หลังจากวางแผน >>
https://pantip.com/topic/43697033
และขอวีซ่าผ่าน >>
https://pantip.com/topic/43622882
Day 0 (วันเดินทาง)
เราก็ได้เวลาเริ่มเดินทางทริปเราซักที ก่อนหน้า 24 ชั่วโมง ทางผมก็ได้ทำการ Check In online ให้เรียบร้อยผ่านทางเว็บไซต์ของสายการบิน Qantas (ผมสำรองตั๋วผ่าน expedia)
แต่ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ความบันเทิงแรกก็มาเยือน โดยที่มีการแจ้งสถานะมาว่า Flight QF296 จะ Delay จากเดิม 18.10 เป็น 19.25 !!
ไฟล์เดิมที่ผมจอง QF296 18.10 BKK แล้วถึง SYD 06.25 ต่อด้วย SYD 07.50 ถึง 12.55 CHC
พอเห็นสถานการณ์ว่าดีเลย์จากไทยแล้ว 1 ชั่วโมง ในใจก็ตุ้มๆต่อมๆแล้ว ว่าจะไปเปลี่ยนเครื่องทันไหม คิดแบบไวๆ ก็เหลือแค่ 10 นาที !! แปลว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ทางผมเองก็ได้แต่โทรไปแจ้งกับทาง Budget (เบอร์อยู่ใน trip) ว่าสายการบินดีเลย์ เวลาที่จองรถไว้น่าจะไม่ทัน คาดว่าจะไปเอาประมาน 17.00 น. แทน กว่าจะติดต่อ รอสาย คุยกันไปมาได้ สุดท้าย.... โดน international call ไปอีกเกือบ 400 บาท
แต่แล้ว ก็ได้แค่ทำใจและไป Load กระเป๋ากันต่อ
ถึงหน้าเค้าเตอร์ ก็เช็คอินพร้อม Boarding pass ใหม่ 3 ใบ !! 2 connection flight !! ความตะลึงบังเกิด จอง 1 ต่อ แถมอีก 1 ต่อ ฮ่าาา ได้ตั๋วใหม่มา
QF296 BKK 19.25 - SYD 07.40
QF143 SYD 08.55 - AKL 14.05
NZ555 AKL 16.10 - CHC 17.35
แต่ทางเค้าเตอร์เค้าแจ้งว่า กระเป๋าต้องไปรับที่ AKL แล้วโหลดเองอีกรอบโดยเปลี่ยนจาก International เป็น Domestic !!

ไม่เป็นไรครับ ชีวิตต้องสู้ต่อ (ขาไปในเครื่องมี free wifi ให้ใช้บริการครับ) ไฟลท์กลางคืนขึ้นไปก็นั่งๆ นอนๆ แล้วไปสู้กันต่อในตอนเช้า คิดมากไปจะปวดหัวครับ
เครื่องแลนปุ๊ป เราก็รีบเดินเพื่อไปเปลี่ยนเครื่องในระหว่างทางก็เจอผู้ร่วมชะตากรรมเหมือนกันหลายคนอยู่ บางคนก็โดนแบบเรา แต่มีน้องอีกสองคนได้ตั๋วจากซิดนีย์เข้าไปไครส์เชิชเหมือนกัน ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ากดทันตอนไหน แต่น้องเค้าบอกว่ามีให้กดยืนยัน แต่ของผมที่จองผ่าน expedia ผมเห็นเองในเว็บก่อนที่ทาง expedia จะโทรมาแจ้งครับ
หนักกว่านั้น ไปถึงหน้าเกทเตรียมขึ้น QF143 เห็นพี่คนไทยก็รีบมาเหมือนกัน สรุปตามเวลาเข้า 08.25 เครื่องดีเลย์จ้า เค้าบอกไม่ต้องรีบ เดี๋ยวเรียกอีกที เอาว่าปวดหัวต่อจนไม่เครียดแล้วครับ สุดท้ายก็คิดอีกว่า NZ555 จะทันไหม !! ซึ่งถ้าตาม Boarding pass เค้าก็จะให้ขึ้นเครื่องประมาน 15.45 ครับ

ตามในภาพเลยครับ เครื่องดีเลย์ จอดไม่ทัน ยังไงก็เดินไปไม่ทัน เพราะต้องผ่าน ตม ต้องรับกระเป๋า !!! เอาวะ ค่อยไปสู้กันดาบหน้า แต่ผมลองกดเช็คไฟลท์ทั่วไปจาก AKL-CHC ส่วนใหญ่จะมีทุกชั่วโมง ก็เลยคิดในใจว่า ยังไงก็ถึงวันนี้หละวะ กี่โมงก็ช่างมัน
