JJNY : 5in1 ปชน.บี้รีบยุบสภา│ภาคีเครือข่ายฯยัน‘ยุบสภา’ดีที่สุด│ป่วนหลายจุดนราธิวาส│กต.ฟาดเขมร│สื่อแฉถูกลักพาตัวในกัมพูชา

ปชน.รับเสียงแตก นัดรอบใหม่ ให้กก.บห.ชี้ขาด ด้านไอติม บี้พท.รีบยุบสภา นาฬิกาเดินอยู่
https://www.matichon.co.th/politics/news_5351430
.
.
ปชน.เสียงแตก! นัด 3 ก.ย.ให้ กก.บห.พรรคส้มชี้ขาด ดัน ‘อนุทิน’ หรือไม่โหวตเลือกใคร ‘ปกรณ์วุฒิ’ ออกโรงสยบยันยังไม่มีมติวันนี้ เป็นเพียงขั้นตอนฟังความเห็น ‘ไอติม’ จี้ พท.รีบยุบสภาฯ นาฬิกาเดินอยู่
.
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 2 กันยายน 2568 ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคประชาชน (ปชน.) นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรค ปชน. ลงมาให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ส.ส.ของพรรค ถึงทิศทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่
.
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า วันนี้ไม่มีมติ เป็นการรับฟังความเห็น ส.ส. ฟังทุกองคาพยพของพรรค ล่าสุดวานนี้พรรคส่งข้อความให้สมาชิกพรรคทั่วประเทศราว 1 แสนคน ให้ความเห็นต่อการเลือกนายกฯ ณ ตอนนี้มีสมาชิกจำนวนมากให้ความเห็นมาแล้ว ในการประชุมวันนี้ เนื่องจากเมื่อวานมี ส.ส.หลายท่าน ติดงาน กมธ. หรืองานพื้นที่ แต่วันนี้ ส.ส.มากันเกือบครบ และให้ความเห็นเพิ่มเติมพอสมควร และสิ่งที่ ส.ส.ทุกคนเห็นตรงกัน วันนี้ยังเปิดรับฟังความเห็นของสมาชิกพรรคต่อ อย่างไรก็ตาม วันที่ 3 กันยายนนี้ แน่นอนว่า จะมีการประชุมของกรรมการบริหาร และคณะผู้บริหารของพรรค เพื่อตัดสินใจในขั้นสุดท้ายว่า เราจะโหวตเลือกนายกฯท่านใด ทั้งนี้ยืนยันว่า พรรคยังไม่ได้มีการตัดสินใจทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ส่วนกรรมการบริหารพรรคจะประชุมกันกี่โมง ตอนนี้ยังไม่ได้นัด ต้องเช็คคิวทุกคนด้วยว่า ว่างพร้อมกันเมื่อไหร่ แต่จะทำให้เร็วที่สุด
.
เมื่อถามถึงกระแสข่าวสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่เป็นข้อเท็จจริงใดๆ ยังไม่มีมติทางใดทางหนึ่ง ไม่มีการโหวตหรือการยกมือ มีแต่การให้ความเห็น ส.ส.ให้ความเห็นหลากหลาย สะท้อนเสียงประชาชนในพื้นที่ ข่าวที่ออกจากสื่อต่างๆ ถึงความกังวล และ ส.ส.ทุกคนเข้าใจดี เข้าใจตรงกันหมดว่า การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ง่าย ทุกคนเข้าใจตรงกันแล้วว่า นี่ไม่ใช่การเลือกนายกฯที่ดีที่สุด แต่เป็นการเลือกนายกฯที่มีโอกาสนำไปสู่การยุบสภาฯ และการแก้รัฐธรรมนูญมากที่สุด เราเข้าใจตรงกันประเด็นนี้แล้ว แต่ความเห็นยังหลากหลายอยู่ และไม่ทราบว่า ใครปล่อย ไม่ทราบเจตนา
.
ขณะที่ นายพริษฐ์ กล่าวยืนยันว่า เราไม่ได้ยึดมติที่ประชุม ส.ส.วันนี้ ส.ส.เป็นองคาพยพหนึ่งที่แสดงความเห็น เป็นหน้าที่กรรมการบริหารพรรค ในวันที่ 3 กันยายนนี้ ที่นำความเห็น ส.ส.ประกอบกับความเห็นของเครือข่าย พนักงาน องคาพยพ และสมาชิกทั่วประเทศที่ส่งเข้ามา และตัดสินใจจากกรรมการบริหาร
.
