MODULO
Gege : สวัสดีครับ ผม อาคุทามิ, ไม่ได้เจอกันนานตั้งแต่มหาเวทผนึกมาร
ช่วงระหว่างที่ผมกำลังเขียนเรื่อง JJK ผมได้รับคำแนะนำมากมายให้เขียนภาคแยก ที่ให้นักวาดคนอื่นวาดอีกที
แต่เพราะมังงะ เป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก ผมจึงกลัวว่าการเขียนภาคแยกที่มีเนื้อเรื่องขยายออกไปมันจะทำให้ผมควบคุมไม่ได้
ตอนนั้นก็เลยยังไม่ได้ตอบรับข้อเสนอพวกนั้น แต่ผมมาลองคิดดูว่ามันอาจช่วยขยายเรื่องหลักได้
หรืออาจจะลงลึกลงเรื่องรายละเอียดของโลกไสยเวท หรือการเปลี่ยนยุคไปเลย ผมจึงตระหนักว่าถ้ามันถูกวางให้อยู่ในเส้นขนาน
มันอาจเปิดโอกาสให้เกิดโปรเจกต์อื่นอีกเยอะเลย นั่นจึงกลายเป็นสิ่งที่จุดประกายที่ทำให้ Mojuro เกิดขึ้นมา
ซึ่งเดิมทีไม่มีไอเดียที่จับต้องได้เลย แต่หลังจากมีการประชุมวางแผนหลายครั้ง มันก็ได้ถือกำเนิดขึ้นจริง ๆ ครับ
นี่จะเป็นการตีพิมพ์แบบสั้น ๆ ประมาณครึ่งปี (ถ้าไม่ถูกตัดกลางคันน่ะนะ) และน่าจะถูกรวมเล่มได้ราว ๆ 3 เล่มครับ
ผู้วาดคือคุณ ยูจิ อิวาซากิ ผู้มีพรสวรรค์ วาดภาพได้ยอดเยี่ยม ผมจะดีใจมากหากทุกคนสนุกไปกับ Mojuro ในฐานะอีกหนึ่งประตูสู่โลกของ JJK ครับ
รายละเอียด : Moduro จะต่อจาก JJK เนื้อเรื่องหลักโดยพระเอก (ตัวนำเรื่อง) คือหลานของยูตะ
เหมือนจะคอนเฟิร์มแล้วว่า ยูตะ กับมาคิ แต่งงานกันนะ
มีแพลนเขียน 3 เล่มจบ ประมาณ 6 เดือนต่อจากนี้
หลานยูตะ
OKKOTSU YUUKA : อคคทสึ ยูกะ
OKKOTSU TSURUGI อคคทสึ ทซึรูกิ
Chapter 1 :
ในจักรวาลอันกว้างใหญ่
การได้มาพบกันบนดาวเคราะห์สีน้ำเงิน
บันทึก - ชั้นบรรยากาศตอนบน
ปี ค.ศ. 2086, เนวาดา
ระดับความสูง 30,000 เมตร
สิ่งมีชีวิตจากต่างดาวที่เรียกตัวเองว่า ชาวซิมูเรีย
ปรากฏขึ้นพร้อมกับยาน
นานักซ์ (Naunax)
ที่บรรทุกเพื่อนร่วมเผ่าประมาณ 50,000 ชีวิต มาขอความคุ้มครองในฐานะผู้ลี้ภัย
ตัวละคร 1 - ญี่ปุ่นหรอ?
งั้นหรอ...ไม่ใช่ว่าประเทศที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกคืออเมริกาหรอกหรือ?
ตัวละคร 2: มันก็ใช่ แต่ว่าอเมริกาบอกว่าหน้าที่ทางการทูตทั้งหมดเป็นของญี่ปุ่นน่ะนะ
??? : เข้าใจแล้ว
??? : คิดอะไรออกแล้วงั้นสิ?
คนที่มีสามตา : ดูเหมือนมันจะคล้ายกับเรา
มีเผ่าหนึ่งในญี่ปุ่นที่มีพลังคล้ายกับเรา
??? : ว่าไงนะ!?
ยูตะ : นี่แหวน -- ยูกะเก็บไว้นะ
ยูกะ : มันจะดีหรอคะ
ยูตะ : ก็อยากได้ไม่ใช่หรอ
ยูกะ : แต่นี่เป็นของ...
