เมื่อก่อนตาพูดถึงบุก บุกก็จะเป็นอาหารที่คนไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เอามาใช้ทำขนม เค้าไม่ค่อยนิยม พักหลังๆนิยมเอามาใช้เป็นอาหารลดน้ำหนัก เพราะว่าทำให้อิ่มไขมันและพลังงานต่ำ ใครที่ออกกำลังกาย ก็จะกินเจลลี่หรือว่าบุก เข้าไปเพื่อให้อิ่ม ร่างกายจะได้เผาผลาญพลังงานที่สะสมไว้ในรูปแบบของไขมัน
แต่อยู่ดีๆก็มี หมึกกรุบ โผล่มา ทำให้นึกถึงตอนนี้มีสาหร่ายเถ้าแก่น้อยโผล่มาใหม่ๆ ทำให้ใครๆก็เห่อไปกินสาหร่ายทอดกรอบ (หรือว่าปิ้งหว่า) เอาเถอะเอาเป็นว่าเป็นกระแสอยู่พักใหญ่ๆ ส่วนหมึกกรุบนี้ก็ไม่ต่างกัน เป็นกระแส แม้ตอนแรกจะมีแค่สองรส คือหม่าล้า แบบเผ็ด กับเผ็ดน้อย ซองสีแดง กับสีส้ม
หลายคนก็ตามหา ในร้านสะดวกซื้อมากมาย แต่อย่างไรกระแสก็ย่อมมีจาง ถึงไม่จางคู่แข่งก็มาตีตลาด หาส่วนแบ่ง เพราะดูท่าขนมแบบนี้ ทำไม่ยาก แค่มีบุกกับปรุงรสสักหน่อย ก็โอเคแล้ว
บอกตรงๆว่าตอนแรก คิดว่าเป็นหมึกจริงๆเสียอีก(ฮา) เข้าใจแนวติดที่ว่า เอาบุกมาทำเป็นหนวดปลาหมึก เพราะลักษณะทางกายภาพมันคล้ายกันกินไปก็กรุบๆ หนึบๆ เหมือนกัน แต่ว่าถ้าเป็นหนวดปลาหมึกจริง มันจะอยู่ไม่นาน และรสชาติไม่คงที่ การใช้บุกมาทำแทนแล้วใส่รสชาติเข้าไป เป็นแนวคิดที่ฉลาด ยิ่งทำเป็นเจ้าแรกๆ คนจำได้ง่าย ติดตลาดไว ก็ขายได้คล่อง
มีวันรุ่งก็มีวันร่วง เมื่อการมีแค่สองรสชาติ และการมาของเจ้าอื่น ทำให้ยอดขายตก เพื่อพยุงฐานะทางการเงิน และกลับมาเป็นเจ้าตลาดอีกครั้งก็ต้องนำกลยุทธ์การเพิ่มรสชาติใหม่เข้ามา
มันก็คงคือเหมือนกับการขายมันฝรั่งทอดเจ้าหนึ่งนั่นแหละที่ทุกๆเดือนหรือทุกไตรมาสก็จะมีการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มรสชาติใหม่เข้ามา
หมึกกรุบเองก็เช่นกันจำเป็นจะต้องมีการเพิ่มรสชาติใหม่เข้ามาเพื่อดึงของลูกค้าคนอื่นๆที่ไม่มีความชื่นชอบหมาล่าแต่เพียงอย่างเดียว เข้ามาอยู่ในกลุ่มลูกค้าหลักให้ได้
ดังนั้นจึงเกิดสองรสชาติเพิ่มขึ้นมาคือรสชาติปูผัดผงกะหรี่และรสก๋วยเตี๋ยวเรือ จึงเกิดขึ้นโดยประการชะนี้ !!!
