ผมในวัย 25 ปี โง่จนโดนหลอกให้โอนเงินจนเป็นหนี้บัตรเคดิตเกือบ 3 แสนบาท

แต่ขอให้รู้ไว้ครับว่าคุณที่เจอปัญหานี้ไม่ได้สู้อยู่ตัวคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นจังหวะชีวิต หรือเพราะความโง่ของเราเอง สุดท้ายเรื่องมันเกิดไปแล้วคงทำอะไรไม่ได้แล้ว ได้แค่เรียนรู้ยอมรับมันและเผชิญหน้ากับมัน

ชีวิตโครตเหนื่อยเลยตอนนี้ โครตท้าทาย และก็โครตมันส์ด้วยเช่นกัน

ถ้าผ่านมันไปได้ก็จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น เติบโตขึ้น
สู้และข้ามมันไปให้ได้ครับ ยังมีอีกหลายคนที่สู้กันอยู่ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแน่ครับ อย่างน้อยมีผมด้วย

ผมในวัย 25 ปีกำลังจะ 26 เดือนนั้น เรื่องเพิ่งเกิดได้ 2 เดือน

ผมเงินเดือน 28K

ผมขอเล่าเรื่องผมก่อน
-ผมรู้จักผู้หญิงคนหนึ่งได้แค่ 2 วัน ผมเสียเงินโดนรวมไปทั้งหมด 3 แสนกว่าบาท ผมช่วยเพราะไม่ได้หลงรักหรืออะไร นะแค่อยากช่วยเพราะน่าสงสาร แล้วเพราะน่าเชื่อถือ + อีกฝั่งน่าจะมีจิตวิทยาในการคุยและกดดันผมด้วย + ทุกการโอนเงินจะมีเวลาเข้ามาเกี่ยวด้วยตลอด

-เรื่องเกิดจากผมไปเที่ยวผมรู้จักผู้หญิงคนนึงผ่านแอพคุย แล้วก็นัดกันไปเที่ยว ราบรื่นปกติ

-วันต่อมาเขามาปรึกษาผมเกี่ยวกับธุรกิจที่บ้าน ต้องใช้เงินด่วนขอยืมได้ไหม ไม่อยากโดนค่าปรับแล้วมาทำสัญญาเงินกู้กัน แล้วเรียกดอกเบี้ยเอา ไม่เกิน7วันเดี๋ยวได้คืนแล้ว พอดีทางพ่อโอนเงินผิดไปในบัญชีไม่มีการเคลื่อนไหว เลยโดนระงับและต้องใช้เงินด่วนมาก

-ระหว่างนั้นผมก็ขอหลักฐานบัตรประชาชน ที่อยู่ที่ทำงาน บัตรพนักงาน สลิปเงินเดือน แล้วก็ไปคุยกับเขาหน้าบ้าน มั่นใจว่ามีตัวตนอยู่จริง ไม่ได้มีอะไรผิดปกติเลยครับ แต่ไม่ได้ไปคุยกับทางพ่อแม่เขานะ

-ตกลงทำสัญญากันแล้วให้ผมเรียกดอกเบี้ย ผมคิดในใจไม่กี่วันก็ได้คืนแล้วไม่เสียหายอะไร เลยให้ยืมไป 120,000 บาท ผมคิดว่าจบแล้วแต่ไม่จบ

-วันต่อมา อ้างว่าต้องมีค่าขนส่งเพิ่ม 40,000 บาท ถ้าไม่โอนจะโดนค่าปรับนะเดี๋ยวพ่อเขาจะไม่มีเงินคืนผม ก็โอนให้ไป หลังโอนเขาบอกให้เพิ่มวงเงินในสัญญา แต่ไม่จบ

-วันต่อมาอีกก อ้างว่ามันต้องใช้รถขนส่ง2คัน เมื่อวานแค่ 1 คัน  เพิ่มอีก 40,000 บาท ทางเขาหาไม่ได้แล้ว ไม่อยากโดนค่าปรับ ไอ้ผมก็โง่โอนเงินไป เชื่อสนิทใจว่าเขาไม่ได้หลอก เพิ่มวงเงินในสัญญา แต่ไม่จบบบ

-กลางคืนทักมาเขามีขอเสนอจากทางร้านให้เลือก 2 ทาง ระหว่างเขาโดนค่าปรับหลานแสน กับ สั่งของเพิ่มจากทางร้านอีก 27,000 บาท เขาบอกทำไงดีหาตังค์ไม่ได้แล้วครับ ถ้าโดนปรับเอาเงินมาคืนผมไม่ได้แน่ ใช่ครับผมโอนไปอีก 27,000 บาท เหมือนจะจบใช่ไหม ใช่ครับจบในส่วนของเงินที่เอาไปช่วยธุรกิจที่บ้านเขา แต่!!!!

-ก่อนถึงวันที่เขาต้องคืนเงินผม ผมนัดเจอเขากับพ่อที่ธนาคารที่เขาอ้างตอนแรก ผมก็ขับรถไปต่างจังหวัดเลย แล้วก็ไม่นอนค้างที่โรงแรม1คืน

