JJNY : ปชน.แถลง ยุบสภาอยู่กับพท.│ปชน.ถกต่อโหวตนายกฯวันนี้ “ไอติม”เผยกังวล 2 ปม│ปริญญายันรธน.ไม่ห้าม│ชี้ทั่วไทยฝนยังหนัก

ปชน. ร่อนแถลง อำนาจยุบสภา อยู่กับพท. หากไม่ทำ จำเป็นต้องเดินหน้า คืนอำนาจให้ปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5350109
.

.
ปชน. ร่อนแถลง อำนาจยุบสภา อยู่กับพท. หากไม่ทำ จำเป็นต้องเดินหน้า คืนอำนาจให้ปชช.
.
เมื่อวันที่ 1 กันยายน หลังจากส่งข้อความถึง สมาชิกพรรค ผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้ง LineOA และ SMS สอบถามความคิดเห็นทิศทางการจัดตั้งรัฐบาล ล่าสุด พรรคประชาชน ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กทางการ ว่า 
.
“อำนาจอยู่ที่รัฐบาลเพื่อไทย ถ้าจะยุบสภา ยุบได้เลย หากไม่ชัดเจน พรรคประชาชนจำเป็นต้องเดินหน้าผลักดันให้อำนาจตัดสินใจกลับสู่ประชาชนโดยเร็วที่สุด”
.
ความว่า “วันนี้ชัดเจนแล้วว่าประชาชนต้องการการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่พรรคประชาชนเสนอต่อสังคมมาโดยตลอด นับแต่วันที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงระหว่างแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ ฮุน เซน ว่าการยุบสภาคือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ เป็นการคืนอำนาจให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกรัฐบาลใหม่ที่มีความชอบธรรม มีเสถียรภาพ และมีศักยภาพในการแก้ปัญหาสำคัญของประเทศ
.
ดังนั้น กรณีที่วันนี้ (1 ก.ย.) ตัวแทนพรรคเพื่อไทยให้ความเห็นว่าหากพรรคประชาชนไม่สามารถตัดสินใจเลือกพรรคใดพรรคหนึ่งได้ อาจดำเนินการยุบสภานั้น พรรคประชาชนมีความเห็นดังนี้
.
(1) ถ้าพรรคเพื่อไทยจะยุบ ยุบได้เลย ด้วยอำนาจรัฐบาลรักษาการที่มีอยู่ พรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องรอให้พรรคประชาชนตัดสินใจ ก็สามารถดำเนินการยุบสภาได้
(2) ถ้าเพื่อไทยไม่ทำ พรรคประชาชนต้องหานายกฯ มาทำภารกิจยุบสภา และทำประชามติเปิดทางไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่
.
พรรคประชาชนขอยืนยันอีกครั้ง ตลอดกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา เรายืนอยู่จุดเดิมว่าสิ่งที่จะเป็นทางออกของประเทศคือการจัดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว เราเรียกร้องให้มีการยุบสภามาอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ผู้มีอำนาจในเวลานั้น ไม่ว่าจะเป็นอดีตนายกฯ แพทองธาร หรือ ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ ไม่ได้ตอบสนอง ไม่ได้ดำเนินการยุบสภา
.
ดังนั้นพรรคประชาชนจึงต้องตัดสินใจว่าจะสามารถใช้เสียง สส. ของเราทั้ง 143 เสียงในสภาอย่างไร เพื่อเลือกนายกฯ มายุบสภาผ่าทางตันประเทศ นำไปสู่การเลือกตั้งพร้อมกับการจัดประชามติเปิดทางสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง โดยเร็วที่สุด
.

.
ปชน.ถกต่อโหวตนายกฯวันนี้ “ไอติม” เผยกังวล2ปม “แดงรวมน้ำเงิน-ไหลรวมนอกระบอบปชต.”
.
ปชน.ถกต่อโหวตนายกฯวันนี้ “ไอติม” เผยกังวล2ปม “แดงรวมน้ำเงิน-ไหลรวมนอกระบอบปชต.”
.
เมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคประชาชน (ปชน.) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค ปชน. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ส.ส.นัดพิเศษ เพื่อหาข้อสรุปในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ว่า การประชุม ส.ส.เข้าร่วม 90 กว่าคน หรือ 90% เพราะมี สส.หลายคนติดภารกิจล่วงหน้า
.
ความเห็นในที่ประชุมหลากหลายมาก หลายคนแสดงความเห็นด้วยความหนักใจ เราสรุปว่าประชุมต่อในวันพรุ่งนี้(2ก.ย.) เพื่อให้ สส.ตกผลึก แสดงความเห็นเพิ่มเติม และนำความเห็นของ ส.ส.มาประกอบกับความเห็นทุกภาคส่วนของพรรค ทั้งทีมเครือข่าย และอื่น ๆ นี่คือข้อสรุป” นายพริษฐ์ กล่าว
.
