วินบุรุษภูมะเขือ (เรื่องแต่งขึ้นมา)

ณ ที่ราบเชิงภูมะเขือ จังหวัดอุบลราชธานี สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย ผสมปนเปกับคราบเลือดและดินโคลน ร้อยเอก ฤทธิ์ นายทหารหนุ่มหน่วยรบพิเศษ มองไปยังร่างไร้วิญญาณของ สิบโท ชาติ เพื่อนรักที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ชาติจากไปแล้ว...จากไปในสมรภูมิรบอันโหดร้ายแห่งนี้ เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยและประชาธิปไตยที่พวกเขารัก
ฤทธิ์และชาติเข้ารับราชการทหารด้วยกัน พวกเขาผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตลอด ความผูกพันของทั้งสองแน่นแฟ้นยิ่งกว่าพี่น้องแท้ๆ แต่ในวันนี้ ชาติต้องมาสังเวยชีวิตให้กับคมกระสุนของทหารกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย
การสู้รบบนภูมะเขือทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ ทหารกัมพูชาตัดสินใจบุกโจมตีอย่างหนักหน่วง หวังจะยึดครองพื้นที่นี้ให้ได้ ฤทธิ์และหน่วยรบพิเศษของเขาต่อสู้อย่างสุดกำลัง พวกเขาเสียเปรียบด้านกำลังพล แต่ด้วยความรักชาติและความเสียสละ พวกเขาไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว
ความสูญเสียไม่ได้หยุดอยู่แค่ชาติ ทหารไทยหลายนายต้องล้มตาย เลือดสีแดงฉานย้อมผืนดิน เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังก้องไปทั่วสมรภูมิ ฤทธิ์กัดฟันกรอด ความแค้นและความเสียใจถาโถมเข้ามาในใจ แต่เขารู้ดีว่าเขาต้องเข้มแข็ง ต้องนำพาทหารที่เหลืออยู่ต่อสู้ต่อไป เพื่อชาติ เพื่อเพื่อน และเพื่อประชาธิปไตย
แต่แล้วสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น ทหารกัมพูชาสามารถตีฝ่าแนวป้องกันเข้ามาได้ และสามารถยึดครองเนินสำคัญบางแห่งบนภูมะเขือ รวมถึงพื้นที่ที่เคยเป็นของไทยมาแต่ช้านาน ข่าวร้ายนี้สร้างความเสียใจและความโกรธแค้นให้กับคนไทยทั้งประเทศ
ฤทธิ์มองไปยังธงชาติกัมพูชาที่ปักอยู่บนยอดเนิน หัวใจของเขารวดร้าวราวกับถูกกรีดด้วยมีดโกน เขาจำได้ว่าชาติเคยพูดไว้ว่า “ไอ้ฤทธิ์เอ๊ย แผ่นดินไทยของเรา ต่อให้เลือดหยดสุดท้าย กูจะรักษาไว้” คำพูดของเพื่อนดังก้องอยู่ในหู ฤทธิ์รู้ว่าเขาไม่สามารถปล่อยให้ดินแดนของบรรพบุรุษต้องตกอยู่ในมือของคนอื่น
ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว ฤทธิ์รวบรวมกำลังพลที่เหลืออยู่ เขาปลุกเร้าให้ทุกคนลุกขึ้นสู้อีกครั้ง “พวกเราจะยอมให้เพื่อนต้องตายฟรีหรือ จะยอมให้แผ่นดินของเราต้องถูกยึดไปหรือไง ลุกขึ้นสู้! เราจะทวงทุกตารางนิ้วของแผ่นดินไทยกลับคืนมา!” เสียงของฤทธิ์กึกก้องกังวาน
ภายใต้สายฝนที่ยังคงตกหนัก ฤทธิ์นำหน่วยรบพิเศษเข้าโจมตีฐานที่มั่นของทหารกัมพูชาอย่างไม่ย่อท้อ พวกเขาแทรกซึมเข้าไปในแนวข้าศึกอย่างเงียบเชียบ การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด เลือดเนื้อและชีวิตถูกแลกด้วยผืนดินทุกตารางนิ้ว ฤทธิ์เองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขายังคงกัดฟันทน สั่งการรบอย่างไม่ลดละ
ในที่สุด ด้วยความกล้าหาญและความเสียสละอย่างหาที่สุดมิได้ ทหารไทยก็สามารถตีโต้กลับและยึดเนินสำคัญคืนมาได้ ธงชาติไทยโบกสะบัดอีกครั้งบนยอดภูมะเขือ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีของทหารกล้า
ฤทธิ์ทรุดกายลงข้างร่างของชาติ น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลอาบแก้ม เขาจับมือเพื่อนที่เย็นเฉียบแล้วกระซิบเบาๆ “ชาติ...พวกเราทำสำเร็จแล้ว เรายึดแผ่นดินของเราคืนมาได้แล้ว” แม้จะได้รับชัยชนะ แต่ความสูญเสียก็ยังคงเป็นบาดแผลลึกในใจของฤทธิ์และทหารไทยทุกคน พวกเขาต้องสูญเสียเพื่อนรักและผืนดินบางส่วนไปในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ด้วยความกล้าหาญและความรักชาติ พวกเขาก็สามารถเอาชนะข้าศึกและปกป้องผืนแผ่นดินไทยไว้ได้ตลอดไป
ชัยชนะบนภูมะเขือไม่ได้มาง่ายๆ มันแลกมาด้วยเลือด เนื้อ และน้ำตา ของทหารไทยผู้กล้าหาญ พวกเขาคือวีรบุรุษผู้เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องประชาธิปไตยและผืนแผ่นดินอันเป็นที่รักยิ่งของพวกเขา เรื่องราวของพวกเขาจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของชาติไทยตลอดกาล


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่