สื่อนอกสาวไส้!ยุค'รบ.ยิ่งลักษณ์'ภาคธุรกิจจ่ายใต้โต๊ะสูงลิ่ว

กระทู้สนทนา
วอยซ์ออฟอเมริกา - สื่อนอกตอกย้ำปัญหาคอรัปชันยังคงฉุดลากการเติบโตทางเศรษฐกิจในเอเชีย พัดพาเงินสำหรับพัฒนาเศรษฐกิจสูญหายไปจำนวนมหาศาลและจุดชนวนความโกรธเคืองของประชาชนในหลายประเทศ รวมไปถึงไทย พร้อมอ้างนักธุรกิจแฉยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทยของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
       
       วอยซ์ออฟอเมริกา นำเสนอรายงานเรื่อง Asian Economic Growth Masks Growing Corruption Problem ซึ่งมีเนื้อหาชี้ให้เห็นถึงวิกฤตคอรัปชันที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชีย โดยในเนื้อหามีการหยิบยกประเด็นเกี่ยวกับการฉ้อราษฎร์บังหลวงภายในประเทศไทยมาประกอบ
       
       สื่อชื่อดังของสหรัฐฯแห่งนี้ระบุว่าตอนที่ผู้ประท้วงรวมตัวกันบนท้องถนนในกรุงเทพฯเมื่อปีก่อน พวกเขาเรียกร้องรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใส่ใจต่อปัญหาการคอรัปชันที่ขยายตัวขึ้นเรื่อยๆในไทย นักธุรกิจชายวัย 79 ปี ชี้ว่าต้นทุนในการทำธุรกิจของพวกเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งมาจากเงินสินบนที่ต้องจ่ายให้กับเหล่าเจ้าหน้าที่
       
       "ผมประกอบธุรกิจอุตสาหกรรม ผมมิอาจลุกขึ้นยินได้อีกแล้วเพราะว่าเราจำเป็นต้องจ่ายใต้โต๊ะในจำนวนที่เยอะมาก" เขากล่าว "ผมยอมรับเลยว่า ก่อนหน้านี้เราจ่ายสินบนราว 5 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้ระดับต่ำสุดคือ 30 เปอร์เซ็นต์"
       
       บทความของ วอยซ์ออฟอเมริกา ระบุเป็นเรื่องยากที่จะคาดคะเนว่าปัญหาคอรัปชันก่อความเสียหายต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจไปมากน้อยเท่าใด แต่ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยหอการค้าเมื่อเร็วๆนี้ สรุปว่าปัญหาคอรัปชันก่อความสูญเสียทางเศรษฐกิจไทยในปีที่ผ่านมา คิดเป็นร้อยละ 2 ของผลผลิตของประเทศหรือคิดเป็นเงินคร่าวๆ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว 320,000 ล้านบาท)
       
       ผลศึกษาของมหาวิทยาลัยหอการค้ายังพบอีกว่านักธุรกิจจากภาคเอกชนจำนวนมากที่พวกเขาทำการสำรวจ ยอมรับเต็มปากเต็มคำว่าจำเป็นต้องจ่ายเงินสินบนแก่เจ้าหน้าที่รัฐบาลและนักการเมืองเพิ่มเติม หากหวังได้รับสัญญาจากรัฐบาล
       
       วอยซ์ออฟอเมริกา อ้างคำกล่าวของศาสตราจารย์ ดร.ผาสุก พงษ์ไพจิตร เศรษฐศาสตร์การเมือง ระบุแม้พบหลักฐานต่างๆนานาบ่งชี้ว่าทางการมีความคืบหน้าในความพยายามสกัดปัญหาคอรัปชันในระดับล่าง แต่ด้วยการเศรษฐกิจโลกที่เติบโตอย่างชะลอตัว นั่นเท่ากับว่าภาคธุรกิจต้องแข่งขันกันอย่างสูงเพื่อแย่งชิงให้ได้มาซึ่งสัญญาว่าจ้างจากรัฐบาล
       