ห่วงแต่เรื่องรถกับที่พัก ก็เลยเสียค่าโทร Roaming ไปอีกรอบเพื่อแจ้งเขา (จริงๆ อาจจะไม่ต้องแจ้งก็ได้ เพราะว่าเค้าเตอร์ที่ CHC ปิดประมานตีหนึ่งตีสอง แต่ส่วนตัวแล้วกลัวครับ เลยโทรก่อน)
ส่วนพอเข้าประเทศนะเครื่อง เนื่องด้วย Visa เรายื่นมาเป็น Group เค้าจะแปะสติกเกอร์เหลืองๆ พร้อมนับจำนวนคนเราไว้ แล้วพาเข้าช่องกรุ๊ป ตรวจพร้อมกันได้เลยครับ อย่าลืมกรอกใบเข้าเมืองผ่านแอพ NZTD ครับ ทำง่ายมากไม่ถึง 5 นาทีครับผม ที่เหลือเดินผ่านโล่งๆเลย
ปล. ตอนตม. ถ้าใครอยากสแตมป์ให้ทำขาเข้านะครับ ขาออกเขาไม่มี

ผมพลาดขาเข้าไป ดันไปเข้าแบบสแกน passport แบบเมืองไทย เห็นไวดี กลัวต่อเครื่องไม่ทันครับ
พีคกว่านั้นช่วงที่ผมไปสนามบินกำลังปรับปรุงครับ การเดินทางจากอาคาร International ไปยังอาคาร Domestic จะต้องเดินตามเส้นเขียวบนพื้น (ประมาน 20 นาที) หรือนั่งรถบัสเอา ผมก็เลยพาแม่เดินครับ !! รับลมเย็น พร้อมยื่นเส้นยื่นสาย นั่งมานานเกินครับ ฮ๋า
เข้าไปถึงก็รีบติดต่อเค้าว่าเรามาจริงๆ ต้องต่อเครื่อง NZ555 แต่เนื่องด้วยสายการบินดีเลย์ เราเลยมาไม่ทัน เค้าก็ออก boarding pass ใบที่ 5 ให้กับทางเราครับ NZ563 AKL 18.10 ถึง CHC 19.35 !!! (จากเดิมถึง 12.55 ตอนนี้ถึง 19.35) แม่ก็พูดขึ้นมาว่า
นี่เราเดินทาง 24 ชั่วโมงเลยนะลูกกกก

ได้แต่บอกแม่ว่าครับ อีกนิดเดียวครับ เราจะถึงปลายทางแล้ว !!!
หลังจากเราถึง Christchruch เราก็ไปรับรถ และมีเรื่องประกันตามกระทู้ก่อนหน้าที่เล่าให้ฟังไป เราก็เลยแวะหาราเมงร้อนๆกินกันก่อนเข้าที่พัก ความพีคของการหาที่พักยามค่ำคืนก็คือ pin ที่ให้ไว้เป็นบ้านด้านหลัง พอไปถึงบ้านด้านหน้ามีคนจอดรถทับช่องอีก ฮ่าาาา วันแรกมันช่างแสนเหนื่อยจริงๆครับ เพื่อนบ้านรวมทั้งเจ้าของบ้าน airbnb ก็ติดต่อไว เลยไม่ใช่ประเด็นเท่าไหร่ครับ
มาถึงอากาศหนาวมากค่อนข้างเย็น ในที่พักส่วนมากที่นิวซีแลนด์ฮีตเตอร์จะเป็นแบบเสียบปลั๊กแยกห้อง หรือตามห้องน้ำจะติดตัวเล็กไว้ ผมเองก็แอบคิดว่ามันคงหนาวไม่นาน มีหนาวๆร้อนๆ เลยเป็นประมานนี้รึปล่าวนะครับ
ก็คือแผนที่จะเดินเล่นในเมือง แวะชมกอนโดลา บลาๆ วันแรกล่มสลายทั้งหมดครับ เข้าห้องก็ประมาน 3 ทุ่มกว่าๆแล้วครับผม
Day 1 (Christchruch - Greymouth)
ผมเองเป็นคนชอบดื่มกาแฟ เลยลองหาร้านในเมืองไว้ มีหลายร้านมากๆครับ แต่เนื่องด้วยมาหลายคนเลยว่าจะแวะกินอาหารก่อนเดินทาง จึงหมุดไปเลยที่ร้าน Hello Sunday ให้ท้ายครับ ไปถึงแล้วเป็นยังไง