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า หากรักษาการนายกฯ ไม่ดำเนินการยุบสภาฯ เราจำเป็นต้องใช้กระบวนการเลือกนายกฯคนใหม่ เพื่อทำภารกิจในการยุบสภา คิดว่านาฬิกาเดินไปเรื่อยๆ เราเรียกร้องมา 2 เดือนแล้ว กับรัฐบาล กับพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายภูมิธรรม เวชยชัย จนถึง 1-2 วันที่ผ่านมา เห็นว่า นายภูมิธรรม พูดถึงการยุบสภาฯ ย้ำอีกรอบว่า ถ้าจะยุบก็ไม่ต้องรอ อย่างไรก็ตาม นาฬิกายังเดินต่อไป ถ้ารักษาการนายกฯ ไม่ดำเนินการยุบสภาฯ ก็เข้าสู่การเลือกนายกฯคนใหม่ เราจะใช้ 140 กว่าเสียงของเราเพื่อโหวตเลือกนายกฯ เพื่อยุบสภาฯ คืนอำนาจให้ประชาชน โดยในวันนี้รับฟัง ส.ส.ครบถ้วนแล้ว ไม่มีการประชุม ส.ส.อีกแล้ว ทุกเสียงจะไหลไปที่กรรมการบริหารพรรคในวันที่ 3 กันยายน เพื่อตัดสินใจ
.
“พูดย้ำอีกครั้ง เราไม่ไว้วางใจทั้งคู่ เราไม่ได้เอาความรู้สึกเป็นตัวตั้ง อดีตเราไม่ลืม แต่ไม่เอามาเป็นปัจจัยตัดสินใจ เราพยายามตัดสินใจเพื่อออกแบบกลไกที่ดีที่สุดเพื่อควบคุมรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้ และดูทางเลือกไหนให้เราควบคุมการรักษาสัญญาได้ดีที่สุด สิ่งที่คิดว่า น่าจะดีที่สุดคือการรอ การตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรคพรุ่งนี้ เรายืนยันว่าคณะกรรมการบริหารพรรคจะประชุมกัน และเราเดินหน้าสู่การเลือกนายกฯคนใหม่ตามขั้นตอนกฎหมาย” นายพริษฐ์ กล่าว
.
เมื่อถามว่า เป็นการพิจารณาที่พรรคการเมือง หรือแคนดิเดตนายกฯ นายพริษฐ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญสุดคือเงื่อนไข 3 ข้อ ข้อ 3 เขียนชัดว่า เราต้องการเข้าไปทำหน้าที่ เป็นแกนนำพรรคฝ่ายค้าน ไม่ต้องการจับมือกับใคร ร่วมรัฐบาลกับใคร เราต้องการวางกระบวนการเพื่อที่ว่า หากนายกฯไม่ยุบสภาฯ เราเลือกคนไปยุบสภาฯตาม 3 เงื่อนไขเป็นหลัก ยึดว่า จะทำตามสัญญา ไม่ได้คำนึงถึงคุณสมบัติ หรือแคนดิเดตนายกฯ เพราะไม่ใช่สาระสำคัญที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นประโยชน์กับประเทศ
.
ส่วนนายกฯคนใหม่ จำเป็นต้องทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อป้องกันการเบี้ยวเงื่อนไขหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า แน่นอนว่า ต้องมีลายลักษณ์อักษร อะไรที่เราทำได้มากที่สุด เพื่อให้เป็นการแสดง หรือผู้มาตอบรับเงื่อนไข ต้องสัญญากับประชาชนอย่างชัดเจน ไม่ว่ากรรมการบริหารพรรคตัดสินใจอย่างไร ต้องมีคำอธิบายต่อประชาชนอยู่แล้ว โดยขั้นตอนยุบสภาฯ ถามเพื่อไทย ถ้าอยากยุบอำนาจอยู่ในมือพวกคุณ เราก็เตรียมตัวเลือกตั้ง ที่เราเตรียมมาตลอด 2 เดือนแล้วท่านไม่ได้ทำ
.
นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า เราขอย้ำจุดยืนเดิม 1.เราจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน เมื่อไหร่นักการเมืองคนไหน หรือพรรคการเมืองไหนผิดคำพูดต่อประชาชน จะทำให้คนนั้น และพรรคนั้นไม่น่าเชื่อถือต่อไป เราไม่ต้องการให้พวกเรา ปชน.ไม่ใช่เป็นพรรคที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ 2.เราต้องการคงสถานะฝ่ายค้าน ใครก็ตามที่เข้าไปเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เราสามารถรักษาสัญญาได้ ผ่านกลไกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อไหร่เบี้ยวสัญญา แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม หากเราร่วมรัฐบาล กลายเป็นว่า เราไม่มีสถานะเป็นฝ่ายค้าน และเราเชื่อว่ารัฐบาลที่ตอบโจทย์ประเทศ ไม่ใช่สิ่งเหล่านี้ แต่มาจากการเลือกตั้งครั้งถัดไป โดยกรรมการบริหารพรรค จะตัดสินใจพรุ่งนี้ ถ้าตามขั้นตอนต่างๆ เราก็พร้อมเดินหน้าพิจารณาโหวตนายกฯคนใหม่ หากไม่มีการยุบสภาฯ
.
เมื่อถามถึง กรณีพรรคเพื่อไทย ไม่ยอมยุบสภาฯ ตามข้อต่อรองของปชน.แสดงว่า จะเลือกพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า สรุปแบบนั้นไม่ได้ ที่เรากำหนดขั้นตอนแบบนั้น เพราะอำนาจอยู่ในมือพรรคเพื่อไทย ถ้าพรรคเพื่อไทยจะยุบ ยุบได้เลย ถ้าไม่ยุบ เราก็เข้าสู่กระบวนการเลือกนายกฯคนใหม่ เราได้พิจารณามาใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว เหลือในขั้นตอนการพิจารณาของ กก.บห.ในวันที่ 3 กันยายนนี้ โดยเงื่อนไข 3 ข้อเราทำละเอียดแล้ว ส่วนการกำกับกลไก เราก็วางแผนในสภาฯ ล้มผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนการเชิญประชาชนมาร่วมกันติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง หากใครมีความเห็น มีเบาะแส หากดำเนินการไปแล้ว มีฝั่งไหนเข้าไปจะเบี้ยวสัญญา หากฝั่งไหนใช้อำนาจมิชอบ ก็ส่งเบาะแสให้เราได้ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบทุกรัฐบาลแน่นอน
.
เมื่อถามถึงความกังวลหากรัฐบาลเสียงข้างน้อย ใช้วิธีการดูด ส.ส.จาก ปชน. นายพริษฐ์ กล่าวว่า ความเสี่ยงที่เรารับรู้ และพูดถึงอย่างตรงไปตรงมาโดยตลอด แน่นอนว่า เป็นความเสี่ยงที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่า การเกิดขึ้นของการเมืองไทยที่ผ่านมา มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงๆ อย่างแรก สิ่งที่จะทำให้ลดความเสี่ยงดังกล่าวได้ คือเอกภาพ ส.ส. 140 กว่าเสียง ถ้าพรรคประชาชนเดินหน้าอย่างเป็นเอกภาพ และเพื่อนร่วม ส.ส.เดินหน้าเป็นเอกภาพ ลดความเสี่ยงตรงนั้นลงมา
.
ส่วนความเคลื่อนไหวทางการเมืองของพรรคในวันนี้ จะทำให้ส.ส.ในพรรคทะเลาะกันหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวเสริมว่า เรื่องเสียงแตก 2 ฝั่ง กลายเป็นวัฒนธรรมพรรคเราแล้ว แต่อีกวัฒนธรรมหนึ่งที่ชัดเจนเช่นกัน หากครั้งไหนใช้มติพรรค ทุกคนเคารพมติพรรค ครั้งไหนใช้การตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรค ทุกคนเคารพการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรค การถกเถียงความเห็นที่แตกต่าง เป็นเรื่องดี และเป็นวัฒนธรรมที่เราทำมาตั้งแต่อนาคตใหม่ และก้าวไกล มีการถกเถียงให้เหตุผลซึ่งกันและกันหลากหลาย ทุกคนอาจยังเห็นแย้งหรือเห็นต่าง แต่ทุกคนคิดเหมือนกันคือพรรคต้องมีเอกภาพ เรื่องนี้ทุกคนเคารพการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรคแน่นอน นี่จึงเป็นเหตุผลรับฟังความเห็นสมาชิกต่อในคืนนี้ และส่งให้ กรรมการบริหารพรรคพรุ่งนี้
.
ณ ตอนนี้ยังไม่ได้มีการตัดสินใจเรื่องนี้ เท่าที่พูดคุยเบื้องต้น เป็นกระบวนการรับฟังความเห็นภายใน ส่วนเป็นอย่างไร ขอมีมติ กรรมการบริหารพรรคพรุ่งนี้อีกทีหนึ่ง” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
.