-ตอนเช้าเขาบอกผมว่า ตอนเช้าธนาคารต้องใช้เอกสารยืนยันตัวตนจากทางต้นสังกัด พ่อเขาเป็นทหารยศพันโทเกษียณแล้ว และเขาก็เดินทางมาที่พักผม อ้างเรื่องใหม่!!! ว่าเขาเงินจากพอร์ตหุ้นไปใช้ก่อนไหมแต่ผมขอดูพอร์ตหุ้นก็ไม่ได้ บอกต้องฝากเงินเข้าก่อนถึงจะทำเรื่องขอดูพอร์ตหุ้นได้ มีแค่รูปแคปหน้าจอไว้ให้ดู ผมเริ่มรู้ตัวแล้วว่าโดนโกงแน่ แต่อีกใจก็อยากได้เงินคืน เลยถามว่าถอนเงินต้องใช้เงินเท่าไร เขาบอก3หมื่น ผมไม่มีตังค์แล้ว เขาบอก 3 หมื่น แค่ทำเรื่องก็ได้ตังค์คืนมาใช้ก่อนแล้ว รอเอกสารจากพ่อเขาน่าจะนาน มาทำเรื่องตรงนี้ก่อน
โอเคผมกลับกรุงเทพเอามอเตอร์ไซค์เข้าไฟแนนซ์ ได้มา 30,000 โอนจ่ายไป เขาส่งคิวอาร์โค้ดมาให้แสกน จ่ายไปแล้ว เขาบอกเรื่องอนุมัติแล้วรอเงินเขา ผมขอดูรูปแชทเขาบอกมันแคปไม่ได้ ให้เอามือถือคนอื่นถ่ายเขาก็บอกไม่ได้
แต่!!!! ตอนมืดโทรมาบอกว่าต้องมีค่าทำเนียม 16,000 บาท เเค่จ่ายค่าธรรมเนียม ก็อนุมัติแล้วผมรับไม่ไหว ไม่มีตังค์แล้วแล้วปฎิเสธไป

-คุยกับเขาสิ้นเดือนตังค์ออกเดินคืนก่อน15,000นะ สิ้นเดือน
แต่!!!
-ก่อนสิ้นเดือนเขาบอกทำเรื่องถอนเงินใหม่ไหม ทีนี้อ้างเพื่อนโน้นนี่นั่นใช่ครับ ผมโดนไปอีกประมาณ 46,000 ถามเรียบร้อยว่าไม่มีค่าธรรมเนียมอะไรอีกใช่ไหมจบแล้วใช้ไหม เขาบอกใช่ รอตังค์เข้าอีก 7 วัน แต่!!!!!

-อีก 3 วันต่อมา เขาบอกทางแอพเทรด XM คืนเงินมาให้บัญชีเขา 40,000 ให้ทำเรื่องใหม่ เขาโอนเงินเข้าบัญชีผมแล้วให้ผมแสกน Qr จ่ายกลับไป แล้วบอกรอเงินเข้า จบแล้วไม่มีอะไร แต่!!!!

-วันต่อมาบอกมันต้องต้องมีค่าทำเนียมอีก 20,000 บาท เรื่องอนุมัติแล้วรอ จ่ายค่าทำเนียมก็คือจบเลยรอเงินเข้าอย่างเดียว บอกเราไม่สู้ต่อไปกับเขาแล้วหรอ ตอนนั้นเส้นเชือกสุดท้ายผมขาด เลยบอกไม่

-ผมได้ขอหลักฐานที่ทำธุรกรรมต่างๆ บอกสัญญาใบเสร็จที่เขาเอาไปช่วยธุรกิจที่บ้าน ไม่มีให้สักอย่าง ติดต่อพ่อ กับร้านที่เขาทิ้งเบอร์ให้โดนบล็อคหมด

-เลยปรึกษาทนาย ทนายบอกให้แจ้งความกับตำรวจ ผมก็ไปแจ้งความแนบหลักฐานทุกอย่าง แต่ผมไม่มีเงินจ้างทนายนะ555 เรียกได้ว่าหมดตัวทุกอย่าง

-รอตำรวจดำเนินคดีต่อ อย่างว่าครับตำรวจไทยต้องใช้เวลาหน่อย

-ผมจมดิ่งกับตัวเอง กินไม่ได้ นอนไม่หลับ บ้างครั้งอยากตาย น้ำหนักลดไป 6 กิโล คือมีแต่คนทักว่าผอมอะ

-ทักไปหาคู่กรณีก็ไม่มีวี่แววจะคืนเงินให้สักบาท5555

สรุปค่าใช้จ่ายที่โดนหลอกไป
   -บัตรกดเงินสด KTC                       120,000 บาท
   -บัตรเครดิต.  KTC                            64,000 บาท
   -shopee                                         100,000 บาท
   -เงินส่วนตัวกับยืมเพื่อนไฟแนนซ์รถ 46,000 บาท

รวมทั้งหมด 330,000 บาท

ชีวิตตอนนี้คือดิ่งเหวมากครับ จากคนที่อยากกินอะไรก็กิน เที่ยวไหนก็ได้เที่ยว กับทำอะไรไม่ได้สักอยากกินข้าววันละ1-2มื้อ ประหยัดที่สุดเท่าที่ทำได้

-ผมยอมรับว่าผมโง่ เล่าให้ใครฟังก็พูดแบบเดียวกัน แต่ในเมื่อเกิดไปแล้วก็ต้องหาทางแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะต้องใช้ชีวิตแบบขัดสนไปสักอีก2-3 ปี ผมก็จะเอาตัวรอดไปให้ได้
-ดอกเบี้ยบัตรแพง😅

-ผมยอมรับว่ามันพลาดไปแล้ว หางานเสริมทำ ทำบันทึกรายรับรายจ่าย หางานเสริมทำให้ได้เพิ่ม เดือนละ4-5พันก็ยังดี ถึงผมจะต้องนอนวันละ4-5 ชม.ผมก็ต้องทำมัน ส่วนไอ้คนที่มันทำกับผมแบบนี้ รอเช็คบิลมันทีเดียวถ้าผมหลุดหนี้สินไปได้ จะเอาให้ยับ

สุดท้ายคนที่เจอปัญหาแบบนี้ จำไว้ว่าคุณไม่ได้สู้ตัวคนเดียวครับ😁