาที่ได้งานจริงแค่ 20% เท่านั้น
อ่านต่อได้ที่
https://www.tnnthailand.com/tnnexclusive/210612/
ศอ.ปชด. ขยายผลการปฏิบัติการ – กองกำลังบูรพาสกัดกัมพูชาครึ่งร้อยลอบข้ามแดน อ้างรัฐบาลบ้านเกิดไม่เหลียวแล ยอมตายดาบหน้าเพื่อหางานในไทย
https://www.facebook.com/share/p/19SVuueCXM/?mibextid=wwXIfr
คลิปวีดีโอ
https://www.facebook.com/share/v/1BAFQeKscU/?mibextid=wwXIfr
วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2568 กองกำลังบูรพา ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ และชุดควบคุมทหารพรานที่ 12 (ร้อย ทพ.1206) ได้รับแจ้งจากสายข่าวในพื้นที่ว่ามีการลักลอบข้ามแดน จึงเข้าตรวจสอบบริเวณท้ายหมู่บ้านกุดหิน อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และสามารถตรวจพบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา จำนวน 50 คน (ชาย 33 คน หญิง 17 คน) ที่กำลังเดินเท้าลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักร
โดยทั้งหมดอยู่ในสภาพอิดโรย หิวโหย และไม่มีเอกสารอนุญาตเข้าประเทศ จากการสอบถามเบื้องต้นแรงงานกลุ่มนี้ยอมรับว่าเคยทำงานในประเทศไทยมาก่อน แต่ถูกกดดันให้กลับไปยังประเทศต้นทางเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากมาตรการควบคุมชายแดนที่เข้มงวด
อย่างไรก็ตามเมื่อกลับไปถึงภูมิลำเนากลับไม่มีงานทำและขาดรายได้ อีกทั้งไม่ได้รับมาตรการดูแลหรือช่วยเหลือจากรัฐบาลกัมพูชา จึงตัดสินใจยอมเสี่ยงชีวิต จ่ายเงินให้ผู้นำทางหัวละ 5,000–6,000 บาท เพื่อกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทยอีกครั้ง
โดยมีผู้นำทางชาวกัมพูชา 3 คนพาเดินข้ามแดนตามเส้นทางธรรมชาติ แต่ถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับได้ก่อน ขณะที่ผู้นำทางทั้งหมดอาศัยความมืดหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงได้นำแรงงานทั้งหมดส่งดำเนินคดีที่ สภ.คลองน้ำใส ตามกระบวนการของกฎหมาย
พ.อ. ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่มีคำสั่งปิดด่านชายแดนเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ถึงวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2568 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่ลักลอบเข้าเมืองแล้ว 84 ครั้ง รวมจำนวน 329 คน ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงสถานการณ์ความเดือดร้อนของประชาชนกัมพูชา ที่ขาดการดูแลจากรัฐบาลในบ้านเกิด จนต้อง “ยอมตายดาบหน้า” หวังเข้ามาทำงานในประเทศไทย
ภารกิจในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องของศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน (ศอ.ปชด.) โดยกองกำลังบูรพา ภายใต้การบูรณาการกับหน่วยเฉพาะกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ฉก.331 เพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และ ฉก.88 เพื่อปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ โดยทั้งหมดมุ่งมั่นสกัดกั้นยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย และการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อสร้างผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม เสริมสร้างความมั่นคงของประเทศ และคุ้มครองประชาชนไทยให้ปลอดภัยอย่างยั่งยืน
การสกัดกั้นแรงงานกัมพูชาครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งหลักฐานเชิงประจักษ์ถึงความเข้มแข็งของ ศอ.ปชด. และกองกำลังบูรพา ที่สามารถปิดกั้นเส้นทางผิดกฎหมายได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมขยายผลการปฏิบัติไปสู่การกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติ และสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนไทย
สื่อกัมพูชา เผย แรงงานที่กลับไป หางานได้แค่20% ส่วนอีกครึ่งล้านยังว่างงาน และ ลักลอบเข้าไทยเรื่อยๆ เป็นขบวนๆ
