ผลไม้ราคาถูก "กวาด" ไขมันในเลือดดีเยี่ยม ญี่ปุ่นยกเป็น "โสมเขียว" ไทยมีตามตลาดทั่วไป!



ผักผลไม้พื้นบ้านราคาย่อมเยา ช่วยลดไขมันในเลือดได้ดี คนญี่ปุ่นนิยมกิน ไทยมีขายตามตลาดทั่วไป
“กระเจี๊ยบเขียว” หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า "ถั่วฝักยาวญี่ปุ่น" เป็นผักพื้นบ้านที่หาซื้อได้ง่ายในตลาดไทย และมีราคาไม่แพง โดยมีคุณสมบัติเด่นในการช่วยลดไขมันในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กระเจี๊ยบเขียว...ของดีที่คนญี่ปุ่นยกให้เป็น "โสมเขียว"
ที่ประเทศญี่ปุ่น กระเจี๊ยบเขียวถือเป็นหนึ่งในผักยอดนิยม ถูกนำไปประกอบอาหารหลากหลายเมนู ทั้งสลัด okura no aemono จนถึงการลวกกินแบบง่ายๆ เพราะจัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่มีความเหนียวหนืดหรือ “neba neba foods” เช่น นัตโตะ สาหร่ายโมซึคุ และเห็ดเนเมโกะ ซึ่งเชื่อว่าช่วยเสริมสุขภาพระบบย่อยอาหารได้ดี
คนญี่ปุ่นบางส่วนถึงกับขนานนามกระเจี๊ยบเขียวว่าเป็น “โสมเขียว” ที่ช่วยส่งเสริมอายุยืน
ลดไขมันในเลือด ด้วยสารเมือกเหนียวในกระเจี๊ยบเขียว
สิ่งที่ทำให้กระเจี๊ยบเขียวโดดเด่นคือสาร เมือกเหนียว (mucilage) ซึ่งสามารถจับกับคอเลสเตอรอลระหว่างการย่อยอาหาร และช่วยขับออกจากร่างกายทางระบบขับถ่าย แทนที่จะดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด
ตามรายงานจาก Healthline และงานวิจัยของ สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) ระบุว่า ใยอาหารที่ละลายน้ำในกระเจี๊ยบเขียวช่วยลดระดับ LDL หรือ “ไขมันเลว” ได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังส่งผลดีต่อหัวใจ
ช่วยลดน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน
Medical News Today ยังรายงานว่า ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่รับประทานผงกระเจี๊ยบเขียวขนาด 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน มีแนวโน้มระดับน้ำตาลในเลือดและคอเลสเตอรอลลดลง
กูรูสหรัฐฯ พูดชัด 1 อาหารที่ "ไม่มีวันกิน!!!" เพราะแบคทีเรียเยอะมาก แต่คนไทยยังกินอยู่
อุทาหรณ์ชีวิต หนุ่มอายุแค่ 27 ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ต้นเหตุคือ "เมนูโปรด" กินทุกคืนไม่เบื่อ!
กระเจี๊ยบเขียว เป็นผักหรือผลไม้?
แม้กระเจี๊ยบเขียวจะจัดเป็นผลไม้ตามหลักพฤกษศาสตร์ เนื่องจากเป็นส่วนของพืชที่เกิดจากรังไข่ของดอก และมีหน้าที่ห่อหุ้มเมล็ด โดยพัฒนาจากรังไข่ของดอก และภายในมีเมล็ด
แต่ในชีวิตประจำวันและทางโภชนาการ มักถูกคนทั่วไปเรียก ใช้ และบริโภคในฐานะผัก เช่น ต้ม ยำ แกง หรือผัด มีรสไม่หวาน และมักกินในจานคาว ไม่ใช่ของหวาน
วัตถุดิบธรรมดาที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์
แม้เป็นผักผลไม้ธรรมดาๆ แต่ในปริมาณเพียง 100 กรัม กระเจี๊ยบเขียวให้พลังงานแค่ 33 แคลอรี แต่มีสารอาหารมากมาย ได้แก่
แมกนีเซียม: 14% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน (DV)
โฟเลต: 15% DV
วิตามิน C และ K1: 26% DV
ใยอาหาร: 3 กรัม
ประโยชน์ที่ได้รับจากสารอาหารเหล่านี้ ได้แก่:
ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวานและผู้ที่เสี่ยง
ดีต่อสตรีมีครรภ์ เพราะโฟเลตช่วยลดความเสี่ยงของความผิดปกติของทารก
ให้สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น โพลีฟีนอล ฟลาโวนอยด์ และวิตามิน C ช่วยลดการอักเสบและส่งเสริมสุขภาพสมอง
อาจช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมได้ถึง 63% ตามการทดลองในห้องแล็บ

สูตรทำ “กระเจี๊ยบเขียวต้มปรุงรส” สไตล์ญี่ปุ่น
หนึ่งในเมนูยอดนิยมของคนญี่ปุ่นคือ “aemono” หรือเมนูผักคลุกเครื่องปรุง ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยวัตถุดิบไม่กี่อย่าง
วัตถุดิบ: กระเจี๊ยบเขียวอ่อน 200 กรัม, ซีอิ๊วญี่ปุ่น (หรือน้ำตาลีสำหรับเวอร์ชันปลอดกลูเตน) 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำมันงาคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ, เกลือทะเล, น้ำตาล, พริกไทยขาว และงาขาวคั่วบด
วิธีทำ: ล้างกระเจี๊ยบ ตัดหัว ถูเบาๆ กับเกลือเพื่อลดขน จากนั้นลวกในน้ำเดือดที่ใส่เกลือประมาณ 60–90 วินาที แล้วนำลงแช่น้ำเย็นทันที
หั่นกระเจี๊ยบเป็นชิ้นเฉียง ใส่ชามผสมกับเครื่องปรุงที่เตรียมไว้ คลุกให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟแบบเย็น เป็นเครื่องเคียงหรืออาหารเรียกน้ำย่อย

https://www.sanook.com/news/9840150/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่