       "ในยุคโลกาภิวัฒน์ คุณสามารถรับรู้ถึงแรงกดดันจากนานาชาติที่หวังเห็นไทยมีความโปร่งใสยิ่งขึ้น และหลายกระทรวงก็ขานรับเรื่องนี้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว" เธอกล่าว "ในอีกด้านหนึ่ง เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ธุรกิจท้องถิ่นเริ่มมีการแข่งขันสูง คุณจะเห็นได้ว่าบางกรณีความเสี่ยงคอรัปชันนั้นมีเยอะมาก เพราะมีการแข่งขันสูงขึ้นกว่าเดิม"
       
       นักวิเคราะห์ระบุว่ารัฐบาลไทยกำลังพินิจพิเคราะห์ใช้จ่ายเงิน 350,000 ล้านบาท ในโครงการก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมตามหลังอุทกภัยใหญ่เมื่อปี 2011 รวมถึงโครงการด้านรถไฟและโปรเจกต์ก่อสร้างอิ่นๆเพิ่มเติมอีก 2 ล้านล้านบาท แม้โครงการรับจำนำข้าวเพื่อสนับสนุนชาวนาที่ใช้งบประมาณไปแล้วหลายแสนล้านบาท ถูกห้อมล้อมด้วยข้อกล่าวหาคอรัปชันต่างๆนานา
       
       นายบัณฑิต นิจถาวร อดีตรองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเวลานี้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย ระบุว่าปัญหาคอรัปชันในไทยในตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะร้ายแรงกว่าเมื่อ 10 ปีก่อน
       
       "คอรัปชันคือปัญหาระดับโลก" เขากล่าว "คุณจะเห็นได้ว่าคอรัปชันตกเป็นข่าวพาดหัวในหลายประเทศ ดังนั้นมันจึงกลายเป็นประเด็นระดับโลกที่ทั้งองค์กรและรัฐบาลของชาติต่างๆพยายามจัดการมัน แต่ในส่วนของประเทศไทย เรากำลังเผชิญความท้าทายหนักหนาสากรรจ์ เพราะว่าปัญหานี้ดูเหมือนจะเลวร้ายยิ่งกว่าเมื่อ 10 ปีก่อนเสียอีก"
       
       รายงานของสื่อมวลชนดังแห่งนี้ระบุด้วยว่าแม้เศรษฐกิจจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียยังมีอันดับที่ย่ำแย่ในตารางดัชนีต่อต้านคอรัปชันนานาชาติ
       
       ตามรายงานของศูนย์ศึกษานโยบายระหว่างประเทศ ซึ่งมีฐานบัญชาการอยู่ในสหรัฐฯ ระบุว่าแค่ในจีนชาติเดียว ระหว่างปี 2001 ถึง 2010 มีการลักลอบนำเงินผิดกฎหมายจากการคอรัปชัน ฉ้อโกงทางการเงิน เลี่ยงภาษีหรือกิจกรรมผิดกฎหมายอื่นๆ ออกนอกประเทศถึง 2.74 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
       
       ส่วนไทยติดอันดับ 13 จากทั้งหมด 143 ประเทศที่มีการลักลอบส่งเงินสกปรกออกนอกประเทศมากที่สุดในโลกรอบ 10 ปีที่ผ่านมา โดยมียอดเงินอยู่ที่ 64,000 ล้านดอลลาร์(ราว 2.2 ล้านล้านบาท) ขณะที่ อินเดีย อีกหนึ่งศูนย์กลางแห่งการคอรัปชัน มีเงินสกปรกที่ถูกลอบออกนอกประเทศมากถึง 123,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

***********************************************
วอยซ์ออฟอเมริกา เขียนแบบนี้ แต่ถ้าไปอ่าน วอยซ์ออฟทักษิณ จะเขียนว่า รัฐบาลนี้ไม่การ คอรัปชั่น แม้แต่บาทเดียว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่