-----
ความเห็นส่วนตัว: หลังจากที่ได้ร้องรสชาตินี้แล้วก็รู้สึกว่ามันไม่เผ็ดชาลิ้นเหมือนการกินหมาล่าสองรสชาติเดิม
แต่ก็ยังว่านั่นแหละเรื่องนี้บางทีบางคนก็ชอบบางคนก็ไม่ชอบรสชาติใหม่ก็นานาจิตตัง เพียงแต่ว่าจะบอกว่าสองรสชาตินี้เมื่อผมกินไปแล้ว ผมกินตอนเช้าด้วย!? แล้วกินสองรสชาตินี้พร้อมกัน ..อย่ากินเยอะไม่งั้นคุณอาจจะต้องเข้าห้องน้ำตั้งแต่เช้าก็เป็นได้(ฮา) โดยเฉพาะรถก๋วยเตี๋ยวเรืออันนี้หนักสุด
จากของหวานสู่ขนมทานเล่นสุดเผ็ดชาลิ้น
แต่อยู่ดีๆก็มี หมึกกรุบ โผล่มา ทำให้นึกถึงตอนนี้มีสาหร่ายเถ้าแก่น้อยโผล่มาใหม่ๆ ทำให้ใครๆก็เห่อไปกินสาหร่ายทอดกรอบ (หรือว่าปิ้งหว่า) เอาเถอะเอาเป็นว่าเป็นกระแสอยู่พักใหญ่ๆ ส่วนหมึกกรุบนี้ก็ไม่ต่างกัน เป็นกระแส แม้ตอนแรกจะมีแค่สองรส คือหม่าล้า แบบเผ็ด กับเผ็ดน้อย ซองสีแดง กับสีส้ม
หลายคนก็ตามหา ในร้านสะดวกซื้อมากมาย แต่อย่างไรกระแสก็ย่อมมีจาง ถึงไม่จางคู่แข่งก็มาตีตลาด หาส่วนแบ่ง เพราะดูท่าขนมแบบนี้ ทำไม่ยาก แค่มีบุกกับปรุงรสสักหน่อย ก็โอเคแล้ว
บอกตรงๆว่าตอนแรก คิดว่าเป็นหมึกจริงๆเสียอีก(ฮา) เข้าใจแนวติดที่ว่า เอาบุกมาทำเป็นหนวดปลาหมึก เพราะลักษณะทางกายภาพมันคล้ายกันกินไปก็กรุบๆ หนึบๆ เหมือนกัน แต่ว่าถ้าเป็นหนวดปลาหมึกจริง มันจะอยู่ไม่นาน และรสชาติไม่คงที่ การใช้บุกมาทำแทนแล้วใส่รสชาติเข้าไป เป็นแนวคิดที่ฉลาด ยิ่งทำเป็นเจ้าแรกๆ คนจำได้ง่าย ติดตลาดไว ก็ขายได้คล่อง
มีวันรุ่งก็มีวันร่วง เมื่อการมีแค่สองรสชาติ และการมาของเจ้าอื่น ทำให้ยอดขายตก เพื่อพยุงฐานะทางการเงิน และกลับมาเป็นเจ้าตลาดอีกครั้งก็ต้องนำกลยุทธ์การเพิ่มรสชาติใหม่เข้ามา
มันก็คงคือเหมือนกับการขายมันฝรั่งทอดเจ้าหนึ่งนั่นแหละที่ทุกๆเดือนหรือทุกไตรมาสก็จะมีการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มรสชาติใหม่เข้ามา
หมึกกรุบเองก็เช่นกันจำเป็นจะต้องมีการเพิ่มรสชาติใหม่เข้ามาเพื่อดึงของลูกค้าคนอื่นๆที่ไม่มีความชื่นชอบหมาล่าแต่เพียงอย่างเดียว เข้ามาอยู่ในกลุ่มลูกค้าหลักให้ได้
ดังนั้นจึงเกิดสองรสชาติเพิ่มขึ้นมาคือรสชาติปูผัดผงกะหรี่และรสก๋วยเตี๋ยวเรือ จึงเกิดขึ้นโดยประการชะนี้ !!!
-----
ความเห็นส่วนตัว: หลังจากที่ได้ร้องรสชาตินี้แล้วก็รู้สึกว่ามันไม่เผ็ดชาลิ้นเหมือนการกินหมาล่าสองรสชาติเดิม
แต่ก็ยังว่านั่นแหละเรื่องนี้บางทีบางคนก็ชอบบางคนก็ไม่ชอบรสชาติใหม่ก็นานาจิตตัง เพียงแต่ว่าจะบอกว่าสองรสชาตินี้เมื่อผมกินไปแล้ว ผมกินตอนเช้าด้วย!? แล้วกินสองรสชาตินี้พร้อมกัน ..อย่ากินเยอะไม่งั้นคุณอาจจะต้องเข้าห้องน้ำตั้งแต่เช้าก็เป็นได้(ฮา) โดยเฉพาะรถก๋วยเตี๋ยวเรืออันนี้หนักสุด