สรุปมาเล่าให้ฟัง No Other Land -
และ แรงงานไทยใน Westbank
- เยาฮารี ตรวจสอบโดย ChatGPT
หลังจากได้ชม *No Other Land* สิ่งที่เห็นชัดเจนคือภาพของความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมายาวนานในปาเลสไตน์ โดยเฉพาะพื้นที่ฉนวนกาซาและเวสต์แบงก์ พื้นที่ซึ่งสหประชาชาติยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเป็นดินแดนที่ถูกยึดครองหลังสงครามปี 1967 และห้ามอิสราเอลย้ายถิ่นฐานประชากรเข้าไปอยู่ (UNSC Res. 242, 338, 2334; Fourth Geneva Convention, Art.49) แต่ในความเป็นจริง อิสราเอลกลับดำเนินการตรงข้ามมาโดยตลอด ทั้งการประกาศพื้นที่เป็นเขตฝึกทหาร ใช้ศาลของตนเองตัดสินยึดพื้นที่ และใช้กองทัพพร้อมเครื่องจักรเข้าทำลายบ้านเรือนและโรงเรียน จนชาวปาเลสไตน์จำนวนมากถูกบังคับให้อาศัยอยู่ในถ้ำจริง ๆ ไม่ใช่เชิงอุปมา และเมื่อทหารถอนกำลังออกไป คนในพื้นที่ก็รวมตัวกันสร้างใหม่ ก่อนจะถูกทุบทำลายซ้ำ วนเวียนอยู่อย่างนี้มากว่าสองทศวรรษ

เดิมที ความขัดแย้งในเวสต์แบงก์เป็นเรื่องของกองทัพอิสราเอลที่ใช้กำลังควบคุมและปราบปรามประชาชน แต่ก่อนหน้าการโจมตีของฮามาสในเดือนตุลาคม 2023 รูปแบบความรุนแรงเริ่มเปลี่ยนไป เมื่อชาวนิคมอิสราเอลที่ติดอาวุธเริ่มก่อเหตุด้วยตนเองโดยตรงต่อชาวปาเลสไตน์ และรัฐบาลอิสราเอลกลับเพิกเฉย เช่น ในกรณีที่กลุ่มชาวนิคมบุกเข้าไปเผาบ้านและร้านค้าในหมู่บ้าน Huwara เมื่อกุมภาพันธ์ 2023 มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุการณ์นี้ถูกสื่อสากลบางแห่งเรียกว่าเป็น “pogrom” เนื่องจากกองทัพไม่ได้เข้าไปห้ามปราม (The Guardian, 2023) หรือเหตุการณ์ที่ชาวนิคมเดินถืออาวุธยิงชาวบ้านในพื้นที่พิพาทอย่างเปิดเผย จนมีเด็กและผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต แต่กลับไม่เห็นความรับผิดชอบจากภาครัฐ (Al Jazeera, 2023; HRW, 2023)

ความรุนแรงจึงไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการปะทะระหว่างทหารและผู้ชุมนุมอีกต่อไป แต่ขยายวงมาสู่การที่ชาวนิคมกลายเป็นผู้เล่นหลักในความขัดแย้ง การโจมตีซ้ำ ๆ ของชาวนิคมในปี 2023–2024 ทำให้สถานการณ์ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะกับเด็กและเยาวชนที่ตกเป็นเหยื่อการสังหารมากขึ้นเรื่อย ๆ จนสถิติในปี 2024 ระบุว่ามีเด็กปาเลสไตน์เสียชีวิตในเวสต์แบงก์มากกว่า 170 คนภายในหนึ่งปีหลังเดือนตุลาคม 2023 (The Guardian, 2024) รายงานจาก New Yorker ยังเผยภาพชัดว่าทหารบางครั้งยืนมองขณะที่ชาวนิคมก่อเหตุโดยไม่เข้าไปหยุดยั้ง (New Yorker, 2024) ส่วนการปะทะใน Jenin ต้นปี 2025 ที่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่าความรุนแรงในเวสต์แบงก์ไม่ได้มีแนวโน้มลดลงเลย (The Guardian, 2025)

สิ่งที่น่าห่วงสำหรับไทยคือ ข้อมูลจากกรมแรงงานระบุว่ามีแรงงานไทยกว่า **400 คน** เข้าไปทำงานในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ทั้งภาคเกษตรและก่อสร้าง การมีแรงงานเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่นานาชาติระบุว่าเป็นดินแดนถูกยึดครอง ย่อมทำให้ไทยเสี่ยงถูกมองว่ามีส่วนสนับสนุนการตั้งถิ่นฐานที่ผิดกฎหมาย แรงงานไทยยังเสี่ยงตกเป็น “กำแพงมนุษย์” โดยไม่ตั้งใจ เมื่อเกิดการปะทะหรือโจมตี และที่ผ่านมาก็มีแรงงานไทยเสียชีวิตจากความรุนแรงในกาซามาแล้วหลายราย
ดังนั้นสิ่งที่ควรทำไม่ใช่การถกเถียงว่าใครถูกใครผิด แต่คือการที่รัฐไทยต้องเข้ามาจัดการปัญหานี้อย่างจริงจัง ไม่ควรปล่อยให้แรงงานไทยต้องเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่ขัดกับกฎหมายระหว่างประเทศและเต็มไปด้วยความเสี่ยง มิฉะนั้นการสูญเสียของประชาชนไทยจะยิ่งกลายเป็นชั้นซ้อนของความขัดแย้ง และไม่ก่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ฝ่ายใดเลย นอกจากเป็นการเข้าไปหารายได้บนผืนดินที่ถูกยึดครองและเต็มไปด้วยไฟแห่งความขัดแย้งเท่านั้นเอง
สรุปมาเล่าให้ฟัง No Other Land - และประเด็น แรงงานไทยใน Westbank