วิจารณ์ฮือฮา ชาวบ้านได้เงินเยียวยา 73 บาท เหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
.
.
วันนี้ (22 ส.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหลังหนึ่ง ต.โนนสำราญ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พบว่ามีครอบครัวที่ได้รับเงินเยียวยาเพียง 73 บาท จากการประเมินความเสียหาย ผลกระทบจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เนื่องจากพบความเสียหายหลังคาสังกะสีเป็นรูจากกระสุนปืนไม่ทราบชนิดจำนวน 1 จุด เป็นรอยฉีกยาวประมาณ 1 คืบ กระทั่งมีชาวบ้านนำไปโพสต์บนโลกออนไลน์ถึงเรื่องค่าชดเชยเยียวยาที่ไม่เหมาะสมดังกล่าว
.
นายเรือง สวัสดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.โนนสำราญ เปิดเผยว่า การประเมินความเสียหายลักษณะนี้ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะวัสดุอย่างสังกะสี หากเกิดรูเสียหายก็ควรเปลี่ยนทั้งแผ่น แต่การประเมินแบบนี้ทำให้การช่วยเหลือดูไม่เหมาะสมและไม่เพียงพอ
.
ด้าน นางจำเนียร อายุ 50 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ที่ต้องอพยพไปอยู่ศูนย์พักพิงเป็นเวลานาน บอกว่า ตนมีอาชีพกรีดยางพารา แต่ไม่สามารถทำงานได้สะดวกเหมือนเดิม เพราะสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย ต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก และหวังให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเยียวยาครอบครัวที่ได้รับผลกระทบโดยเร็ว
.
ขณะที่ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ตนได้ลงพื้นที่ติดตามการเยียวยาทุกวัน โดยยืนยันว่าการช่วยเหลือเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ผู้ที่เสียหายเล็กน้อยจะได้รับเงินชดเชย แต่หากบ้านเรือนไม่สามารถซ่อมเองได้ จะมีทีมช่างจากหลายหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือ พร้อมกำชับให้ท้องถิ่นเร่งช่วยเหลือครัวเรือนที่เดือดร้อนรุนแรงก่อน เช่น บ้านที่พังจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ทั้งนี้ ทุกภาคส่วนได้ช่วยกันดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ และตนลงพื้นที่ติดตามอย่างต่อเนื่องทุกวัน เพื่อให้การเยียวยาเป็นไปอย่างทั่วถึง
.
.
กต.ยันเขมรละเมิด MOU43 “บ้านหนองจาน” – ยื่นหลักฐานเพิ่มออตตาวา
https://www.innnews.co.th/news/news_922728/
.
กต. ยันเขมรละเมิด MOU43 บ้านหนองจาน ไทยประท้วงมาตลอด เตรียมยื่นหลักฐานเพิ่มประชุม “อนุสัญญาออตตาวา” กัมพูชาละเมิดข้อตกลงวางทุ่นระเบิด
.
กระทรวงการต่างประเทศ โดยนายนิกรเดช พลางกูร โฆษก กต. และนายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ร่วมแถลงกรณีกัมพูชากล่าวหาว่าไทยล้ำแดนด้วยการวางรั้วลวดหนาม บริเวณบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว
.
โฆษก กต. ชี้แจงว่า พื้นที่ดังกล่าวเดิมเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวของชาวกัมพูชาหนีภัยสงคราม (พ.ศ.2524) ซึ่งต่อมาฝั่งกัมพูชาขยายชุมชนและตั้งหน่วยงานทางการเอง ถือว่าผิดข้อตกลง MOU 43 และไทยได้ประท้วงมาโดยตลอด โดยเฉพาะปี 2560 ที่มีการชักธงกัมพูชา ฝ่ายไทยเคยทักท้วงให้ปลดลง แต่กัมพูชาเพิกเฉย
.
ด้านอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ ระบุ บ้านหนองจานอยู่ระหว่างหลักเขตที่ 46–47 ซึ่งยืนยันตามกฎหมายระหว่างประเทศว่าเป็นเขตแดนไทย ไทยอนุญาตให้ชาวกัมพูชาอยู่ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมเท่านั้น ไม่ใช่การยอมรับสิทธิครอบครอง ทั้งนี้การวางรั้วลวดหนามอยู่ในเขตไทยเพื่อคุ้มครองความปลอดภัย ป้องกันการวางทุ่นระเบิด และไม่กระทบกระบวนการปักปันเขตแดน
.
ทั้งสองฝ่ายย้ำตรงกันว่า ไทยไม่เคยยอมรับการตั้งหน่วยงานทางการหรือการชักธงกัมพูชาในพื้นที่ดังกล่าว ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและผิดข้อ 5 ของ MOU 43 ชัดเจน
.
นอกจากนี้ นายเบญจมินทร์ ยังเปิดเผยด้วยว่า ไทยกำลังรอคำตอบจากการประชุมคณะกรรมการ Committee on Cooperative Compliance ภายใต้อนุสัญญาออตตาวา ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังได้แจ้งปัญหาการกระทำของกัมพูชาที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลงไว้แล้ว
.
ด้านนายนิกรเดช ยืนยันว่า นางสาวอุศณา พีรานนท์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยฯ ประจำสหประชาชาติ ณ เจนีวา จะเข้าร่วมการประชุม พร้อมยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อบังคับให้รัฐภาคี
.
ปฏิบัติตามอนุสัญญา ขณะเดียวกัน ยังระบุว่า ความคิดเห็นของคณะทูตที่ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ยืนยันได้ว่า ไทยถูกกระทำ ถือเป็นผลดีและช่วยเพิ่มน้ำหนักในเวทีระหว่างประเทศ
.
นายเบญจมินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยได้ประท้วงกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง แม้ยังไม่ได้รับการตอบสนอง แต่ยืนยันการดำเนินการทั้งหมดอยู่บนหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และอ้างอิงตาม MOU 43 ที่ห้ามเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศในพื้นที่พิพาท
.
.
“วันนอร์” อ้างประสานงานผิดพลาด “ไชยา” ปิดประชุมก่อนถกญัตติด่วน MOU43-44 มั่นใจไม่ใช่เกมการเมือง
https://ch3plus.com/news/political/morning/446285
.
“วันนอร์” อ้างประสานงานผิดพลาด หลัง “ไชยา” ปิดประชุมก่อนถกญัตติด่วน MOU43-44 มั่นใจไม่ใช่เกมการเมือง เหตุหน้าที่ประธานต้องไม่มีใครสั่งปิดประชุมได้ เชื่อทำหน้าที่เป็นกลาง มีความคิดอิสระ
.
วันที่ 22 ส.ค.2568 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ปิดการประชุมก่อนที่จะมีการพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย ว่า เมื่อเช้าจากที่ได้สอบถามเลขาธิการสภาฯและรองเลขาธิการสภาฯ ทราบเป็นการประสานงานที่ผิดพลาด เข้าใจว่า เมื่อจบการรับทราบรายงานแล้ว จะเป็นเรื่องที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว แต่ กมธ.ตำรวจ ยังไม่พร้อมที่จะรายงาน ก็สามารถที่จะเข้าญัตติด่วนได้
.
แต่เมื่อวาน (21 ส.ค.) มีการประสานงานระหว่างฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลกับหน้าบัลลังก์ ผู้ทำหน้าที่ประธาน อาจจะเข้าใจผิดกันว่าหมดวาระแล้ว จึงปิดประชุม ซึ่งไม่มีการแจ้งให้ประธานในที่ประชุมทราบล่วงหน้า ว่าจะดำเนินการเรื่องอะไร ประธานก็อาจจะเข้าใจว่า ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว เพราะเรื่องที่ กมธ.พิจารณาเสร็จแล้ว ก็ไม่มีรายงานเข้ามา ดังนั้น เป็นเรื่องเข้าใจผิดในการประสานงาน หากเลื่อนญัตติขึ้นมาพิจารณาก็ไม่มีปัญหาอะไร ทำให้ครั้งนี้เป็นบทเรียน ว่า ต้องมีการประสานงานที่ชัดเจน จากวิปฝ่ายรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน
..
เมื่อถามว่านายไชยา เป็นผู้ไปรับหนังสือจากผู้ชุมนุมที่หน้าสภาฯด้วยตัวเอง จะสำคัญผิดในเรื่องนี้ได้อย่างไร นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า การรับหนังสือก็เป็นส่วนหนึ่ง ส่วนวาระการประชุมสภาก็เป็นไปตามระเบียบวาระการประชุม และย้ำว่าขณะนั้นไม่มีรายงานการศึกษาของ กมธ.แล้ว
.
“หากในช่วงนั้นมีการเสนอญัตติในเรื่องชายแดน หรือ MOU ก็คงจะพิจารณา แต่จากที่ทราบคือการประสานงานยังไม่มีความชัดเจน ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคงก็ต้องมีการประชุมลับ ฉะนั้นขอให้วิปทั้งสองฝ่ายประสานงานกันอย่างชัดเจน สัปดาห์หน้าวันพฤหัสบดีก็สามารถเสนอเข้ามาได้แต่ถ้า ไม่ประสานงานกันตนก็เสียดาย มองแล้วเป็นญัตติที่มีประโยชน์” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
.
เมื่อถามว่ารองประธานสภาฯ มาจากพรรคเพื่อไทย อาจเป็นข้อครหาหรือไม่ว่าเป็นเกมการเมืองชิงปิดสภาฯ ไปก่อนมากกว่าเรื่องความผิดพลาดด้านการประสานงาน นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะเป็นเกมการเมือง เพราะนายไชยา เป็นคนมีเหตุมีผล แล้วมีความเห็นอิสระ เคร่งครัดต่อการปฏิบัติหน้าที่ อาจจะเข้าใจผิดจริงๆ เพราะเมื่อทำหน้าที่ตรงนั้นไม่มีเรื่องแล้วก็เห็นสมควรให้ปิด ไม่ได้รับคำสั่งให้ปิดประชุมสภา หากจะผิดพลาดอย่างไรก็เป็นความเข้าใจผิด
.
ตนเองในฐานะประธานสภาก็ต้องขออภัย อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งหน้า ต้องแก้ไขในเรื่องนี้ให้ดียิ่งขึ้น เช่น กองการประชุมต้องประสานงานให้กับผู้ที่ทำหน้าที่ประธานในการประชุมให้ทราบทุกระยะ ซึ่งตนเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของนายไชยา ว่าทำหน้าที่เป็นกลาง
JJNY : ฮือฮา ได้เงินเยียวยา 73 บ.│กต.ยันเขมรละเมิด MOU43│“วันนอร์” อ้างประสานงานผิดพลาด│เขมรฟ้องทูต-องค์กรระหว่างประเทศ
.
นายเรือง สวัสดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.โนนสำราญ เปิดเผยว่า การประเมินความเสียหายลักษณะนี้ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะวัสดุอย่างสังกะสี หากเกิดรูเสียหายก็ควรเปลี่ยนทั้งแผ่น แต่การประเมินแบบนี้ทำให้การช่วยเหลือดูไม่เหมาะสมและไม่เพียงพอ
.
ด้าน นางจำเนียร อายุ 50 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ที่ต้องอพยพไปอยู่ศูนย์พักพิงเป็นเวลานาน บอกว่า ตนมีอาชีพกรีดยางพารา แต่ไม่สามารถทำงานได้สะดวกเหมือนเดิม เพราะสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย ต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก และหวังให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเยียวยาครอบครัวที่ได้รับผลกระทบโดยเร็ว
.
ขณะที่ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ตนได้ลงพื้นที่ติดตามการเยียวยาทุกวัน โดยยืนยันว่าการช่วยเหลือเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ผู้ที่เสียหายเล็กน้อยจะได้รับเงินชดเชย แต่หากบ้านเรือนไม่สามารถซ่อมเองได้ จะมีทีมช่างจากหลายหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือ พร้อมกำชับให้ท้องถิ่นเร่งช่วยเหลือครัวเรือนที่เดือดร้อนรุนแรงก่อน เช่น บ้านที่พังจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ทั้งนี้ ทุกภาคส่วนได้ช่วยกันดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ และตนลงพื้นที่ติดตามอย่างต่อเนื่องทุกวัน เพื่อให้การเยียวยาเป็นไปอย่างทั่วถึง
.
.
ปฏิบัติตามอนุสัญญา ขณะเดียวกัน ยังระบุว่า ความคิดเห็นของคณะทูตที่ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ยืนยันได้ว่า ไทยถูกกระทำ ถือเป็นผลดีและช่วยเพิ่มน้ำหนักในเวทีระหว่างประเทศ
.
“วันนอร์” อ้างประสานงานผิดพลาด “ไชยา” ปิดประชุมก่อนถกญัตติด่วน MOU43-44 มั่นใจไม่ใช่เกมการเมือง
https://ch3plus.com/news/political/morning/446285
.
“วันนอร์” อ้างประสานงานผิดพลาด หลัง “ไชยา” ปิดประชุมก่อนถกญัตติด่วน MOU43-44 มั่นใจไม่ใช่เกมการเมือง เหตุหน้าที่ประธานต้องไม่มีใครสั่งปิดประชุมได้ เชื่อทำหน้าที่เป็นกลาง มีความคิดอิสระ
.
วันที่ 22 ส.ค.2568 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ปิดการประชุมก่อนที่จะมีการพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย ว่า เมื่อเช้าจากที่ได้สอบถามเลขาธิการสภาฯและรองเลขาธิการสภาฯ ทราบเป็นการประสานงานที่ผิดพลาด เข้าใจว่า เมื่อจบการรับทราบรายงานแล้ว จะเป็นเรื่องที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว แต่ กมธ.ตำรวจ ยังไม่พร้อมที่จะรายงาน ก็สามารถที่จะเข้าญัตติด่วนได้
.
แต่เมื่อวาน (21 ส.ค.) มีการประสานงานระหว่างฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลกับหน้าบัลลังก์ ผู้ทำหน้าที่ประธาน อาจจะเข้าใจผิดกันว่าหมดวาระแล้ว จึงปิดประชุม ซึ่งไม่มีการแจ้งให้ประธานในที่ประชุมทราบล่วงหน้า ว่าจะดำเนินการเรื่องอะไร ประธานก็อาจจะเข้าใจว่า ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว เพราะเรื่องที่ กมธ.พิจารณาเสร็จแล้ว ก็ไม่มีรายงานเข้ามา ดังนั้น เป็นเรื่องเข้าใจผิดในการประสานงาน หากเลื่อนญัตติขึ้นมาพิจารณาก็ไม่มีปัญหาอะไร ทำให้ครั้งนี้เป็นบทเรียน ว่า ต้องมีการประสานงานที่ชัดเจน จากวิปฝ่ายรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน
..
เมื่อถามว่านายไชยา เป็นผู้ไปรับหนังสือจากผู้ชุมนุมที่หน้าสภาฯด้วยตัวเอง จะสำคัญผิดในเรื่องนี้ได้อย่างไร นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า การรับหนังสือก็เป็นส่วนหนึ่ง ส่วนวาระการประชุมสภาก็เป็นไปตามระเบียบวาระการประชุม และย้ำว่าขณะนั้นไม่มีรายงานการศึกษาของ กมธ.แล้ว
.
“หากในช่วงนั้นมีการเสนอญัตติในเรื่องชายแดน หรือ MOU ก็คงจะพิจารณา แต่จากที่ทราบคือการประสานงานยังไม่มีความชัดเจน ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคงก็ต้องมีการประชุมลับ ฉะนั้นขอให้วิปทั้งสองฝ่ายประสานงานกันอย่างชัดเจน สัปดาห์หน้าวันพฤหัสบดีก็สามารถเสนอเข้ามาได้แต่ถ้า ไม่ประสานงานกันตนก็เสียดาย มองแล้วเป็นญัตติที่มีประโยชน์” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
.
เมื่อถามว่ารองประธานสภาฯ มาจากพรรคเพื่อไทย อาจเป็นข้อครหาหรือไม่ว่าเป็นเกมการเมืองชิงปิดสภาฯ ไปก่อนมากกว่าเรื่องความผิดพลาดด้านการประสานงาน นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะเป็นเกมการเมือง เพราะนายไชยา เป็นคนมีเหตุมีผล แล้วมีความเห็นอิสระ เคร่งครัดต่อการปฏิบัติหน้าที่ อาจจะเข้าใจผิดจริงๆ เพราะเมื่อทำหน้าที่ตรงนั้นไม่มีเรื่องแล้วก็เห็นสมควรให้ปิด ไม่ได้รับคำสั่งให้ปิดประชุมสภา หากจะผิดพลาดอย่างไรก็เป็นความเข้าใจผิด
.
ตนเองในฐานะประธานสภาก็ต้องขออภัย อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งหน้า ต้องแก้ไขในเรื่องนี้ให้ดียิ่งขึ้น เช่น กองการประชุมต้องประสานงานให้กับผู้ที่ทำหน้าที่ประธานในการประชุมให้ทราบทุกระยะ ซึ่งตนเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของนายไชยา ว่าทำหน้าที่เป็นกลาง