ยูตะ : มันก็ใช่ แต่หลานน่ะซนเกินไปหน่อยนะ
อดห่วงไม่ได้ ก็จนกว่าเธอจะกลายเป็นนักคุณไสยที่เก่งกาจ
แหวนวงนี้จะคอยดูหลานไว้ รักษาให้ดี
ยูกะ : สัญญาค่ะ จะรักษาอย่างดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Okkotsu Yuuka, ตอนอายุ 10 ปี
ตั้งแต่คุณย่ามาคิตาย ยูกะก็เหมือนจะเริ่มสูญเสียพลังวิญญาณลงเรื่อย ๆ
โกวตะ : ไม่ใช่แค่ยูกะหรอก ไม่มีใครคิดว่าคุณมาคิจะจากไปคนแรกนี่น่ะ
ยูกะ : หนูจะแข็งแกร่งให้เหมือนคุณปู่
--------
Okkotsu Tsurugi , ตอนอายุ 11 ปี
พี่ชายของยูกะ ได้รับแหวนที่ยูตะเคยมอบให้ยูกะ โดยสึรุกิ บอกกับน้องสาวว่าเขาไม่ใช่ผู้ตัดสินใจจะเอาแหวนวงนี้มาสักหน่อย
แต่ใคร ๆ ก็พูดกันว่าแหวนนี้เหมาะกับสึรุกิ มากกว่า ทางด้านยูกะก็ร้องไห้เพราะรู้สึกเหมือนโดนแย่งแหวนไป
ยูกะจึงปฎิญาณไว้ว่า เธอจะต้องแข็งแกร่งจนทุกคนยอมรับให้ได้ว่าเธอเหมาะสมกับแหวนวงนี้
--------
ภาพตัดมาปีปัจจุบัน
เราจะเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กคนนึง และผู้ชายที่อายุเยอะกว่า กำลังคุยกันเรื่องเกมยุคเก่า
ก่อนที่ภาพจะตัดไปหา ยูกะ และ สึรุกิ ที่ตอนนี้โตพอจะออกไปทำงานที่ต้องใช้อาคมได้แล้ว
ปัจจุบันมีรายงานว่าเด็กหาย หรือเหตุลักพาตัวเด็กบ่อยครั้ง และดูเหมือนจะมีนักคุณไสยเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
โดยพวก ยูกะ และ สึรุกิ ต้องเป็นคนออกไปหาเบาะแส และรายงานกลับมา
ซึ่งผู้ช่วยสอบสวนคือ
Maruru Var Vru Yelvri (อ่านว่าไรแม่) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า
มารุ ก็ได้
ยูกะ : นักอาคมชาวต่างชาติหรอ แปลกแหะ
มารุ : ทำไมถึงแปลกล่ะ?
ยูกะ : ปกติ พลังคำสาปเป็นเรื่องเฉพาะของคนญี่ปุ่น เพราะคำสาปมาจากอารมณ์
นักคุณไสยจึงมักเกิดแค่ในญี่ปุ่นเท่านั้น แน่นอนว่าก็มีข้อยกเว้นอย่างเช่นคุณแหละนะ
มารุ : เข้าใจแล้ว เพราะงั้นการลักพาตัวคนญี่ปุ่นก็น่าจะมีเป้าหมายเพื่อใช้พลังคำสาป/อาคม ถูกต้องไหม
ผู้ชายอีกคน : ก็นะ ในการค้ามนุษย์แบบนี้ คนญี่ปุ่นมีค่าสูงมาก และจะถูกแลกเปลี่ยนในราคาที่สูง
สึรุกิ : เดี๋ยวนะ หมอนี่ไม่รู้กระทั่งเรื่องแค่นี้ ฉันเริ่มจะห่วงเรื่องภารกิจนี้ซะแล้วสิ
ยูกะ : นี่ไม่ใช่งานปราบคำสาปใหญ่โตอะไรนี่นาก็แค่การสืบสวนใช่ไหม? ไม่เป็นไรหรอก เราไม่ได้ต้องไปสู้กับ “ผู้ใช้คำสาป” สักหน่อย
ยูกะ : ผู้ใช้...คำสาป?
มารุ : จูจุทสึ ไม่ใช่นักคุณไสยหรอ แล้วอะไรคือจูจุทสึ?
