JJNY : 5in1 ปชน.เสียงแตกวุ่น│พริษฐ์ลั่นไม่ไว้ใจ ทั้งพท-ภท.│ศิธาซัดพท.│ชูวิทย์ลั่นไม่เกินคาด│ชี้ "พท."ขู่ยุบสภาแต่หนาวเอง

ปชน.เสียงแตกวุ่น ปิดห้องถกเดือด 3 ทางเลือก โหวตนายกฯ-ยุบสภา ส่อไม่จบ

.
เท้ง ย้ำ ทั้งองคาพยพ ปชน. ต้องเลือก นายกฯ ใหม่ ภายใต้โจทย์การเมืองประเทศ ขณะที่ประชุม ยังมีความเห็นหลากหลาย ทั้งเลือก ภท.-พท.-ไม่เลือกใคร
.
เมื่อวันที่ 1 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมพรรคประชาชน นำโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย ส.ส.และกรรมการบริหารพรรค ได้ร่วมแลกเปลี่ยนหารือเกี่ยวกับแนวทางการโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่จะยอมรับเงื่อนไขของพรรคประชาชน
.
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมยังมีความเห็นที่แตกต่างหลากหลาย ไม่ว่าการจะโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองใด ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ภายใต้โจทย์ของประเทศในสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงท่าทีความเห็นที่ระบุว่า จะไม่โหวตให้พรรคการเมืองใดเลยด้วย
.
นอกจากนี้ ยังพูดคุยกันถึงเรื่องข้อเสนอและเงื่อนไขของพรรค หากมีการตกลงกันได้กับพรรคการเมืองที่มีข้อตกลงร่วมกัน ก็จะนำไปสู่การลงในนามข้อตกลง
ทั้งนี้ ในการประชุม ทั้ง ส.ส.และกรรมการบริหารพรรค ได้มาร่วมประชุมกันเกือบแน่นห้อง ที่บริเวณชั้น 7 ของอาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคประชาชน แต่จากจำนวน ส.ส.ของพรรคประชาชน 143 คน ไม่ได้มาประชุมครบทั้งหมด เนื่องจากมีบางส่วนต้องไปปฏิบัติภารกิจของกรรมาธิการในต่างจังหวัด และยังคงลงพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งแหล่งข่าวภายในพรรคยืนยันว่า ในการประชุม ส.ส.ของพรรคในช่วงบ่ายวันที่ 2 ก.ย.นี้จะมากันครบ
.

.
ปชน. ยังไร้ข้อสรุป นัดต่อพรุ่งนี้ พริษฐ์ ลั่นไม่ไว้ใจ ทั้งพท-ภท. ท้ารักษาการนายกฯยุบสภาได้เลย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5349841
.
ปชน. ประชุม ส.ส.วันแรก ยังไร้ข้อสรุป นัดต่อพรุ่งนี้ พริษฐ์ ลั่นไม่ไว้ใจ ‘เพื่อไทย-ภูมิใจไทย’ ทั้งคู่ ท้ารักษาการนายกฯยุบสภา ผ่าทางตันได้เลยตอนนี้
.
เมื่อเวลา17.25น. วันที่ 1 กันยายน 2568 ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคประชาชน (ปชน.) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค ปชน. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม สส.นัดพิเศษ เพื่อหาข้อสรุปในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ว่า
.
ในวันนี้ถือว่าจบการประชุม สส.วันนี้แล้ว มี สส.เข้าร่วม 90 กว่าคน หรือ 90% เพราะมี สส.หลายคนติดภารกิจล่วงหน้า ทั้ง กมธ. และในพื้นที่ เพราะเป็นการประชุมพิเศษในวันจันทร์ ความเห็นในที่ประชุมหลากหลายมาก หลายคนแสดงความเห็นด้วยความหนักใจ เราสรุปว่าประชุมต่อในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้ สส.ตกผลึก แสดงความเห็นเพิ่มเติม และนำความเห็นของ สส.มาประกอบกับความเห็นทุกภาคส่วนของพรรค ทั้งทีมเครือข่าย และอื่น ๆ นี่คือข้อสรุปวันนี้
นายพริษฐ์ กล่าวว่า มี 2 ประเด็นที่พูดคุยกันค่อนข้างชัดเจนมากคือ
.
1. เรายืนหยัดจุดยืนเดิมว่า สิ่งที่ตอบโจทย์ประเทศคือการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว
.
2. เราเรียกร้องให้ยุบสภาฯโดยตลอด ตั้งแต่เกิดเหตุคลิปเสียง เพียงแต่ผู้มีอำนาจ ไม่ว่า น.ส.แพทองธาร หรืนายภูมิธรรม ไม่ตอบสนอง วันนี้เรายืนยันว่าการยุบสภาฯ ตอบโจทย์ประเทศ หากรักษาการนายกฯ มีอำนาจยุบสภาฯ ก็สอดคล้องกับจุดยืนของเรา เราก็พร้อมเลือกตั้ง และหากสมมติรักษาการนายกฯไม่ยุบสภา และไม่มีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่ง เราต้องใช้กระบวนการพิจารณาเลือกนายกฯคนใหม่ เพื่อนำไปสู่การยุบสภาฯ และเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว
.
“เข้าใจดีว่าทุกคนหนักใจไม่ว่า สส. หรือประชาชน หากไม่มียุบสภาฯก่อนหน้า บางคนมองว่าจำเป็นหรือไม่ หรืองดออกเสียง แต่เราพยายามคิดอีกมุมว่า หากสมมติไม่มีการยุบสภาฯเกิดขึ้นจริง และต้องเลือกนายกฯใหม่ ณ เวลานี้ ไม่มีกลุ่มใดได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง ต้องคิดต่อว่า หากเรางดออกเสียง จะเกิดอะไรขึ้น เราก็มองไปถึงความน่ากังวล 2 ประการด้วยกัน ความน่ากังวล
.
1. ปัจจุบันที่แดงกับน้ำเงินรวบรวมเสียงไม่เกินกึ่งหนึ่ง แดงน้ำเงินไหลกลับไปรวมกัน กังวลเพราะจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก มีแนวโน้มอยู่ครบวาระไปอีกเกือบ 2 ปี ขัดกับจุดยืนของเราที่ต้องการเลือกตั้งโดยเร็ว” นายพริษฐ์ กล่าว
.
นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า โดยอีก 2 ปีข้างหน้ากังวลอย่างไร ก็มองย้อนไป 2 ปีที่ผ่านมา ไม่มีนโยบายแก้ปัญหาให้ประชาชนมีประสิทธิภาพ ช่วงแดงน้ำเงินเป็นรัฐบาล คดีหลายอย่างถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง ยืนยันว่า สิ่งที่เราป้องกันแดงน้ำเงินกลับไปรวมกัน ทำประเทศเสียหาย ทั้งเชิงเลือกตั้งใหม่ช้าออกไป 2 ปี การมีนโยบายไม่ประสิทธิภาพ กระบนการยุติธรรมไม่ตรงไปตรงมา
.
โฆษกพรรค ปชน.กล่าวว่า 2.หากแดงน้ำเงินไม่ไหลไปรวมกัน อาจไหลไปจากนอกระบอบประชาธิปไตย ไม่ส่งผลดีต่อการเมืองไทย เราเข้าใจดีถึงความรู้สึกหลายคนว่า เราอยู่เฉยจะได้หรือไม่ หากสมมติรักษาการนายกฯไม่ยุบสภา หากเราไม่ทำอะไร ก็เสี่ยงว่า 2 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ไม่ส่งผลดีต่อประเทศ
.
เมื่อถามว่า ในวันที่ 2 ก.ย.จะมีคำตอบเลยหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้
.
ถามย้ำว่า ยังไม่ตกผลึกว่าจะเลือกฝั่งแดง หรือน้ำเงิน หรือยังไม่ตกผลึกว่าจะเลือก หรือไม่เลือก นายพริษฐ์ กล่าวว่า ในวันนี้มีการอภิปรายหลากหลายประเด็นมาก ความเห็นหลากหลายในหลายคำถาม คงไม่ได้สรุปเป็นประเด็นใดประเด็นหนึ่ง แต่พรุ่งนี้ประชุม สส.นัดเป็นปกติอยู่แล้ว คาดว่า สส.มาประชุมเพิ่มมากขึ้นมากกว่าวันนี้ ที่ประชุมกันทุกบ่ายวันอังคาร
.
เมื่อถามว่า ปชน.จะรอจนถึงกรอบวันโหวตนายกฯวันสุดท้ายเลยหรือไม่ ถึงตัดสินใจ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนว่า สภาฯนัดเมื่อไหร่ สิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยพิจารณา แม้ไม่มองปัจจัยนั้น ต้องมองว่าความเห็นที่ประชุมแตกต่างหลากหลายมาก
.
ถามย้ำว่าในวันที่ 2 ก.ย.จะมีมติพรรคเลยหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ แต่ตอบได้ว่าประชุมแน่นอน เชื่อว่า สส.มากันเกือบครบ หรือครบ เพราะประชุมประจำสัปดาห์ สส.อาจมีภารกิจในพื้นที่ขยับไม่ได้ อาจไม่ได้มาร่วมอภิปรายในวันนี้
.
ส่วนมีน้ำหนักหรือปัจจัยให้ขบคิดเข้มข้นคืออะไร โฆษกพรรค ปชน.กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดการอภิปรายหลากหลาย สังคมน่าจะพอคาดการณ์ได้ เพราะหลายความเห็นสอดคล้องกับที่สังคมแสดงความเห็นเช่นกัน สส.ต้องเป็นตัวแทนประชาชนในพื้นที่ เชิญชวนประชาชน และผู้สนับสนุนพรรค สามารถแสดงความเห็นกับ สส.ของเราได้ เขาก็จะเป็นคนนำความเห็นเหล่านั้นมาในที่ประชุม
.
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องหารือกับอีก 2 พรรคเพื่อดูเงื่อนไขอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ อย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า ไม่มี เราถือว่า 2 พรรคตอบรับเงื่อนไขของเรา
.
ซักอีกว่า ทำไมพรรคภูมิใจไทย บอกว่า ปชน.จะทำข้อตกลงกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว โฆษกพรรค ปชน.กล่าวว่า ต้องถามพรรคภูมิใจไทย ตนไม่ทราบ ต้องย้ำว่า จะไม่มีรัฐบาลไหนที่ตั้งขึ้นได้จากเงื่อนไขของ ปชน.มี สส. 280 เสียงอยู่แล้ว เราไม่ร่วมรัฐบาลพรรคไหน ตัวเลข สส.เราไม่รวมในรัฐบาลใด ไม่ว่าใครก็ตามอ้างเกินกึ่งหนึ่ง ไม่ใช่เป็นผลลัพธ์จาก ปชน.แน่นอน ผลลัพธ์เราคือชัดเจน รัฐบาลเสียงข้างน้อย สส.น้อยกว่า 246  เสียง
.
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยบอกยุบสภาน้อยกว่า 4 เดือน นายพริษฐ์ กล่าวว่า เงื่อนไขเราชัด คือการยุบสภาฯใน 4 เดือนกับการทำประชามติ เหตุผลที่ต้องวางไว้ 4 เดือนต้องรอดูว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ สั่งว่าทำประชามติกี่ครั้ง ถ้า 3 ครั้ง ก็จัดประชามติครั้งแรกทันที ไม่ต้องใช้เวลาถึง 4 เดือน แต่ถ้าบอกว่าทำ 2 ครั้ง ต้องแก้รัฐธรรมนูญผ่าน 3วาระของสภาฯ คิดว่า 4 เดือนเหมาะสม เป็นตัวแปรที่จะเกิดขึ้น 10 ก.ย. ถ้าพูดถึงเพื่อไทยโดยตรง ไม่ต้อง 4 เดือนอยู่แล้ว ถ้ารักษาการนายกฯ จะยุบสภา ก็ดำเนินการได้เลย
.
ส่วนออปชั่น MOU43-44 ทำให้ ปชน.พิจารณาหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เราไม่ได้พิจารณาอะไรนอกจาก 3 เงื่อนไข เงื่อนไข MOU43-44 เป็นของแต่ละพรรค แต่ไม่ได้อยู่ในบทสนทนาที่คุยกับ ปชน. เรายึด 3 เงื่อนไขของ ปชน.
.
เมื่อถามว่า ปชน.จะมีมติให้โหวตหรือไม่ หรือต้องรอความเห็นกรรมการบริหารพรรค หรือภาพรวม นายพริษฐ์ กล่าวว่า ความเห็นเราไม่ได้จำกัดแค่ สส.เราไม่ได้เป็นลักษณะ สส.เรารับฟังความเห็นทุกภาคส่วน เราเอาความเห็นทุกภาคส่วนมาตกผลึก
.
ถามย้ำว่า ใครจะเป็นคนตัดสินใจ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เป็นกระบวนการภายในของพรรค และกรรมการบริหารต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจที่เกิดขึ้น ต้องมาจากความคิดเห็นของทุกภาคส่วน ส่วนจะโหวตไปทิศทางเดียวกันหรือไม่นั้น ยืนยันว่าที่เราคุยเป็นเช่นนั้น
.
เมื่อถามว่า อยากให้ยุบสภาฯเท่านั้นหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ข้อเสนอยุบสภาฯ ไม่ใช่ข้อเสนอที่ใหม่ ไม่ใช่เพิ่งพูด 2 วันที่ผ่านมา แต่พูดมา 2 เดือนแล้ว มีคนตั้งคำถามว่าเรียกร้องยุบสภาฯ เพราะคะแนนนิยมดี เป็นประโยชน์กับเราหรือไม่ แต่เรามองสถานการณ์ข้างหน้า
.
สุดท้ายถ้ามีรัฐบาลแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ ต้องมีเสถียรภาพและความชอบธรรมทางการเมือง องค์ประกอบรัฐบาลชุดนี้ ตอบรับคุณสมบัตินี้ได้หรือไม่ วันนี้เรามองว่าถ้าไม่ตอบสนอง ก็ต้องโหวตเลือกนายกฯคนใหม่ เพื่อนำไขไปสู่การเลือกตั้งใหม่ โดยยืนยันว่าเราไม่เคยเอาเงื่อนเวลามาเป็นเงื่อนไข ถ้ารักษาการนายกฯจะยุบ ก็ยุบเลย
.
เมื่อถามถึงการประเมินความจริงใจของพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย โฆษกพรรค ปชน.กล่าวว่า ความจริงใจเป็นสิ่งที่ทั้ง สส.และประชาชนหลายคนใช้ในการประเมินดูแล้ว เรียนว่า หลายคนแน่นอนมองว่าเราจะรักษาทำให้รัฐบาลเสียงข้างน้อย รักษาสัญญาอย่างไร เราก็มองว่ามี 2 ปัจจัยสำคัญ ออกแบบกลไกให้เรามีกลไกควบคุมรัฐบาลเสียงข้างน้อยรักษาสัญญา ในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้าน ใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่เบี้ยวได้ทันที
.
“ส่วนการไว้เนื้อเชื่อใจไกลกว่านั้น คือไม่ไว้ใจทั้งคู่ เพราะต้องมาประเมินความเสี่ยงกันจากสาระท่าทีที่วัดด้วยหลักฐาน อันไหนเสี่ยงน้อยกว่า เราตัดสินใจด้วยเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ความแค้นมาตัดสิน บางคนคิดว่าเพื่อไทย ฉีก MOU หรือภูมิใจไทย โหวตนายพิธา ตอนนายกฯ เราใช้เหตุผลให้มากที่สุด เพื่อให้ประเทศมีรัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้งของประชาชนโดยเร็ว” นายพริษฐ์ กล่าว
.
เมื่อถามว่า หมายความว่าในอดีตรีเซ็ตหมดเลยหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เราไม่ลืม แต่ไม่เอาอารมณ์มาตัดสิน
.
ถามย้ำว่าแนวโน้มงดออกเสียงไม่เกิดขึ้น ต้องออกทางใดทางหนึ่ง โฆษกพรรค ปชน.กล่าวว่า ต้องคุยกัน และหาข้อสรุปวันพรุ่งนี้
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า ตนและเพื่อน สส.จาก ปชน.ตระหนักดีว่าเรามาอยู่จุดนี้ได้เพราะประชาชน 14 ล้านคนเลือกเราเข้ามา เราสัญญาว่าจะไม่เอาความไว้วางใจไปทำอะไรที่ผิดหลักการ
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีพรรคภูมิใจไทย บอกตัวเลขมาเคลมว่าได้ 280 เสียง ซึ่งรวม ปชน. เพื่อต้องการดูด สส.พรรคอื่น มาร่วมจัดตั้งรัฐบาล และ ปชน.รู้ทันเกมนี้ จึงยังไม่ได้มีท่าทีว่าจะไปร่วมโหวตนายกฯฝั่งไหน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่