ณ เวลานี้ ไม่มีกลุ่มใดได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง ต้องคิดต่อว่า หากเรางดออกเสียง จะเกิดอะไรขึ้น เราก็มองไปถึงความน่ากังวล 2 ประการด้วยกัน ความน่ากังวล
1. ปัจจุบันที่แดงกับน้ำเงินรวบรวมเสียงไม่เกินกึ่งหนึ่ง แดงน้ำเงินไหลกลับไปรวมกัน กังวลเพราะจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก มีแนวโน้มอยู่ครบวาระไปอีกเกือบ 2 ปี ขัดกับจุดยืนของเราที่ต้องการเลือกตั้งโดยเร็ว
.
2.หากแดงน้ำเงินไม่ไหลไปรวมกัน อาจไหลไปจากนอกระบอบประชาธิปไตย ไม่ส่งผลดีต่อการเมืองไทย เราเข้าใจดีถึงความรู้สึกหลายคนว่า เราอยู่เฉยจะได้หรือไม่ หากสมมติรักษาการนายกฯไม่ยุบสภา หากเราไม่ทำอะไร ก็เสี่ยงว่า 2 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ไม่ส่งผลดีต่อประเทศ ” นายพริษฐ์ กล่าว
.

.
ปริญญา ยันรธน.ไม่ห้าม รักษาการนายกฯ ยุบสภา แต่ไม่ควรทำ ในช่วงเลือกนายกฯใหม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_5350013
.
ปริญญา เขียน 6 ข้อ ยันรธน.ไม่ห้าม รักษาการนายกฯ ยุบสภา แต่ไม่ควรทำ ในช่วงกำลังเลือกนายกฯใหม่
.
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อเขียน เรื่อง [ สภาผู้แทนราษฎรกำลังจะมีการเลือกนายกคนใหม่ รักษาการนายกยุบสภาได้หรือไม่? ] ผ่านเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาดังนี้
.
เรื่อง รักษาการนายกยุบสภาได้หรือไม่ นั้น ผมได้เคยเขียนให้ความเห็นไปครั้งหนึ่ง แต่ด้วยเวลาจำกัดจึงใช้ถ้อยคำที่รวบรัด และไม่ได้กล่าวถึงประเด็นสำคัญให้ครบถ้วน หลังจากอ่านความเห็นของนักวิชาการท่านต่างๆ ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ถ้าจะเขียนในเรื่องนี้อีกครั้ง โดยนำบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องมากล่าวถึงให้ครบถ้วน ดังนี้ครับ
.
1.เรื่องการยุบสภานั้น รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 บัญญัติไว้ในมาตรา 103 ว่า “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอํานาจที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป“ โดยการยุบสภา “ให้กระทําโดยพระราชกฤษฎีกา“ ทั้งนี้ มาตรา 103 มิได้บัญญัติไว้ว่าใครเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ หรือใครจะเป็นผู้ทูลเกล้า
.
2.ในเรื่องการตราพระราชกฤษฎีกานั้น มาตรา 175 บัญญัติว่า “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอํานาจในการตราพระราชกฤษฎีกาโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย” ทั้งนี้ มาตรา 175 อยู่ในหมวดคณะรัฐมนตรี จึงเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรีในการทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาให้ทรงลงพระปรมาภิไธย เมื่อนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรี อำนาจในการทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาให้ยุบสภาจึงเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีนั่นเอง
.
3.โดยที่การยุบสภานั้น รัฐธรรมนูญห้ามไว้แต่เพียงเมื่อมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว (มาตรา 151 วรรคสอง) และการยุบสภาทำได้ครั้งเดียวในเหตุการณ์เดียวกัน (มาตรา 103 วรรคสอง) การยุบสภาในขณะนี้จึงไม่มีบทบัญญัติใดในรัฐธรรมนูญห้ามไว้
.
4.แต่ขณะนี้ไม่มีนายกรัฐมนตรี คำถามคือรักษาการนายกรัฐมนตรีจะทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาให้ทรงยุบสภาได้หรือไม่? ต้องไปดูอีกมาตราหนึ่งคือ มาตรา 182 ซึ่งบัญญัติว่า “… พระบรมราชโองการอันเกี่ยวกับราชการแผ่นดิน ต้องมีรัฐมนตรีลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ เว้นแต่ที่มีบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นในรัฐธรรมนูญ” มาตรานี้อยู่ในหมวดคณะรัฐมนตรี จึงเป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีที่จะทูลเกล้าดังที่ได้กล่าวไป และเมื่อทรงโปรดเกล้า นายกรัฐมนตรีก็จะเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ และเป็นผู้รับผิดชอบต่อการยุบสภานั้น (ตามหลัก The King Can Do No Wrong หรือพระมหากษัตริย์ไม่อาจทรงกระทำผิด เพราะคนรับผิดชอบคือนายกที่ทูลเกล้าและลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ)
.