สึรุกิเริ่มทะเลาะกับยูกะ เรื่องที่จะต้องพามารุไปด้วย เพราะมารุที่มาจากนอกโลกก็ไม่รู้อะไรเลย แบบไม่รู้เลย 5555 แล้วสึรุกิ ก็หันไปตอบใส่มารุว่า จุจุทสึก็คือนักคุณไสยนั่นแหละ ยูกะจึงด่าทั้งสองคนว่าเสียงดัง แล้วถ้ายังเสียงดังแบบนี้จะทิ้งไว้ที่นี่แหละ มารุจึงคิดในใจว่าป่าเถื่อนมาก 555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผู้ชายอีกคนที่มาด้วยจึงอธิบายว่า มารุมาที่นี่เพื่อดูว่านักคุณไสยที่ญี่ปุ่นเป็นอย่างไร ในฐานะประเทศผู้ลงนาม
มารุ : [ฉันจะะคอยดูพวกแกไว้ มนุษย์โลกผู้มีพลังคล้ายกันกับเรา]
มารุ : ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นไม่ต้องมาพึ่งพาฉัน ฉันได้รับคำสั่งว่าไม่ให้เข้าไปยุ่ง
พอได้ยินแบบนั้น ยูกะก็ตั้งท่าจะทิ้งมารุไว้ข้างหลัง เพราะถ้าพึ่งพาไม่ได้ ก็เกะกะเปล่า ๆ 5555
มารุนั่งซึมแล้วบอกว่ายูกะทำเกินไป แล้วยูกะก็พาไปกินทาโกะยากิ ซึ่งมารุบอกว่ามันอร่อยมาก ยูกะจึงบอกว่ามารุต้องจ่ายตังค์คืนเธอด้วย
แน่นอนว่ามารุงงแล้วบอก คืนอะไร ต้องทำทาโกะคืนให้หรอ แล้วยูกะก็บอกว่ามารุเหมือนพี่ชายเธอไม่มีผิด
สึรุกิก็เอาของสำคัญของเธอไป มารุถามว่าสิ่งนั้นคืออะไรเธอจึงบอกว่าแหวนของคุณปู่ที่มอบให้เธอ
บัดนี้มันแขวนอยู่ที่คอของพี่ชายเธอแล้ว แหวนวงนั้นเป็นสมบัติล้ำค่าของตระกูลโกะโจ
และจะถูกมอบให้กับนักคุณไสย์ที่เก่งกาจกว่าใคร ๆ ก่อนหน้านี้มันถูกมอบให้เธอ แต่ภายหลังมันถูกเอาไปให้กับพี่ชายเธอแทน
มารุ : งั้น สึรุกิ ก็เป็นนักคุณไสยที่เก่งกาจขนาดนั้นเลยหรอ
ยูกะ : ไม่ใช่อยู่แล้ว มีคนบอกว่าฉันกับเขาความสามารถเท่า ๆ กัน เขาไม่เคยมีความทรงจำร่วมกับคุณปู่ด้วยซ้ำ
มารุจึงบอกว่า งั้นยูกะก็แสดงให้ทุกคนเห็นไปสิ ว่าตัวเธอเองเหมาะสมกับแหวนวงนั้น ถ้าเกิดว่าทำภารกิจนี้คนเดียวจนสำเร็จยูกะก็จะถูกมองว่า เก่งกาจ
ส่วนมารุจะช่วยให้ยูกะประสบความสำเร็จ หากภารกิจไม่ต้องถึงขั้นใช้อาคมเขาก็จะไม่โดนว่า แล้วทั้งคู่ก็เริ่มตามหาเบาะแส มารุพายูกะเดินมาที่ทาง ๆ หนึ่ง
สึรุกิ : เฮ้ ไปมัวขี้เกียจกันอยู่ที่ไหนมาล่ะเนี่ย
มารุ : นี่ลืมไปแล้วใช่ไหม ว่าก็เคยทิ้งฉันไว้
สึรุกิ : สังเกตุเห็นแล้วใช่ไหม ม่านนี่น่ะ ถ้าเธอเดินดุ่ม ๆ ไปตามทางแบบนั้น เธอจะถูกจับได้
มารุ : นายมองเห็นด้วยหรอ
สึรุกิ : อะไรนะ ? ฉันขอหยิบเครื่องมือบางอย่างก่อน
มารุ : ขอโทษนะ ยูกะ (ที่พามาทางนี้)
ยูกะ : ไม่หรอก มันไม่ใช่ความผิดนาย กังวลเกินไปหรือเปล่าเนี่ย
มารุ : ฉันก็มีพี่ชายเหมือนกัน เป็นแฝดน่ะ
ยูกะ : แฝดหรอ !
