หมอหมู วีระศักดิ์ เล่าเรื่อง คุณตาอายุ 79 มาคนเดียว บอกอยากขายบ้าน สิ่งที่เขาต้องการ อาจไม่ใช่การ “ถูกดูแล”...

คุณตาอายุ 79 มาคนเดียว...บอกอยากขายบ้าน แต่ลูกหลานคัดค้าน

บ่ายวันหนึ่ง มีชายชราผิวคล้ำเกรียมจากการทำสวน เดินเข้ามานั่งในห้องตรวจ ไม้เท้าพยุงกาย มือสั่น ๆ แต่สายตายังคม

“หมอครับ...ผมอยากขอใบรับรองสติ”

ผมหันไปถามด้วยความสงสัยว่า “คุณตาจะเอาไปทำอะไรครับ?”

คุณตาสูดหายใจลึก ก่อนจะตอบช้า ๆ “ผมอยากขายบ้าน...แล้วเอาเงินไปอยู่บ้านพักคนชรา ลูกหลานเขาไม่อยากให้ขาย แต่ผม...ไม่อยากเป็นภาระ”

ทันทีที่ได้ยิน ประโยคนี้ก็กรีดลงกลางใจผม เพราะบ้านหนึ่งหลัง...มันคือทั้งชีวิตที่สั่งสมมา แต่การตัดสินใจขาย มันสะท้อนความรู้สึกเจ็บปวดว่า บ้านนั้นไม่เหลือความอบอุ่นอีกต่อไป

ผมเริ่มทำการทดสอบ
“คุณตาครับ วันนี้วันอะไรครับ?”
“ตอนนี้เราอยู่ที่ไหนครับ?”
“คุณตารู้ไหมว่าถ้าขายบ้านไป จะไปอยู่ที่ไหนต่อ?”
ชายชราตอบได้ทุกคำ น้ำเสียงหนักแน่น ไม่มีสับสน เขารู้ว่ากำลังตัดสินใจเรื่องใหญ่ และเข้าใจผลลัพธ์ที่จะตามมา

ในฐานะแพทย์ผู้ทำหน้าที่รับรองสติ ผมต้องดูให้ชัดว่า นี่ไม่ใช่ “การถูกบังคับ” ไม่ใช่ “การถูกหลอก” แต่คือ “การเลือกของเจ้าของชีวิตจริง ๆ”

เมื่อผมเซ็นใบรับรองสติให้ คุณตาก้มลงไหว้จนหน้าจะติดพื้น เขาพูดเสียงสั่นว่า... “ขอบใจนะหมอ อย่างน้อยก็ยังมีคนเชื่อว่าตาฉลาดพอจะเลือกอนาคตของตัวเอง”

วันนั้น ผมกลับบ้านพร้อมกับคำถามในใจ ทำไมผู้สูงอายุถึงต้องพิสูจน์ว่าตัวเองยังมีค่า?
ทำไมการที่เขาอยากใช้ชีวิตในแบบที่เลือกเอง ถึงกลายเป็นเรื่องผิดในสายตาลูกหลาน?

เรื่องนี้สอนผมว่า...
1. การรับรองสติไม่ใช่แค่การตรวจความจำ แต่คือ การคุ้มครองสิทธิ์ของผู้สูงอายุ
2. ความรักที่แท้จริง ไม่ใช่การบังคับให้เขาอยู่ตามที่เราต้องการ แต่คือการเคารพสิ่งที่เขาเลือกเอง
3. บ้านที่แท้จริง...ไม่ได้อยู่ที่กำแพงปูน แต่อยู่ที่หัวใจที่รู้สึกว่ามี “ที่พึ่งพิง”
ถ้าวันนี้คุณยังมีโอกาสอยู่ใกล้พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ลองถามเขาบ้างว่า เขาอยากอยู่แบบไหน บางที...สิ่งที่เขาต้องการ อาจไม่ใช่การ “ถูกดูแล” แต่อาจเป็นแค่...การ “ถูกเคารพ”

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่