เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านไป ได้ตามสองหนุ่มไปเที่ยวเมืองหลวงมาค่ะ
หนุ่มๆ เขาไปดู Finnkampen การแข่งขันกีฬาระหว่างสวีเดนและฟินแลนด์ ซึ่งเวียนมาครบร้อยปีปีนี้
ออกเดินทางวันศุกร์ พวกเราขับรถยนต์ไปกัน ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.
ไปถึงโรงแรมบ่ายแก่ๆ เช็คอินแล้วก็เดินไปดูสนามแข่ง Stockholms Stadion กัน วันนั้นมีแข่งขันวิ่งมาราธอน 1000 เมตร ของหญิงและชาย เข้าฟรี เลยได้มีโอกาสดูการแข่งขันของนักกีฬาผู้ไม่กลัวแดดกลัวฝน
ฝนตกพรำๆ ตลอดการแข่งขัน
วิ่งวนออกมาข้างนอกสนามด้วย
ผลคือ ทีมสวีเดนชนะทั้งชายและหญิง
วันเสาร์ สองหนุ่มไปดูกีฬากันต่อ
พร้อมมาก
ส่วนเราผู้ไม่อยากนั่งตูดด้านทั้งวันเลือกเข้าเมืองไปเดินออกกำลังขาแทน
นั่งรถไฟใต้ดินจากสถานีใกล้โรงแรม ใช้เวลา 12 นาที
ไปเดินงงที่หัวลำโพงสตอกโฮล์มอยู่พักนึง 😁
เดินออกไปด้านหน้าสถานีและข้ามถนนไปที่ถนนราชินี Drottninggatan ซึ่งเป็นศูนย์รวมร้านค้า เป็นแหล่งช้อปปิ้ง
เห็นเขามุง เราก็มุงด้วย
เดินร้านนั้น ออกร้านนี้จนเหนื่อย ไม่ได้อะไรซักอย่าง หิวข้าวเลยแวะเข้าร้านบุฟเฟต์อาหารเอเชีย Pong Buffe
ของกินหลากหลายพอควร ส่วนใหญ่เป็นอาหารไทย มีทั้งผัดไทย แพนง ผัดผักรวม ไก่สะเต๊ะ ยำวุ้นเส้น ลาบไก่ ปอเปี๊ยะ ฯลฯ
ตักมาชิมอย่างละนิดละหน่อย
อาหารทุกอย่างหวานมากกก
สรุปมีแค่ติ่มซำและไก่ทอดที่กินแล้วไม่หวาน
รู้สึกเสียดายเงิน 289 โครนมาก
การปรุงอาหารด้วยการใส่น้ำตาลทุกอย่างได้ระบาดไปต่างประเทศแล้ว
กินอาหารเสร็จก็มุ่งหน้าไปพิพิธภัณฑ์ที่กำลังเป็นที่กล่าวขานกัน ณ ตอนนี้
Paradox Museum
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจดี ผู้คนไปถ่ายรูปสวยๆ กันสนุกสนาน
ใครสนใจเข้าไปดูในลิงค์ได้ค่ะ
https://paradoxmuseumstockholm.com/en/?utm_source=google&utm_medium=sc_brand&utm_campaign=305462_arn&utm_content=738319450731&utm_term=paradox%20museum_e&gad_source=1&gad_campaignid=22335562684&gbraid=0AAAAADGO9U8StPyBQwbXIcVvziNIdvoS0&gclid=Cj0KCQjw_L_FBhDmARIsAItqgt7itbslzKiwRqWhp0rbRoapk_YjIdAf1MbBlvKN60kzBNMPMGZAzzUaAukiEALw_wcB
พิพิธภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับไปสองคนขึ้นไป จะได้มีคนถ่ายรูปให้
ไปคนเดียวขาดทุนมาก
จ่ายเพิ่ม 20 ได้เข้าอุโมงค์อวกาศ พอเครื่องเดิน หัวหมุนติ้ว เกือบทิ่มพื้น 😆
ออกจากพิพิธภัณฑ์ต้องหาที่นั่งพักก่อนไปต่อ กินไอติมอร่อยๆ
ขากลับ Google map พาหลงไปไกลมาก สุดท้ายต้องถามทางคนเดินผ่าน
หกโมงเย็นก็กลับถึงโรงแรม หมดไปหนึ่งวัน
วันอาทิตย์ สองหนุ่มไปเชียร์กีฬากันเหมือนเดิม
ส่วนเรา มุ่งหน้าไปร้านก๋วยเตี๋ยวที่กำลังโจษจานกันในหมู่คนไทย ร้านชาทองไทย ในสตอกโฮล์ม
ก่อนไปก็อ่านรีวิวในเน็ต ฝรั่งหลายคนบอกรสชาติมันบ่แซบเท่าที่ควร ก๋วยเตี๋ยวออกรสหวาน ไม่อูมามิ
ใจหนึ่งก็ลังเลแหละ นั่งรถสี่ต่อแน่ะ แต่อีกใจก็อยากลอง ไหนๆ ก็มาถึงที่แล้ว
ถามคนรู้จักที่เคยไปกิน ทุกคนบอกอร่อย เหมือนกินที่ไทย โอเควะ ไม่ลองไม่รู้
สุดท้ายก็ดั้นด้นไปจนถึง
ลองก๋วยเตี๋ยวชุด น้ำใส ต้มยำ เย็นตาโฟ
กลัวไม่อิ่ม สั่งตำปูปลาร้ามาเสริมทัพหนึ่งจาน
ล้างปากด้วยชาเขียวใส่นม
เนื่องจากแพ้เนื้อเลยกินได้แค่ซีฟู้ด
ก๋วยเตี๋ยวต้มยำพอกินได้ รสไม่เข้มข้นเท่าที่ควร อ่อนเค็ม และไม่เปรี้ยวอย่างที่ควรจะเป็น
น้ำใส เหมือนกินก๋วยเตี๋ยวเด็ก เมื่อซดน้ำซุปเปล่าๆ โอเคอยู่ แต่ถ้ากินเส้นด้วยจะจืดมาก
เย็นตาโฟเส้นใหญ่ เส้นเป็นก้อน
ทุกชามรสออกหวาน ไม่มีความกลมกล่อม
ส้มตำปูปลาร้าก็หวาน 😵💫
ปกติเป็นคนกินก๋วยเตี๋ยวไม่ปรุง จะใส่แค่พริกป่นเท่านั้น รู้สึกผิดหวังมากเหมือนกัน
เข้าใจว่าลิ้นคนเราไม่เหมือนกัน ชอบไม่เหมือนกัน แต่อันนี้คือ ราคามันแพง โฆษณาไว้มาก อย่างน้อยน้ำซุปควรจะแซบให้เท่าก๋วยเตี๋ยวรถเข็นที่ไทยนะเธอ
ที่ชอบมากๆ คือชาเขียว รสชาติเหมือนกินที่ไทยเลย
ทั้งหมดนั้นจ่ายไป 500 โครน ราคาอาหาร 447 บวกทิปให้เพราะพนักงานบริการดี 😁
ไปเดินเล่นและหาของกินที่เมืองหลวง สตอกโฮล์ม
หนุ่มๆ เขาไปดู Finnkampen การแข่งขันกีฬาระหว่างสวีเดนและฟินแลนด์ ซึ่งเวียนมาครบร้อยปีปีนี้
ออกเดินทางวันศุกร์ พวกเราขับรถยนต์ไปกัน ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.
ไปถึงโรงแรมบ่ายแก่ๆ เช็คอินแล้วก็เดินไปดูสนามแข่ง Stockholms Stadion กัน วันนั้นมีแข่งขันวิ่งมาราธอน 1000 เมตร ของหญิงและชาย เข้าฟรี เลยได้มีโอกาสดูการแข่งขันของนักกีฬาผู้ไม่กลัวแดดกลัวฝน
ฝนตกพรำๆ ตลอดการแข่งขัน
วิ่งวนออกมาข้างนอกสนามด้วย
ผลคือ ทีมสวีเดนชนะทั้งชายและหญิง
วันเสาร์ สองหนุ่มไปดูกีฬากันต่อ
พร้อมมาก
ส่วนเราผู้ไม่อยากนั่งตูดด้านทั้งวันเลือกเข้าเมืองไปเดินออกกำลังขาแทน
นั่งรถไฟใต้ดินจากสถานีใกล้โรงแรม ใช้เวลา 12 นาที
ไปเดินงงที่หัวลำโพงสตอกโฮล์มอยู่พักนึง 😁
เดินออกไปด้านหน้าสถานีและข้ามถนนไปที่ถนนราชินี Drottninggatan ซึ่งเป็นศูนย์รวมร้านค้า เป็นแหล่งช้อปปิ้ง
เห็นเขามุง เราก็มุงด้วย
เดินร้านนั้น ออกร้านนี้จนเหนื่อย ไม่ได้อะไรซักอย่าง หิวข้าวเลยแวะเข้าร้านบุฟเฟต์อาหารเอเชีย Pong Buffe
ของกินหลากหลายพอควร ส่วนใหญ่เป็นอาหารไทย มีทั้งผัดไทย แพนง ผัดผักรวม ไก่สะเต๊ะ ยำวุ้นเส้น ลาบไก่ ปอเปี๊ยะ ฯลฯ
ตักมาชิมอย่างละนิดละหน่อย
อาหารทุกอย่างหวานมากกก
สรุปมีแค่ติ่มซำและไก่ทอดที่กินแล้วไม่หวาน
รู้สึกเสียดายเงิน 289 โครนมาก
การปรุงอาหารด้วยการใส่น้ำตาลทุกอย่างได้ระบาดไปต่างประเทศแล้ว
กินอาหารเสร็จก็มุ่งหน้าไปพิพิธภัณฑ์ที่กำลังเป็นที่กล่าวขานกัน ณ ตอนนี้
Paradox Museum
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจดี ผู้คนไปถ่ายรูปสวยๆ กันสนุกสนาน
ใครสนใจเข้าไปดูในลิงค์ได้ค่ะ
https://paradoxmuseumstockholm.com/en/?utm_source=google&utm_medium=sc_brand&utm_campaign=305462_arn&utm_content=738319450731&utm_term=paradox%20museum_e&gad_source=1&gad_campaignid=22335562684&gbraid=0AAAAADGO9U8StPyBQwbXIcVvziNIdvoS0&gclid=Cj0KCQjw_L_FBhDmARIsAItqgt7itbslzKiwRqWhp0rbRoapk_YjIdAf1MbBlvKN60kzBNMPMGZAzzUaAukiEALw_wcB
พิพิธภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับไปสองคนขึ้นไป จะได้มีคนถ่ายรูปให้
ไปคนเดียวขาดทุนมาก
จ่ายเพิ่ม 20 ได้เข้าอุโมงค์อวกาศ พอเครื่องเดิน หัวหมุนติ้ว เกือบทิ่มพื้น 😆
ออกจากพิพิธภัณฑ์ต้องหาที่นั่งพักก่อนไปต่อ กินไอติมอร่อยๆ
ขากลับ Google map พาหลงไปไกลมาก สุดท้ายต้องถามทางคนเดินผ่าน
หกโมงเย็นก็กลับถึงโรงแรม หมดไปหนึ่งวัน
วันอาทิตย์ สองหนุ่มไปเชียร์กีฬากันเหมือนเดิม
ส่วนเรา มุ่งหน้าไปร้านก๋วยเตี๋ยวที่กำลังโจษจานกันในหมู่คนไทย ร้านชาทองไทย ในสตอกโฮล์ม
ก่อนไปก็อ่านรีวิวในเน็ต ฝรั่งหลายคนบอกรสชาติมันบ่แซบเท่าที่ควร ก๋วยเตี๋ยวออกรสหวาน ไม่อูมามิ
ใจหนึ่งก็ลังเลแหละ นั่งรถสี่ต่อแน่ะ แต่อีกใจก็อยากลอง ไหนๆ ก็มาถึงที่แล้ว
ถามคนรู้จักที่เคยไปกิน ทุกคนบอกอร่อย เหมือนกินที่ไทย โอเควะ ไม่ลองไม่รู้
สุดท้ายก็ดั้นด้นไปจนถึง
ลองก๋วยเตี๋ยวชุด น้ำใส ต้มยำ เย็นตาโฟ
กลัวไม่อิ่ม สั่งตำปูปลาร้ามาเสริมทัพหนึ่งจาน
ล้างปากด้วยชาเขียวใส่นม
เนื่องจากแพ้เนื้อเลยกินได้แค่ซีฟู้ด
ก๋วยเตี๋ยวต้มยำพอกินได้ รสไม่เข้มข้นเท่าที่ควร อ่อนเค็ม และไม่เปรี้ยวอย่างที่ควรจะเป็น
น้ำใส เหมือนกินก๋วยเตี๋ยวเด็ก เมื่อซดน้ำซุปเปล่าๆ โอเคอยู่ แต่ถ้ากินเส้นด้วยจะจืดมาก
เย็นตาโฟเส้นใหญ่ เส้นเป็นก้อน
ทุกชามรสออกหวาน ไม่มีความกลมกล่อม
ส้มตำปูปลาร้าก็หวาน 😵💫
ปกติเป็นคนกินก๋วยเตี๋ยวไม่ปรุง จะใส่แค่พริกป่นเท่านั้น รู้สึกผิดหวังมากเหมือนกัน
เข้าใจว่าลิ้นคนเราไม่เหมือนกัน ชอบไม่เหมือนกัน แต่อันนี้คือ ราคามันแพง โฆษณาไว้มาก อย่างน้อยน้ำซุปควรจะแซบให้เท่าก๋วยเตี๋ยวรถเข็นที่ไทยนะเธอ
ที่ชอบมากๆ คือชาเขียว รสชาติเหมือนกินที่ไทยเลย
ทั้งหมดนั้นจ่ายไป 500 โครน ราคาอาหาร 447 บวกทิปให้เพราะพนักงานบริการดี 😁