มารุ : แต่เราไม่ได้สนิทกันน่ะ ฉันก็พยายามจะสนิทด้วยหลายครั้งแล้วแหละ แต่ไม่ได้ผลอะ
ยูกะ : แล้วเหตุผลที่ไม่ชอบกันล่ะ
มารุ : ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เหมือนเขาจะหงุดหงิดที่เห็นฉันดูปวกเปียกล่ะมั้ง
ยูกะกล่าวต่อว่าได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกเศร้าใจแทน มารุจึงบอกว่ามันเจ็บปวดที่ไม่เข้าใจแฝดตัวเอง ก็คือไม่มีใครเข้าใจพี่ชายฝาแฝดของเขา พอคิดแบบนั้นแล้วความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นมันก็คงอยู่ตลอดไป แล้วก็แย่ลงเรื่อย ๆ พอคิดว่ามันคงจะลำบากมากถ้าใครสักคนมีจุดจบแบบมารุ (เรื่องพี่น้อง) เพราะงันก็เลยอยากแก้ปัญญหาเรื่องแหวนของยูกะ และทำให้พี่ชายเธออยู่ด้วยกันกับยูกะ ยูกะบอกว่าแม้ว่ามารุจะเจอเรื่องไม่ค่อยดีไม่ได้แปลว่ามันจะเกิดขึ้นกับเธอและพี่ชาย
มารุ : เธอก็พูดจาอ่อนหวานกว่านี้ไม่ได้หรอ
ยูกะ : จนกว่าฉันจะได้แหวนคืน ฉันไม่แคร์อะไรเกี่ยวกับพี่ชายเลยสักอย่างเดีบว
สึรุกิ : ถ้าฉันเดาไม่ผิด เส้นทางเริ่มต้นตรงนี้ เพราะงั้นเรามาปิดทางกันเถอะ
ในขณะที่พวกเขากำลังเอาสายคาดมากั้นทาง ก็มีเด็กคนนึงวิ่งเข้าไป และก็มีมือใหญ่มือนึงโผล่มาจากความมืด
และจับตัวเด็กคนนั้นไป สึรุกิจึงรีบบอกให้ยูกะ และ มารุ กลับไปรายงานแล้วเขาจะเป็นคนตามหาเด็ก ยูกะบอกจะไปด้วย แต่มารุไม่ไป
สักพักเราจะเห็นว่าดาบของสึรุกิตกอยู่ ยูกะจึงอธิบายว่า ม่านนี้กันผู้ที่มีพลังอาคมระดับนึง เพราะงั้นเราจึงต่อสู้ไม่ได้จากตรงนี้
มารุ : อ้าว แต่สึรุกิก็เป็นนักคุณไสยไม่ใช่หรอ
ยูกะ : พี่ชายฉัน มีร่างกายพิเศษ เขาไม่มีพลังอาคม (เหมือนมาคิ และโทจิ) แต่สามารถใช้อาวุธต้องสาปได้
มารุ : แบบนี้ก็ไม่ดีสิ ฉันอยากช่วยเด็กคนนั้นนะ
แล้วมารุก็บอกให้ยูกะ เข้าไปช่วยพี่ชาย
ภาพตัดมายังสึรุกิ กับคนที่ลักพาตัวเด็ก ๆ คนที่ลักพาตัวเด็กบอกกับสึรุกิว่าเขาใช้พลังอาคมกางม่านแล้วกล่าวเยินยอตัวเองว่าใช้เทคนิคได้ดี แต่สึรุกิบอกว่าการที่มากางม่านใจในเมืองเกียวโต ที่เต็มไปด้วยนักคุณไสยเป็นการกระทำที่โง่มาก
คนก่อเรื่องบอกว่า เขาจะเลิกการค้ามนุษย์ แล้วถามสึรุกิว่า
ในฐานะที่เป็นนักคุณไสยน่าจะพอได้ยินมาบ้างว่าตอนนี้มีมนุษย์จากต่างดาวมายังโลก ประมาณ 40 ตัว สึรุกิไม่เชื่อ
คนก่อเรื่องจึงบอกว่า เมื่อ 68 ปีก่อนมีเกมจรดลล้างบางเกิดขึ้น มันกลายเป็นชนวนให้เกิดสนธิสัญญากัน แล้วผู้ใช้คุณไสยผู้มีชื่อเสียงและแข็งแกร่งอย่างโกะโจ และ ยูจิ เป็นคนหยุดเหตุการณ์นั้น จนบัดดี้คนแบบนั้นยังมีอยู่ในญี่ปุ่นหรือเปล่า? หลังจากนั้นคุณค่าของคนญี่ปุ่นตกต่ำลงมา แต่ดันเป็นข้อดีของวงการค้ามนุษย์
สึรุกิ : ไม่ฆ่าฉัน เพราะจะเอาไปขายทำกำไรงั้นหรอ
คนก่อเรื่อง : เด็กพวกนั้นฉันแพคใส่คลังไว้หมดแล้ว อาคมของแกดูอ่อนแอมาก แต่ในเมื่อเป็นนักคุณไสย แกจะถูกเอาไปประมูลขาย บอกตรามตรงว่าฉันเบื่อมาก อาคมของแกมันน่ารำคาญ แถมไร้จินตนาการ แล้วก็พูดมากเกินไป
สึรุกิ : ไม่ใช่ว่าฉันกับแกอยู่ระดับเดียวกันหรอกหรอ ผู้ใหญ่ที่ทำงานก็ไม่ได้แบบแกน่าสงสารจะตายชัก เด็ก ๆ น่ะมีดีกว่าเยอะเลย
คนก่อเรื่อง : ทำเป็นเก่งนักนะ
แล้วคนก่อเรื่องก็เตะหน้าสึรุกิไปหนึ่งที แล้วบอกว่าต่อให้แหกปากไป ที่แห่งนี้ยังไงก็ไม่มีคนเข้ามาช่วย