ครับ โต๊ะเต็ม เนื่องจากกลุ่มเราเดินทาง 6 คน ฝนพร่ำในยามเช้าวันอาทิตย์ทำให้คนออกมาร้านเยอะหรือปล่าวน้ออออ แต่เรามีร้านสำรองครับ ผมเลยไปที่ร้าน Unknown Chapter Coffee Roasters แทนครับ
มาถึงก็เหมือนเดิมครับ เต็ม !!! คนเยอะจริงๆครับ เราเลยเลือกเป็น take away เพื่อไม่ให้เสียเวลาเดินทาง แล้วจะได้ไปกันต่อ ก็เลยแวะซื้อกาแฟและ pie มาครับผม ในระหว่างที่คนอื่นรอคิวและสั่งของอยู่ ผมก็เหลือบไปเห็นฝั่งตรงข้ามว่ามีร้าน bakery ชื่อว่า Bohemian Bakery Cafe ผมเลยแวะเข้าไปซื้อขนมปังไส้กรอกแบบแรนดอมมา อร่อยครับ !!! ลุงข้างหน้าตัดหน้าพายเนื้อไป เลยกินขนมปังไส้กรอกครับ

ปล.ที่จอดวันอาทิตย์จอดฟรี ไม่เสียเงินครับ

หลังจากซื้ออาหารกันจบ หมุดหมายต่อไปของเราที่ตั้งไว้ก็คือ Castle Hill ครับผม โดยระหว่างทางก็จะผ่านร้าน Sheffield Pie Shop (รถจอดตามรายทางเพียบเลยครับ) เราก็แวะซื้อสองชิ้นแล้วไปกันต่อครับ

ก่อนจะถึง Castle Hill มีเหมือนจุดจอดรถ แล้วมันสวยมากผมเองไม่ได้หมุดไว้ (อยู่บนถนนสาย 73 เลย spring field ออกมา) เดี๋ยวชมภาพกันเองดีกว่าครับ

มีทั้งคนพาหมามาเดินเล่น มีแม่พาลูกมาเล่น sled มีคนปั้น snow man ขว้าง snow ball ใส่กัน Welcome to New Zealand ครับผม
วันแรกก็จะตื่นเต้นเป็นธรรมดาหน่อยนะครับ เลยอาจจะแวะจอดตามจุดต่างๆหลายครั้งหน่อยครับผม หลังจากออกจากเมืองมาประมาน 1 ชั่วโมงครึ่ง เราก็ถึงที่หมายของเราครับ Castle Hill (ห้องน้ำที่นี่จะเป็นส้วมหลุมนะครับ)
ทางกลุ่มของเราก็เดินเล่นรอบๆหินจากที่จอดรถ ประมาน 1 ชั่วโมง แต่ที่นี่เดินไม่เหนื่อยครับ คุณแม่วัย 70 ยังสู้ไหวครับ แต่อาจจะต้องระวังลื่นนิดนึงครับ

หลังจากใช้เวลาท่ี่นี่จบ เราก็ปักหมุดไปกันต่อที่ปลายทางของเราอย่าง Greymouth ซึ่งจะผ่านเส้น Arthur's Pass ก็เป็นเวลาขับชิลๆเพื่อให้ไปถึงที่พักก่อนที่จะมืด วันนี้เราตัดสินใจที่จะทำอาหารเย็นกินกันเองก็เลยแวะ New World เพื่อซื้อเสบียงก่อน
แทรกว่าซุเปอร์มาเก็ตที่เจอแล้วแวะซื้อของก็จะมี New World, Woolworths, PAK'nSAVE, Four Square อันนี้คืออันที่ผมแวะเวลาหาซื้อตุนเสบียงครับ

ขอปิดวันเริ่มต้นการเดินทางด้วยภาพพระอาทิตย์ตกดินจากบ้าน airbnb ที่ Greymouth ครับ เจอกันต่อ EP.2 ครับผม
[CR] พาแม่เที่ยวเกาะใต้ New Zealand Aug 2025 EP.1
และขอวีซ่าผ่าน >> https://pantip.com/topic/43622882
Day 0 (วันเดินทาง)
เราก็ได้เวลาเริ่มเดินทางทริปเราซักที ก่อนหน้า 24 ชั่วโมง ทางผมก็ได้ทำการ Check In online ให้เรียบร้อยผ่านทางเว็บไซต์ของสายการบิน Qantas (ผมสำรองตั๋วผ่าน expedia)
แต่ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ความบันเทิงแรกก็มาเยือน โดยที่มีการแจ้งสถานะมาว่า Flight QF296 จะ Delay จากเดิม 18.10 เป็น 19.25 !!
ไฟล์เดิมที่ผมจอง QF296 18.10 BKK แล้วถึง SYD 06.25 ต่อด้วย SYD 07.50 ถึง 12.55 CHC
พอเห็นสถานการณ์ว่าดีเลย์จากไทยแล้ว 1 ชั่วโมง ในใจก็ตุ้มๆต่อมๆแล้ว ว่าจะไปเปลี่ยนเครื่องทันไหม คิดแบบไวๆ ก็เหลือแค่ 10 นาที !! แปลว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ทางผมเองก็ได้แต่โทรไปแจ้งกับทาง Budget (เบอร์อยู่ใน trip) ว่าสายการบินดีเลย์ เวลาที่จองรถไว้น่าจะไม่ทัน คาดว่าจะไปเอาประมาน 17.00 น. แทน กว่าจะติดต่อ รอสาย คุยกันไปมาได้ สุดท้าย.... โดน international call ไปอีกเกือบ 400 บาท
แต่แล้ว ก็ได้แค่ทำใจและไป Load กระเป๋ากันต่อ
ถึงหน้าเค้าเตอร์ ก็เช็คอินพร้อม Boarding pass ใหม่ 3 ใบ !! 2 connection flight !! ความตะลึงบังเกิด จอง 1 ต่อ แถมอีก 1 ต่อ ฮ่าาา ได้ตั๋วใหม่มา
QF296 BKK 19.25 - SYD 07.40
QF143 SYD 08.55 - AKL 14.05
NZ555 AKL 16.10 - CHC 17.35
แต่ทางเค้าเตอร์เค้าแจ้งว่า กระเป๋าต้องไปรับที่ AKL แล้วโหลดเองอีกรอบโดยเปลี่ยนจาก International เป็น Domestic !!
ไม่เป็นไรครับ ชีวิตต้องสู้ต่อ (ขาไปในเครื่องมี free wifi ให้ใช้บริการครับ) ไฟลท์กลางคืนขึ้นไปก็นั่งๆ นอนๆ แล้วไปสู้กันต่อในตอนเช้า คิดมากไปจะปวดหัวครับ
เครื่องแลนปุ๊ป เราก็รีบเดินเพื่อไปเปลี่ยนเครื่องในระหว่างทางก็เจอผู้ร่วมชะตากรรมเหมือนกันหลายคนอยู่ บางคนก็โดนแบบเรา แต่มีน้องอีกสองคนได้ตั๋วจากซิดนีย์เข้าไปไครส์เชิชเหมือนกัน ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ากดทันตอนไหน แต่น้องเค้าบอกว่ามีให้กดยืนยัน แต่ของผมที่จองผ่าน expedia ผมเห็นเองในเว็บก่อนที่ทาง expedia จะโทรมาแจ้งครับ
หนักกว่านั้น ไปถึงหน้าเกทเตรียมขึ้น QF143 เห็นพี่คนไทยก็รีบมาเหมือนกัน สรุปตามเวลาเข้า 08.25 เครื่องดีเลย์จ้า เค้าบอกไม่ต้องรีบ เดี๋ยวเรียกอีกที เอาว่าปวดหัวต่อจนไม่เครียดแล้วครับ สุดท้ายก็คิดอีกว่า NZ555 จะทันไหม !! ซึ่งถ้าตาม Boarding pass เค้าก็จะให้ขึ้นเครื่องประมาน 15.45 ครับ
ตามในภาพเลยครับ เครื่องดีเลย์ จอดไม่ทัน ยังไงก็เดินไปไม่ทัน เพราะต้องผ่าน ตม ต้องรับกระเป๋า !!! เอาวะ ค่อยไปสู้กันดาบหน้า แต่ผมลองกดเช็คไฟลท์ทั่วไปจาก AKL-CHC ส่วนใหญ่จะมีทุกชั่วโมง ก็เลยคิดในใจว่า ยังไงก็ถึงวันนี้หละวะ กี่โมงก็ช่างมัน
ห่วงแต่เรื่องรถกับที่พัก ก็เลยเสียค่าโทร Roaming ไปอีกรอบเพื่อแจ้งเขา (จริงๆ อาจจะไม่ต้องแจ้งก็ได้ เพราะว่าเค้าเตอร์ที่ CHC ปิดประมานตีหนึ่งตีสอง แต่ส่วนตัวแล้วกลัวครับ เลยโทรก่อน)
ส่วนพอเข้าประเทศนะเครื่อง เนื่องด้วย Visa เรายื่นมาเป็น Group เค้าจะแปะสติกเกอร์เหลืองๆ พร้อมนับจำนวนคนเราไว้ แล้วพาเข้าช่องกรุ๊ป ตรวจพร้อมกันได้เลยครับ อย่าลืมกรอกใบเข้าเมืองผ่านแอพ NZTD ครับ ทำง่ายมากไม่ถึง 5 นาทีครับผม ที่เหลือเดินผ่านโล่งๆเลย
ปล. ตอนตม. ถ้าใครอยากสแตมป์ให้ทำขาเข้านะครับ ขาออกเขาไม่มี
พีคกว่านั้นช่วงที่ผมไปสนามบินกำลังปรับปรุงครับ การเดินทางจากอาคาร International ไปยังอาคาร Domestic จะต้องเดินตามเส้นเขียวบนพื้น (ประมาน 20 นาที) หรือนั่งรถบัสเอา ผมก็เลยพาแม่เดินครับ !! รับลมเย็น พร้อมยื่นเส้นยื่นสาย นั่งมานานเกินครับ ฮ๋า
เข้าไปถึงก็รีบติดต่อเค้าว่าเรามาจริงๆ ต้องต่อเครื่อง NZ555 แต่เนื่องด้วยสายการบินดีเลย์ เราเลยมาไม่ทัน เค้าก็ออก boarding pass ใบที่ 5 ให้กับทางเราครับ NZ563 AKL 18.10 ถึง CHC 19.35 !!! (จากเดิมถึง 12.55 ตอนนี้ถึง 19.35) แม่ก็พูดขึ้นมาว่า นี่เราเดินทาง 24 ชั่วโมงเลยนะลูกกกก
ได้แต่บอกแม่ว่าครับ อีกนิดเดียวครับ เราจะถึงปลายทางแล้ว !!!
หลังจากเราถึง Christchruch เราก็ไปรับรถ และมีเรื่องประกันตามกระทู้ก่อนหน้าที่เล่าให้ฟังไป เราก็เลยแวะหาราเมงร้อนๆกินกันก่อนเข้าที่พัก ความพีคของการหาที่พักยามค่ำคืนก็คือ pin ที่ให้ไว้เป็นบ้านด้านหลัง พอไปถึงบ้านด้านหน้ามีคนจอดรถทับช่องอีก ฮ่าาาา วันแรกมันช่างแสนเหนื่อยจริงๆครับ เพื่อนบ้านรวมทั้งเจ้าของบ้าน airbnb ก็ติดต่อไว เลยไม่ใช่ประเด็นเท่าไหร่ครับ
มาถึงอากาศหนาวมากค่อนข้างเย็น ในที่พักส่วนมากที่นิวซีแลนด์ฮีตเตอร์จะเป็นแบบเสียบปลั๊กแยกห้อง หรือตามห้องน้ำจะติดตัวเล็กไว้ ผมเองก็แอบคิดว่ามันคงหนาวไม่นาน มีหนาวๆร้อนๆ เลยเป็นประมานนี้รึปล่าวนะครับ
ก็คือแผนที่จะเดินเล่นในเมือง แวะชมกอนโดลา บลาๆ วันแรกล่มสลายทั้งหมดครับ เข้าห้องก็ประมาน 3 ทุ่มกว่าๆแล้วครับผม
Day 1 (Christchruch - Greymouth)
ผมเองเป็นคนชอบดื่มกาแฟ เลยลองหาร้านในเมืองไว้ มีหลายร้านมากๆครับ แต่เนื่องด้วยมาหลายคนเลยว่าจะแวะกินอาหารก่อนเดินทาง จึงหมุดไปเลยที่ร้าน Hello Sunday ให้ท้ายครับ ไปถึงแล้วเป็นยังไง
ครับ โต๊ะเต็ม เนื่องจากกลุ่มเราเดินทาง 6 คน ฝนพร่ำในยามเช้าวันอาทิตย์ทำให้คนออกมาร้านเยอะหรือปล่าวน้ออออ แต่เรามีร้านสำรองครับ ผมเลยไปที่ร้าน Unknown Chapter Coffee Roasters แทนครับ
มาถึงก็เหมือนเดิมครับ เต็ม !!! คนเยอะจริงๆครับ เราเลยเลือกเป็น take away เพื่อไม่ให้เสียเวลาเดินทาง แล้วจะได้ไปกันต่อ ก็เลยแวะซื้อกาแฟและ pie มาครับผม ในระหว่างที่คนอื่นรอคิวและสั่งของอยู่ ผมก็เหลือบไปเห็นฝั่งตรงข้ามว่ามีร้าน bakery ชื่อว่า Bohemian Bakery Cafe ผมเลยแวะเข้าไปซื้อขนมปังไส้กรอกแบบแรนดอมมา อร่อยครับ !!! ลุงข้างหน้าตัดหน้าพายเนื้อไป เลยกินขนมปังไส้กรอกครับ
ปล.ที่จอดวันอาทิตย์จอดฟรี ไม่เสียเงินครับ
หลังจากซื้ออาหารกันจบ หมุดหมายต่อไปของเราที่ตั้งไว้ก็คือ Castle Hill ครับผม โดยระหว่างทางก็จะผ่านร้าน Sheffield Pie Shop (รถจอดตามรายทางเพียบเลยครับ) เราก็แวะซื้อสองชิ้นแล้วไปกันต่อครับ
ก่อนจะถึง Castle Hill มีเหมือนจุดจอดรถ แล้วมันสวยมากผมเองไม่ได้หมุดไว้ (อยู่บนถนนสาย 73 เลย spring field ออกมา) เดี๋ยวชมภาพกันเองดีกว่าครับ
มีทั้งคนพาหมามาเดินเล่น มีแม่พาลูกมาเล่น sled มีคนปั้น snow man ขว้าง snow ball ใส่กัน Welcome to New Zealand ครับผม
วันแรกก็จะตื่นเต้นเป็นธรรมดาหน่อยนะครับ เลยอาจจะแวะจอดตามจุดต่างๆหลายครั้งหน่อยครับผม หลังจากออกจากเมืองมาประมาน 1 ชั่วโมงครึ่ง เราก็ถึงที่หมายของเราครับ Castle Hill (ห้องน้ำที่นี่จะเป็นส้วมหลุมนะครับ)
ทางกลุ่มของเราก็เดินเล่นรอบๆหินจากที่จอดรถ ประมาน 1 ชั่วโมง แต่ที่นี่เดินไม่เหนื่อยครับ คุณแม่วัย 70 ยังสู้ไหวครับ แต่อาจจะต้องระวังลื่นนิดนึงครับ
หลังจากใช้เวลาท่ี่นี่จบ เราก็ปักหมุดไปกันต่อที่ปลายทางของเราอย่าง Greymouth ซึ่งจะผ่านเส้น Arthur's Pass ก็เป็นเวลาขับชิลๆเพื่อให้ไปถึงที่พักก่อนที่จะมืด วันนี้เราตัดสินใจที่จะทำอาหารเย็นกินกันเองก็เลยแวะ New World เพื่อซื้อเสบียงก่อน
แทรกว่าซุเปอร์มาเก็ตที่เจอแล้วแวะซื้อของก็จะมี New World, Woolworths, PAK'nSAVE, Four Square อันนี้คืออันที่ผมแวะเวลาหาซื้อตุนเสบียงครับ
ขอปิดวันเริ่มต้นการเดินทางด้วยภาพพระอาทิตย์ตกดินจากบ้าน airbnb ที่ Greymouth ครับ เจอกันต่อ EP.2 ครับผม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้