แต่ในความเป็นจริง หลังผ่านมาหลายเดือน กลับมีข่าวชาวกัมพูชาลักลอบกลับเข้ามาในไทย เพราะอยากทำงาน ไปถึงล่าสุด ที่สื่อกัมพูชาเองก็รายงานว่า มีชาวกัมพูชาที่ได้งานจริงแค่ 20% เท่านั้น
อ่านต่อได้ที่ https://www.tnnthailand.com/tnnexclusive/210612/
ศอ.ปชด. ขยายผลการปฏิบัติการ – กองกำลังบูรพาสกัดกัมพูชาครึ่งร้อยลอบข้ามแดน อ้างรัฐบาลบ้านเกิดไม่เหลียวแล ยอมตายดาบหน้าเพื่อหางานในไทย
https://www.facebook.com/share/p/19SVuueCXM/?mibextid=wwXIfr
คลิปวีดีโอ
https://www.facebook.com/share/v/1BAFQeKscU/?mibextid=wwXIfr
วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2568 กองกำลังบูรพา ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ และชุดควบคุมทหารพรานที่ 12 (ร้อย ทพ.1206) ได้รับแจ้งจากสายข่าวในพื้นที่ว่ามีการลักลอบข้ามแดน จึงเข้าตรวจสอบบริเวณท้ายหมู่บ้านกุดหิน อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และสามารถตรวจพบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา จำนวน 50 คน (ชาย 33 คน หญิง 17 คน) ที่กำลังเดินเท้าลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักร
โดยทั้งหมดอยู่ในสภาพอิดโรย หิวโหย และไม่มีเอกสารอนุญาตเข้าประเทศ จากการสอบถามเบื้องต้นแรงงานกลุ่มนี้ยอมรับว่าเคยทำงานในประเทศไทยมาก่อน แต่ถูกกดดันให้กลับไปยังประเทศต้นทางเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากมาตรการควบคุมชายแดนที่เข้มงวด
อย่างไรก็ตามเมื่อกลับไปถึงภูมิลำเนากลับไม่มีงานทำและขาดรายได้ อีกทั้งไม่ได้รับมาตรการดูแลหรือช่วยเหลือจากรัฐบาลกัมพูชา จึงตัดสินใจยอมเสี่ยงชีวิต จ่ายเงินให้ผู้นำทางหัวละ 5,000–6,000 บาท เพื่อกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทยอีกครั้ง
โดยมีผู้นำทางชาวกัมพูชา 3 คนพาเดินข้ามแดนตามเส้นทางธรรมชาติ แต่ถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับได้ก่อน ขณะที่ผู้นำทางทั้งหมดอาศัยความมืดหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงได้นำแรงงานทั้งหมดส่งดำเนินคดีที่ สภ.คลองน้ำใส ตามกระบวนการของกฎหมาย
พ.อ. ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่มีคำสั่งปิดด่านชายแดนเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ถึงวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2568 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่ลักลอบเข้าเมืองแล้ว 84 ครั้ง รวมจำนวน 329 คน ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงสถานการณ์ความเดือดร้อนของประชาชนกัมพูชา ที่ขาดการดูแลจากรัฐบาลในบ้านเกิด จนต้อง “ยอมตายดาบหน้า” หวังเข้ามาทำงานในประเทศไทย
ภารกิจในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องของศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน (ศอ.ปชด.) โดยกองกำลังบูรพา ภายใต้การบูรณาการกับหน่วยเฉพาะกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ฉก.331 เพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และ ฉก.88 เพื่อปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ โดยทั้งหมดมุ่งมั่นสกัดกั้นยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย และการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อสร้างผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม เสริมสร้างความมั่นคงของประเทศ และคุ้มครองประชาชนไทยให้ปลอดภัยอย่างยั่งยืน
การสกัดกั้นแรงงานกัมพูชาครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งหลักฐานเชิงประจักษ์ถึงความเข้มแข็งของ ศอ.ปชด. และกองกำลังบูรพา ที่สามารถปิดกั้นเส้นทางผิดกฎหมายได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมขยายผลการปฏิบัติไปสู่การกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติ และสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนไทย