คิดว่า “นี่แหละ! คนดีที่ยังพอเหลือในประเทศนี้”
คิดว่า “นี่คือพระผู้เสียสละเพื่อสังคม”
คิดว่า “นี่คือความหวัง ที่จะทำให้พุทธศาสนายังพอเป็นที่พึ่งได้”
.
แต่ความจริงโหดร้ายกว่านิยายดาร์ก –
ภาพที่เคยเห็นเป็น “แสง” กลับกลายเป็น “เงาดำ”
อมยิ้มอยู่ในสื่อ… แต่ยิ้มที่กรีดใจคนจนเลือดไหล
เพราะมันคือรอยยิ้มของ “เดรัจฉานยิ้มได้...ปีศาจในคราบศรัทธา”
ถามจริงเถอะ…
มนุษย์จะเลวร้ายได้ขนาดนี้เลยเหรอ?
ไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวรึที่ “หิริโอตัปปะ” จะผุดขึ้นมา?
หรือว่าเขาฝึกตัวเองให้เก่งจนยิ้มได้แม้ขณะโกหกทั้งโลก?
ศรัทธาที่แตกละเอียด
การโกหกมันไม่ใช่แค่การทำร้ายคนอื่น
แต่มันคือการทำลาย “ความเชื่อ” ที่คนจำนวนมากฝากไว้กับคุณ
เจ็บยิ่งกว่าอกหัก เพราะมันไม่ใช่แค่เสียคนรัก
แต่ “ศรัทธาพัง” … คือการเสียความหวังทั้งระบบ
มันทำให้เราสงสัยไปหมดว่า แล้วเราจะเชื่ออะไรได้อีก? จะเชื่อใครได้อีก?
ยังมีอีกกี่วัด กี่องค์กร กี่ระบบราชการ กี่สถาบัน ที่กำลังปกปิด “เรื่องเลว” ไว้ใต้ผ้าเหลือง ใต้โต๊ะ หรือใต้พรม?
และยังมีอีกกี่คนที่ยิ้มหวานต่อหน้าประชาชน แต่เบื้องหลังคือโกงจนเลือดไหล?
.
อันตรายของ “ระบบปิดปาก”
ในสังคมที่ความชั่วมีพวกพ้องเยอะกว่าความดี
คนดีๆ รู้ความจริง ก็ถูกบีบให้เงียบ แต่พูดไม่ได้
นพ.มนูญ รู้มานาน แต่ไม่กล้าเปิดเผย เพราะกลัวครอบครัวไม่ปลอดภัย
พยาบาลยังถูกขู่ฆ่า เพียงเพราะไม่ยอมโกหกตามระบบ
นี่มันไม่ใช่สังคมธรรมดา แต่มันคือ **สังคมที่ให้รางวัลกับความเงียบ และลงโทษความจริง**
ถ้าอย่างนั้นเราจะเหลือใคร?
คนเลวเดินยืดอกในสังคม
ส่วนคนดีต้องหมอบหลบมุมอยู่ข้างกำแพง
.
ถึงเวลา “ปราบโกหก” แบบเอาจริง
ประเทศไทยไม่ใช่ชาติเดียวที่มีคอรัปชั่น
ประเทศอื่นก็เคยเน่าไม่ต่างจากเรา แต่เขากล้า “ฟาด”
เขาตั้งองค์กร “ปราบโกงที่มีเขี้ยวเล็บจริง”
ให้ประชาชนและคนในองค์กรแจ้งตรง โดยมีกฎหมายคุ้มครอง
ไม่ใช่ปล่อยให้ whistleblower กลายเป็นศพ
แต่ทำให้ “เสียงของความจริง” กลายเป็นพลังเปลี่ยนสังคม
* **ฮ่องกง → ตั้ง ICAC (คณะกรรมการปราบคอรัปชัน) ให้สิทธิ์เต็มมือ คนแจ้งเบาะแสได้รับการคุ้มครอง ผลคือโกงลดฮวบจากเมืองเละกลายเป็นเมืองน่าอยู่
* **เกาหลีใต้ → ล้มประธานาธิบดีมาแล้ว เพราะคดีคอรัปชัน ประชาชนกล้าไล่ผู้นำที่โกง ไม่ใช่ก้มหน้าแล้วบอกว่า “ทำไงได้… เขาใหญ่กว่า”
* **จีน → สายโหด ฟันไม่เลี้ยง นักการเมืองหรือข้าราชการที่โกง โดนทั้งจำคุก ประหาร และลากชื่อไปประจานกลางสื่อ โกงปุ๊บ… หายจากสารบบชีวิตปั๊บ
* **สิงคโปร์ → ใช้กฎหมายเข้ม โปร่งใสตั้งแต่เงินเดือนข้าราชการยันงบประมาณ ทำให้คนไม่มีแรงจูงใจโกง (เพราะเงินเดือนสูงพอจะอยู่ดี กินดี แบบไม่ต้องเสี่ยงติดคุก) วันนี้จึงกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่โปร่งใสที่สุดในโลก
หันกลับมามองเรา…
ยังมีแต่ “กรรมการตรวจสอบ” ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อถ่วงเวลา
“คณะกรรมการสอบสวน” ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อซ่อนความจริง
สุดท้าย สังคมก็ได้แต่หัวเราะขื่นๆ แล้วบอกว่า “เอาน่า… บ้านเรามันแบบนี้แหละ”
.
โกหก… คือไฟเผาประเทศ
ควรถึงเวลาเลิกยิ้มให้ปีศาจในกระจกได้แล้วรึยัง?
โกหกเล็กๆ อาจทำร้ายตัวเอง
แต่โกหกใหญ่ๆ ในระดับองค์กร มันคือไฟที่เผาศรัทธาทั้งชาติ
และศรัทธานี่แหละ คือเสาหลักที่ค้ำจุนประเทศ
ถ้าเรายังยอมให้คนโกหกยืนยิ้มหน้าสื่อโดยไม่ละอาย
เท่ากับเรายอมให้ปีศาจครองบ้านเมือง โดยไม่ต้องใส่หน้ากากอีกต่อไป
---
**คำถามสุดท้ายที่สังคมต้องตอบให้ได้**
เพื่อให้คำว่า “ศรัทธา” กลับมามีความหมายอีกครั้ง?
👉 “เราจะยอมให้ศรัทธาของเราถูกคนโกหกย่ำยีไปเรื่อยๆ ไหม?”
👉 หรือถึงเวลาที่สังคมจะลุกขึ้นมา “ฉีกหน้ากาก” พวกมัน…
ก่อนที่ทั้งประเทศนี้จะเหลือแต่ “ปีศาจในกระจก ที่ยิ้มเยาะเราอยู่ทุกวัน”
#ขอบคุณผู้ติดตาม #ฝากไว้ให้คิด #ศรัทธา #เดรัจฉานยิ้มได้
คนลวงโลก (ต่อ) : เดรัจฉานยิ้มได้...ปีศาจในคราบศรัทธา