ประเด็นสำคัญคือ มาตรา 182 ใช้คำว่า ”รัฐมนตรี“ มิได้ใช้คำว่านายกรัฐมนตรี อีกทั้งรัฐธรรมนูญก็มิได้มีการบัญญัติเรื่องนี้ไว้ที่ใดเป็นอย่างอื่น รัฐมนตรีที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี จึงมีอำนาจในการทูลเกล้าพระราชกฎษฎีกาให้ทรงยุบสภาได้
.
5.ประเด็นต่อมาคือ แล้วรักษาการนายกรัฐมนตรีควรจะทูลเกล้าให้ทรงยุบสภาในขณะนี้หรือไม่? (คือทำได้ แต่ควรหรือไม่) ประเด็นนี้ผมได้เคยให้ความเห็นว่า ขณะนี้เป็นเรื่อง นายกรัฐมนตรีพ้นตำแหน่ง (เช่นเดียวกับ ตาย ลาออก หรือสภาผู้แทนลงมติไม่ไว้วางใจ) และ สภาผู้แทนกำลังจะเลือกนายกคนใหม่ จึงไม่ควรมีการดำเนินการยุบสภา ต่อเมื่อสภาผู้แทนไม่อาจเลือกนายกคนใหม่ได้ จึงค่อยยุบสภาคืนอำนาจตัดสินใจให้ประชาชนครับ
6.คำถามต่อมาคือ หากว่ารักษาการนายกรัฐมนตรีทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาให้ทรงยุบสภา พระมหากษัตริย์ทรงต้องโปรดเกล้าหรือไม่? ในเรื่องนี้รัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติไว้ครับ เท่าที่ผมทราบก็ไม่เคยเกิดปัญหานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีรักษาการนายกทูลเกล้าให้ทรงโปรดเกล้ายุบสภาในขณะที่สภากำลังเลือกนายกคนใหม่ เป็นเรื่องที่ยังไม่เคยเกิดครับ
.
สรุปคือ ในประเด็นที่ว่ารักษาการนายกยุบสภาได้หรือไม่? จริงๆ ถ้าว่ากันตามรัฐธรรมนูญต้องตั้งประเด็นใหม่ให้ถูกต้องว่า รักษาการนายกมีอำนาจทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกาเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยยุบสภาหรือไม่? ซึ่งคำตอบก็คือ ไม่มีตรงไหนที่รัฐธรรมนูญห้ามไว้ว่าทูลเกล้าไม่ได้ครับ แต่ควรหรือไม่ควรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อันเป็นเรื่องในทางการเมือง ถ้ารักษาการนายกของพรรคเพื่อไทยทูลเกล้ายุบสภา ก็เข้าใจได้ว่าเพราะพรรคเพื่อไทยไม่ต้องการให้พรรคภูมิใจไทยเป็นนายก และตนเองต้องเป็นฝ่ายค้าน จึงเลือกไปเสี่ยงเอาดาบหน้าในการเลือกตั้ง ซึ่งก็เป็นความรับผิดชอบทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยครับ
.
ซึ่งผมเห็นไปในทางว่าไม่ควรยุบสภาในขณะนี้ ก็เพราะสภากำลังเลือกนายกคนใหม่ หากสภาเลือกนายกคนใหม่ไม่สำเร็จ รักษาการนายกถึงค่อยทูลเกล้าพระราชกฤษฎีกายุบสภาเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจว่าใครจะเป็นนายกคนใหม่ครับ
.
ที่นักวิชาการเห็นต่างกันว่า ยุบได้ หรือยุบไม่ได้ จริงๆ แล้วส่วนหนึ่งเพราะมันพันกันอยู่ระหว่างทำได้หรือทำไม่ได้ กับควรทำหรือไม่ควรทำครับ ซึ่งผมเห็นว่าการถกเถียงกันนี้เป็นเรื่องที่มีประโยชน์ที่ทำให้สาธารณชนช่วยกันทำความเข้าใจในเรื่อง ระบบรัฐสภา ของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหาษัตริย์ทรงเป็นประมุข (Constitutional Monarchy) ของประเทศไทยครับ
.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่