เราคบกับแฟน ที่ทำงานเดียวกัน ทำงานงานเป็นเพื่อนกันเหมือนจะเข้ากันได้ดีคุยกันถูกคอ เลยลองหันมาเป็นแฟน คบกันไปเรี่อยๆ เค้าบอกเราว่าเค้าติดลบมีหนี้สินเยอะ ผ่อนทุกอย่าง ไม่พอใช้ ไปกินข้าวต้องเราต้องออกเองเกือบทุกมื้อ ส่วนน้อยที่เค้าจะออกเพราะเค้าบอกว่าไม่มีเงินเหลือแล้ว เราก็ไม่อะไร แต่ตัวเราคือไม่มีหนี้สินอะไรเลย พอเงินออกก็เหลือเก็บตลอด ครอบครัวเราก็ไม่มีหนี้ให้เป็นภาระ แต่เราก็ไม่คิดมากก็คบกันมาเรื่อยๆ กันต่อไป ไปเที่ยวดูหนังก็คือเราต้องจ่ายก่อนตลอดจนเคยชิน จนเค้าก็เคยชินไปเหมือนกัน จากนั้นเค้าก็พาไปพบกับพ่อแม่เค้า ก็คือพูดกันไม่กี่คำก็คือพ่อแม่เค้าก็มีหนี้เหมือนกันไม่เหลือเก็บแต่เก็ไม่ได้พูดหยิบยืมโดยตรง แต่พูดโดยทางอ้อม เราก็ยังไม่ให้เพราะพึ่งเจอกันครั้งแรก เราก็รู้สึกอึดอัด จากนั้นพออยู่กันไปสักพัก แน่นอนว่าความรักก็คือส่วนหนึ่งแต่เงินก็สำคัญเช่นกัน เริ่มทะเลาะกันเรื่องเงิน เพราะเค้าและครอบครัวไม่สามารถเคลียร์หนี้ได้เลย ไม่หาแนวทาง พอเราแนะนำเค้าและครอบครัว ก็ได้แต่พูดว่าไม่มีเงินทำยาก ไม่ใช่เราไม่ช่วยแต่ เราช่วยเค้าทุกครั้ง จาเนั้นพอทะเลาะ เค้าก็บอกเราว่าผู้หญิงสมัยนี้หาคนที่จะอยู่เคียงในตอนผู้ชายลำบากไม่มีเลย มีแต่ผู้หญิงที่หาแต่ผู้ชายเลี้ยง หวังแค่เรื่องเงิน เราฟังแล้วเราก็เงียบ เพราะเหมือนถูกมองว่าเราหน้าเงิน ซึ่เราสับสนนว่าทำไมต้องว่าเราขนาดนั้น ทั้งๆที่เราช่วยทุกอย่าง ไปต่อหรือพอแค่นี้ดีคะ
คบกับแฟนครั้งแรกพาไปรู้จักครอบครัว มีเรื่องหนี้นำมาก่อนเลย ไปต่อหรือพอแค่นี้