แต่แล้วประตูที่ปิดอยู่ก็พัง ด้วยการพุ่งเข้ามาของยูกะ และมารุ ที่เข้ามายังที่นี่ได้เป็นเพราะการช่วยเหลือของมารุด้วยเทคนิคการค้นหา (เป็นพลังที่สามารถตามหาคนที่คล้าย หรือกลมกลืนกันได้) ยูกะ และมารุกล่าวกับคนก่อเรื่องว่า ให้ยอมแพ้ไปซะ แล้วคืนเด็ก ๆ มา แล้วก็สู้กัน แต่คนที่ยูกะไปสู้ด้วยดันเป็นพี่ชายตัวเอง 5555 ยูกะใช้พลังอาคมที่ดูเหมือนจะเป็นการต่อสู้ระยะประชิด แบบโทโด (แต่มีกรงเล็บ) แล้วพอสู้กับพี่ชาย ก็เหมือนจะสู้ไม่ไหว เธอจึงยอมรับว่าพี่เธอเก่งมาก
[Spoil] Jujutsu Kaisen _ Spin-off [ Mojuro ] Chapter 1
รายละเอียด : Moduro จะต่อจาก JJK เนื้อเรื่องหลักโดยพระเอก (ตัวนำเรื่อง) คือหลานของยูตะ
เหมือนจะคอนเฟิร์มแล้วว่า ยูตะ กับมาคิ แต่งงานกันนะ
มีแพลนเขียน 3 เล่มจบ ประมาณ 6 เดือนต่อจากนี้
หลานยูตะ
OKKOTSU YUUKA : อคคทสึ ยูกะ
OKKOTSU TSURUGI อคคทสึ ทซึรูกิ
บันทึก - ชั้นบรรยากาศตอนบน
ปี ค.ศ. 2086, เนวาดา
ระดับความสูง 30,000 เมตร
สิ่งมีชีวิตจากต่างดาวที่เรียกตัวเองว่า ชาวซิมูเรีย
ปรากฏขึ้นพร้อมกับยาน นานักซ์ (Naunax)
ที่บรรทุกเพื่อนร่วมเผ่าประมาณ 50,000 ชีวิต มาขอความคุ้มครองในฐานะผู้ลี้ภัย
ตัวละคร 1 - ญี่ปุ่นหรอ?
งั้นหรอ...ไม่ใช่ว่าประเทศที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกคืออเมริกาหรอกหรือ?
ตัวละคร 2: มันก็ใช่ แต่ว่าอเมริกาบอกว่าหน้าที่ทางการทูตทั้งหมดเป็นของญี่ปุ่นน่ะนะ
??? : เข้าใจแล้ว
??? : คิดอะไรออกแล้วงั้นสิ?
คนที่มีสามตา : ดูเหมือนมันจะคล้ายกับเรา
มีเผ่าหนึ่งในญี่ปุ่นที่มีพลังคล้ายกับเรา
??? : ว่าไงนะ!?
ยูตะ : นี่แหวน -- ยูกะเก็บไว้นะ
ยูกะ : มันจะดีหรอคะ
ยูตะ : ก็อยากได้ไม่ใช่หรอ
ยูกะ : แต่นี่เป็นของ...
ยูตะ : มันก็ใช่ แต่หลานน่ะซนเกินไปหน่อยนะ
อดห่วงไม่ได้ ก็จนกว่าเธอจะกลายเป็นนักคุณไสยที่เก่งกาจ
แหวนวงนี้จะคอยดูหลานไว้ รักษาให้ดี
ยูกะ : สัญญาค่ะ จะรักษาอย่างดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Okkotsu Yuuka, ตอนอายุ 10 ปี
ตั้งแต่คุณย่ามาคิตาย ยูกะก็เหมือนจะเริ่มสูญเสียพลังวิญญาณลงเรื่อย ๆ
โกวตะ : ไม่ใช่แค่ยูกะหรอก ไม่มีใครคิดว่าคุณมาคิจะจากไปคนแรกนี่น่ะ
ยูกะ : หนูจะแข็งแกร่งให้เหมือนคุณปู่
--------
Okkotsu Tsurugi , ตอนอายุ 11 ปี
พี่ชายของยูกะ ได้รับแหวนที่ยูตะเคยมอบให้ยูกะ โดยสึรุกิ บอกกับน้องสาวว่าเขาไม่ใช่ผู้ตัดสินใจจะเอาแหวนวงนี้มาสักหน่อย
แต่ใคร ๆ ก็พูดกันว่าแหวนนี้เหมาะกับสึรุกิ มากกว่า ทางด้านยูกะก็ร้องไห้เพราะรู้สึกเหมือนโดนแย่งแหวนไป
ยูกะจึงปฎิญาณไว้ว่า เธอจะต้องแข็งแกร่งจนทุกคนยอมรับให้ได้ว่าเธอเหมาะสมกับแหวนวงนี้
--------
ภาพตัดมาปีปัจจุบัน
เราจะเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กคนนึง และผู้ชายที่อายุเยอะกว่า กำลังคุยกันเรื่องเกมยุคเก่า
ก่อนที่ภาพจะตัดไปหา ยูกะ และ สึรุกิ ที่ตอนนี้โตพอจะออกไปทำงานที่ต้องใช้อาคมได้แล้ว
ปัจจุบันมีรายงานว่าเด็กหาย หรือเหตุลักพาตัวเด็กบ่อยครั้ง และดูเหมือนจะมีนักคุณไสยเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
โดยพวก ยูกะ และ สึรุกิ ต้องเป็นคนออกไปหาเบาะแส และรายงานกลับมา
ซึ่งผู้ช่วยสอบสวนคือ Maruru Var Vru Yelvri (อ่านว่าไรแม่) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า มารุ ก็ได้
ยูกะ : นักอาคมชาวต่างชาติหรอ แปลกแหะ
มารุ : ทำไมถึงแปลกล่ะ?
ยูกะ : ปกติ พลังคำสาปเป็นเรื่องเฉพาะของคนญี่ปุ่น เพราะคำสาปมาจากอารมณ์
นักคุณไสยจึงมักเกิดแค่ในญี่ปุ่นเท่านั้น แน่นอนว่าก็มีข้อยกเว้นอย่างเช่นคุณแหละนะ
มารุ : เข้าใจแล้ว เพราะงั้นการลักพาตัวคนญี่ปุ่นก็น่าจะมีเป้าหมายเพื่อใช้พลังคำสาป/อาคม ถูกต้องไหม
ผู้ชายอีกคน : ก็นะ ในการค้ามนุษย์แบบนี้ คนญี่ปุ่นมีค่าสูงมาก และจะถูกแลกเปลี่ยนในราคาที่สูง
สึรุกิ : เดี๋ยวนะ หมอนี่ไม่รู้กระทั่งเรื่องแค่นี้ ฉันเริ่มจะห่วงเรื่องภารกิจนี้ซะแล้วสิ
ยูกะ : นี่ไม่ใช่งานปราบคำสาปใหญ่โตอะไรนี่นาก็แค่การสืบสวนใช่ไหม? ไม่เป็นไรหรอก เราไม่ได้ต้องไปสู้กับ “ผู้ใช้คำสาป” สักหน่อย
ยูกะ : ผู้ใช้...คำสาป?
มารุ : จูจุทสึ ไม่ใช่นักคุณไสยหรอ แล้วอะไรคือจูจุทสึ?
สึรุกิเริ่มทะเลาะกับยูกะ เรื่องที่จะต้องพามารุไปด้วย เพราะมารุที่มาจากนอกโลกก็ไม่รู้อะไรเลย แบบไม่รู้เลย 5555 แล้วสึรุกิ ก็หันไปตอบใส่มารุว่า จุจุทสึก็คือนักคุณไสยนั่นแหละ ยูกะจึงด่าทั้งสองคนว่าเสียงดัง แล้วถ้ายังเสียงดังแบบนี้จะทิ้งไว้ที่นี่แหละ มารุจึงคิดในใจว่าป่าเถื่อนมาก 555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผู้ชายอีกคนที่มาด้วยจึงอธิบายว่า มารุมาที่นี่เพื่อดูว่านักคุณไสยที่ญี่ปุ่นเป็นอย่างไร ในฐานะประเทศผู้ลงนาม
มารุ : [ฉันจะะคอยดูพวกแกไว้ มนุษย์โลกผู้มีพลังคล้ายกันกับเรา]
มารุ : ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นไม่ต้องมาพึ่งพาฉัน ฉันได้รับคำสั่งว่าไม่ให้เข้าไปยุ่ง
พอได้ยินแบบนั้น ยูกะก็ตั้งท่าจะทิ้งมารุไว้ข้างหลัง เพราะถ้าพึ่งพาไม่ได้ ก็เกะกะเปล่า ๆ 5555
มารุนั่งซึมแล้วบอกว่ายูกะทำเกินไป แล้วยูกะก็พาไปกินทาโกะยากิ ซึ่งมารุบอกว่ามันอร่อยมาก ยูกะจึงบอกว่ามารุต้องจ่ายตังค์คืนเธอด้วย
แน่นอนว่ามารุงงแล้วบอก คืนอะไร ต้องทำทาโกะคืนให้หรอ แล้วยูกะก็บอกว่ามารุเหมือนพี่ชายเธอไม่มีผิด
สึรุกิก็เอาของสำคัญของเธอไป มารุถามว่าสิ่งนั้นคืออะไรเธอจึงบอกว่าแหวนของคุณปู่ที่มอบให้เธอ
บัดนี้มันแขวนอยู่ที่คอของพี่ชายเธอแล้ว แหวนวงนั้นเป็นสมบัติล้ำค่าของตระกูลโกะโจ
และจะถูกมอบให้กับนักคุณไสย์ที่เก่งกาจกว่าใคร ๆ ก่อนหน้านี้มันถูกมอบให้เธอ แต่ภายหลังมันถูกเอาไปให้กับพี่ชายเธอแทน
มารุ : งั้น สึรุกิ ก็เป็นนักคุณไสยที่เก่งกาจขนาดนั้นเลยหรอ
ยูกะ : ไม่ใช่อยู่แล้ว มีคนบอกว่าฉันกับเขาความสามารถเท่า ๆ กัน เขาไม่เคยมีความทรงจำร่วมกับคุณปู่ด้วยซ้ำ
มารุจึงบอกว่า งั้นยูกะก็แสดงให้ทุกคนเห็นไปสิ ว่าตัวเธอเองเหมาะสมกับแหวนวงนั้น ถ้าเกิดว่าทำภารกิจนี้คนเดียวจนสำเร็จยูกะก็จะถูกมองว่า เก่งกาจ
ส่วนมารุจะช่วยให้ยูกะประสบความสำเร็จ หากภารกิจไม่ต้องถึงขั้นใช้อาคมเขาก็จะไม่โดนว่า แล้วทั้งคู่ก็เริ่มตามหาเบาะแส มารุพายูกะเดินมาที่ทาง ๆ หนึ่ง
สึรุกิ : เฮ้ ไปมัวขี้เกียจกันอยู่ที่ไหนมาล่ะเนี่ย
มารุ : นี่ลืมไปแล้วใช่ไหม ว่าก็เคยทิ้งฉันไว้
สึรุกิ : สังเกตุเห็นแล้วใช่ไหม ม่านนี่น่ะ ถ้าเธอเดินดุ่ม ๆ ไปตามทางแบบนั้น เธอจะถูกจับได้
มารุ : นายมองเห็นด้วยหรอ
สึรุกิ : อะไรนะ ? ฉันขอหยิบเครื่องมือบางอย่างก่อน
มารุ : ขอโทษนะ ยูกะ (ที่พามาทางนี้)
ยูกะ : ไม่หรอก มันไม่ใช่ความผิดนาย กังวลเกินไปหรือเปล่าเนี่ย
มารุ : ฉันก็มีพี่ชายเหมือนกัน เป็นแฝดน่ะ
ยูกะ : แฝดหรอ !
มารุ : แต่เราไม่ได้สนิทกันน่ะ ฉันก็พยายามจะสนิทด้วยหลายครั้งแล้วแหละ แต่ไม่ได้ผลอะ
ยูกะ : แล้วเหตุผลที่ไม่ชอบกันล่ะ
มารุ : ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เหมือนเขาจะหงุดหงิดที่เห็นฉันดูปวกเปียกล่ะมั้ง
ยูกะกล่าวต่อว่าได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกเศร้าใจแทน มารุจึงบอกว่ามันเจ็บปวดที่ไม่เข้าใจแฝดตัวเอง ก็คือไม่มีใครเข้าใจพี่ชายฝาแฝดของเขา พอคิดแบบนั้นแล้วความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นมันก็คงอยู่ตลอดไป แล้วก็แย่ลงเรื่อย ๆ พอคิดว่ามันคงจะลำบากมากถ้าใครสักคนมีจุดจบแบบมารุ (เรื่องพี่น้อง) เพราะงันก็เลยอยากแก้ปัญญหาเรื่องแหวนของยูกะ และทำให้พี่ชายเธออยู่ด้วยกันกับยูกะ ยูกะบอกว่าแม้ว่ามารุจะเจอเรื่องไม่ค่อยดีไม่ได้แปลว่ามันจะเกิดขึ้นกับเธอและพี่ชาย
มารุ : เธอก็พูดจาอ่อนหวานกว่านี้ไม่ได้หรอ
ยูกะ : จนกว่าฉันจะได้แหวนคืน ฉันไม่แคร์อะไรเกี่ยวกับพี่ชายเลยสักอย่างเดีบว
สึรุกิ : ถ้าฉันเดาไม่ผิด เส้นทางเริ่มต้นตรงนี้ เพราะงั้นเรามาปิดทางกันเถอะ
ในขณะที่พวกเขากำลังเอาสายคาดมากั้นทาง ก็มีเด็กคนนึงวิ่งเข้าไป และก็มีมือใหญ่มือนึงโผล่มาจากความมืด
และจับตัวเด็กคนนั้นไป สึรุกิจึงรีบบอกให้ยูกะ และ มารุ กลับไปรายงานแล้วเขาจะเป็นคนตามหาเด็ก ยูกะบอกจะไปด้วย แต่มารุไม่ไป
สักพักเราจะเห็นว่าดาบของสึรุกิตกอยู่ ยูกะจึงอธิบายว่า ม่านนี้กันผู้ที่มีพลังอาคมระดับนึง เพราะงั้นเราจึงต่อสู้ไม่ได้จากตรงนี้
มารุ : อ้าว แต่สึรุกิก็เป็นนักคุณไสยไม่ใช่หรอ
ยูกะ : พี่ชายฉัน มีร่างกายพิเศษ เขาไม่มีพลังอาคม (เหมือนมาคิ และโทจิ) แต่สามารถใช้อาวุธต้องสาปได้
มารุ : แบบนี้ก็ไม่ดีสิ ฉันอยากช่วยเด็กคนนั้นนะ
แล้วมารุก็บอกให้ยูกะ เข้าไปช่วยพี่ชาย
ภาพตัดมายังสึรุกิ กับคนที่ลักพาตัวเด็ก ๆ คนที่ลักพาตัวเด็กบอกกับสึรุกิว่าเขาใช้พลังอาคมกางม่านแล้วกล่าวเยินยอตัวเองว่าใช้เทคนิคได้ดี แต่สึรุกิบอกว่าการที่มากางม่านใจในเมืองเกียวโต ที่เต็มไปด้วยนักคุณไสยเป็นการกระทำที่โง่มาก
คนก่อเรื่องบอกว่า เขาจะเลิกการค้ามนุษย์ แล้วถามสึรุกิว่า
ในฐานะที่เป็นนักคุณไสยน่าจะพอได้ยินมาบ้างว่าตอนนี้มีมนุษย์จากต่างดาวมายังโลก ประมาณ 40 ตัว สึรุกิไม่เชื่อ
คนก่อเรื่องจึงบอกว่า เมื่อ 68 ปีก่อนมีเกมจรดลล้างบางเกิดขึ้น มันกลายเป็นชนวนให้เกิดสนธิสัญญากัน แล้วผู้ใช้คุณไสยผู้มีชื่อเสียงและแข็งแกร่งอย่างโกะโจ และ ยูจิ เป็นคนหยุดเหตุการณ์นั้น จนบัดดี้คนแบบนั้นยังมีอยู่ในญี่ปุ่นหรือเปล่า? หลังจากนั้นคุณค่าของคนญี่ปุ่นตกต่ำลงมา แต่ดันเป็นข้อดีของวงการค้ามนุษย์
สึรุกิ : ไม่ฆ่าฉัน เพราะจะเอาไปขายทำกำไรงั้นหรอ
คนก่อเรื่อง : เด็กพวกนั้นฉันแพคใส่คลังไว้หมดแล้ว อาคมของแกดูอ่อนแอมาก แต่ในเมื่อเป็นนักคุณไสย แกจะถูกเอาไปประมูลขาย บอกตรามตรงว่าฉันเบื่อมาก อาคมของแกมันน่ารำคาญ แถมไร้จินตนาการ แล้วก็พูดมากเกินไป
สึรุกิ : ไม่ใช่ว่าฉันกับแกอยู่ระดับเดียวกันหรอกหรอ ผู้ใหญ่ที่ทำงานก็ไม่ได้แบบแกน่าสงสารจะตายชัก เด็ก ๆ น่ะมีดีกว่าเยอะเลย
คนก่อเรื่อง : ทำเป็นเก่งนักนะ
แล้วคนก่อเรื่องก็เตะหน้าสึรุกิไปหนึ่งที แล้วบอกว่าต่อให้แหกปากไป ที่แห่งนี้ยังไงก็ไม่มีคนเข้ามาช่วย
แต่แล้วประตูที่ปิดอยู่ก็พัง ด้วยการพุ่งเข้ามาของยูกะ และมารุ ที่เข้ามายังที่นี่ได้เป็นเพราะการช่วยเหลือของมารุด้วยเทคนิคการค้นหา (เป็นพลังที่สามารถตามหาคนที่คล้าย หรือกลมกลืนกันได้) ยูกะ และมารุกล่าวกับคนก่อเรื่องว่า ให้ยอมแพ้ไปซะ แล้วคืนเด็ก ๆ มา แล้วก็สู้กัน แต่คนที่ยูกะไปสู้ด้วยดันเป็นพี่ชายตัวเอง 5555 ยูกะใช้พลังอาคมที่ดูเหมือนจะเป็นการต่อสู้ระยะประชิด แบบโทโด (แต่มีกรงเล็บ) แล้วพอสู้กับพี่ชาย ก็เหมือนจะสู้ไม่ไหว เธอจึงยอมรับว่าพี่เธอเก่งมาก