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยเข้าสู่กระบวนการเตรียมยุบสภาฯแล้ว นายพริษฐ์ กล่าวว่า เพิ่งทราบสดๆ ร้อนๆ เขียนว่ารายงานข่าว ประโยคเดียว พอเสร็จประชุม ส.ส. มีรายงานข่าวเกี่ยวกับพรรคเรา ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ไม่คอมเมนต์สิ่งที่เขียนว่า รายงานข่าว ถ้าดำเนินการยุบสภาฯจริงก็ไม่ต้องพูดเยอะ ก็ทำให้เห็นจริง
.
เมื่อถาม ถึงมติของพรรคในวันนี้ที่หนุนพรรคภูมิใจไทย และเหตุใด จึงเปลี่ยนคนแถลงจากนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค มาเป็นนายพริษฐ์ และนายปกรณ์วุฒินั้น โฆษก ปชน.กล่าวว่า เรื่องไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง ไม่รู้ว่า เรามีหลักฐานหรือไม่ เพราะการประชุม ส.ส.เพียงแม่น้ำ 1 สายเพื่อประกอบการตัดสินใจกรรมการบริหารพรรค ยังไม่จบ 100% ส่วนการเปลี่ยนตัวคนแถลง ไม่เคยชี้แจงว่าจะเป็นนายณัฐพงษ์แถลง ตนมาในฐานะโฆษก และมากับนายปกรณ์วุฒิ ในฐานะเป็นประธาน ส.ส.ของพรรค และประธานวิปฝ่ายค้าน
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุม ส.ส.พรรคในวันนี้ เปิดโอกาสให้ ส.ส.ได้แสดงความเห็นหลากหลาย อย่างไรก็ดีแกนนำพรรคมีแนวโน้มเลือกสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และผลักดัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯคนที่ 32 เพื่อหยั่งเชิงพรรคเพื่อไทย ว่าจะตัดสินใจอย่างไรต่อไป ทว่ากลับมีข่าวหลุดออกมาผ่านสื่อเสียก่อน จึงต้องให้โฆษกพรรค และประธาน ส.ส.ของพรรค ลงมาชี้แจงกับสื่อ พร้อมกับให้รอมติอย่างเป็นทางการของพรรคในวันที่ 3 กันยายนนนี้
.

.
ภาคีเครือข่ายฯ ยืนยัน ‘ยุบสภา’ ทางออกดีที่สุด เปิดทางการเมืองใหม่ ‘ประชาชน’ เป็นตัวตั้ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5351314
.
เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ห้องประชุมชั้น 4 ตึกกิจกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เครือข่ายประชาชนฯ แถลงข่าว เรียกร้อง รัฐบาลรักษาการยุบสภา เป็นทางออกของประเทศไทย แก้ไขวิกฤตการเมืองให้ประชาชนตัดสินใจ
.
เมื่อเวลา 15.00 น. ได้มีตัวแทนของภาคีเครือข่ายภาคประชาชน อาทิ กป.อพช. (คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน), ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-Move), คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.), เครือข่ายประชาชนเข้มแข็ง, เครือข่ายนักรบผ้าถุง จะนะ, เครือข่ายสิ่งแวดล้อม เครือข่ายสุขภาพ ฯ และสภานักศึกษา และองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เป็นต้น ได้ร่วมแถลงข่าว เรียกร้อง รัฐบาลรักษาการยุบสภา เป็นทางออกของประเทศไทย
.
นายสมบูรณ์ คำแหง ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนระดับชาติ (กป.อพช.) กล่าวว่า เราต้องการการเมืองที่เห็นหัวประชาชน กว่า 8 ปี ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และ 2 ปีภายใต้การบริหารของพรรคเพื่อไทย ถือเป็นยุคที่ผู้ปกครองเห็นประชาชนเป็นผู้ถูกปกครอง การบริหารการเมืองต่างๆ ทั้งการเมืองเศรษฐกิจ สังคม มิได้มุ่งแก้ไขปัญหาประเทศอย่างแท้จริง แต่ล้วนเป็นการเลี้ยงไข้ พยายามที่จะรักษาไว้อำนาจการควบคุมกำกับความก้าวหน้าของสังคม อีกทั้งยังตัดตอนการเติบโตของกระบวนการของประชาชน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่